ทำเอาฮือฮาเลยทีเดียว สำหรับพิธีกรคนดัง อั๋น ภูวนาท หลังมีภาพถ่ายคู่รถหรู เคอนิกเซกก์ แต่กลับถูกแซะว่าอวดรวยมีเงินซื้อรถ 140 ล้าน กลับบ่นว่าค่าไฟแพง มีเงินเยอะขนาดนั้นทำไมไม่เอามาช่วยคนจน
ล่าสุด (4 พฤษภาคม 2566) อั๋น ก็ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า รถคันนี้ มีทั้งหมด 6 คันในเมืองไทย 300 คันทั่วโลก ซึ่งจะให้พูดชัด ๆ คือยังไม่มีใครได้รถ ยังไม่มีใครต้องจ่ายเงิน ที่ได้ทั้งหมดคือสิทธิ์ในการจองแค่นั้นเอง
ถ้าดูที่ตนเขียน คือให้ผ่อน 100 ปีไหม คือแค่ได้สิทธิ์ในการจอง เขายังไม่สามารถยืนยันได้ด้วยว่าจะได้เมื่อไหร่ เพราะ 1 ปีเขาผลิตได้ 25 คัน และต้องกระจายไปทั่วโลก คันที่เห็นนั่นแค่รถต้นแบบ คันนั้นมีอุปกรณ์ทุกอย่าง 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีเครื่องยนต์ ยังไม่ต้องตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ เราแค่จองไว้
ส่วนสาเหตุที่สนใจคันนี้ เพราะมันไม่มีวันขาดทุน ซื้อเพื่อการลงทุน ด้วยความที่มันลิมิเต็ดมาก ถ้าจะมองว่ามันคือการลงทุน มันคือการลงทุนที่ปลอดภัย ถ้าปล่อยก็มีคนรอซื้อร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเขามีลิสต์ไว้อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ถ้าของพวกนี้ ถ้าได้ของมาแล้วค่อยปล่อย ได้กำไรเยอะกว่า
วันนั้นที่ถ่ายรูปคือนอกจากสิทธิ์ในการจอง ก็มีผู้บริหารของเคอนิกเซกก์เขาบินมาพอดี ก็มีการแสดงความยินดีกัน มันเป็นไฮเปอร์คาร์ที่มีคอนเซ็ปต์สำหรับครอบครัว ก็เลยพอดีกับเรา เขาก็ขอว่าช่วยโพสต์หน่อยได้ไหม ซึ่งมันก็เลยออกมาเหมือนเราจ่ายไปแล้ว 140 ล้าน แต่ตนไม่มีเงินหรอก แต่ถึงมีหรือไม่มีไม่สำคัญ แต่ยังไม่ได้ซื้อก็แล้วกัน แค่ได้สิทธิ์ในการจองเท่านั้นเอง
ถ้าใครจะว่าอวดรวย ก็ว่าอะไรไม่ได้ ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่จริง ๆ ถ้าใครตามเราจริง ๆ จะรู้ว่าตนไม่ได้อวดรวย ตนไม่ได้ถ่ายรูปกับพวงมาลัยรถ ไม่ได้ถ่ายรูปโชว์นาฬิกา โชว์แหวน เสื้อก็ไม่ใส่ให้มีโลโก้ หรือทำแบบนั้นก็ไม่ผิด ต่อให้ใครทำแบบนั้นก็ไม่ผิด ถ้าใครมีทัศนคติกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำ หรือถ้าเราทำเราก็รู้ว่ามันไม่ผิด ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องติดค้างต้องอธิบายด้วยซ้ำ แค่ส่วนใหญ่อธิบายถ้าเขาถามดี ๆ แต่ถ้ามีเจตนาอยากแวะมาด่าก็ตามสบาย สาธุ
แล้วทัศนคติที่บอกว่า รวยทำไมไม่แบ่งให้กับคนจนบ้าง ก็แบ่งตามสมควร แบ่งตามความสมัครใจ แล้วต้องแบ่งแค่ไหนถึงเรียกว่าแบ่ง แบ่งจนหมดเหรอ หรือต้องขายบ้านขายรถถึงจะเรียกว่าพอ ในความเป็นจริงก็ต้องถามกลับว่าหน้าที่ในการดูแลคนที่เป็นประชาชนทั่วไปเป็นหน้าที่ของตนหรือเป็นหน้าที่ใคร ใช่ไหม
แล้วมีคนแซะอีก มีเงินซื้อรถขนาดนี้ แต่มาบ่นค่าไฟแพง ก็ไม่เห็นเกี่ยวเลยว่าเราจะใช้ของแบบไหน แล้วจะมาบ่นของแพงไม่ได้ สมมติว่าซื้อไข่ดาว 300 บาท ใคร ๆ ในโลกก็จะบ่นว่าไข่ดาวแพง ทั้ง ๆ ที่ 300 และตนก็มีปัญญาเติมน้ำมันถังละ 3,000 บาท มันอยู่ที่คุณเอาเรื่องอะไรมาเปรียบเทียบ ทำไมเราบ่นว่าค่าไฟแพง อ้าวแล้วมันแพงไหมล่ะ แล้วมันไม่ได้แพงจากการที่เราใช้เยอะเท่านั้น เรารู้ว่าใช้เยอะจ่ายเยอะ แต่มันแพงเรารู้สึกว่าเราจ่ายเกินกว่าที่เราควรต้องจ่าย
คนที่มาแซะควรถามตัวเองว่าคุณเป็นอะไร ตนบ่นแทนคุณอยู่ หรือคุณเต็มใจจ่าย ไม่สนใจเลยหรือว่าโครงสร้างนี้มันคิดมาจากอะไร จริงไหม จริง ๆ เรายืนอยู่ฝั่งเดียวกัน แซะเพื่อ แต่ตนคิดว่าหลายคนพูดไม่ได้คิดอะไรเลย คือไม่ได้คิดอะไรเลย คือฉันแซะ ๆ หรือจับโยงการเมืองไปเอง คือคิดไปเองว่าเข้าข้างใครไม่รู้ แต่ในที่สุดแล้วเป็นประโยชน์ใคร ผลประโยชน์คุณกับผลประโยชน์ผมคือผลประโยชน์เดียวกันหรือเปล่า อย่าเผลอรักคนอื่นมากจนงง
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ภาพจาก Instagram unpuwanart