- เรื่องดราม่ากับประเด็นนางงามอีกเวทีหนึ่ง ความเป็นจริงแอนนาอยากให้มันออกไปในลุคนางเอกแบบนั้นหรือเปล่า เพราะอยู่ช่อง 8 มาก่อน เล่นบทนางเอกหรือเปล่า ?
แอนนา : ไม่เลย ถ้าเล่นบทนางเอกหนูเล่นได้ดีกว่านี้ค่ะ (หัวเราะ) เอาจริง ๆ ด้วยความที่ทุกคนไม่เคยเห็นเรามุมนี้ แล้วเราก็ระบายออกไปด้วยความที่ไม่ไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย ก็กลายเป็นว่าทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โต แอนนาเสียใจมาก
- แม่ปุ้ยเป็นเดือดเป็นร้อนแทนมาก ออกมาไลฟ์แบบเดือดมาก ?
แอนนา : สุดท้ายแอนนามองว่าแม่ปุ้ยเขาอาจจะมองในแง่ของนางงาม และการเป็นผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ มันรู้สึกแย่เวลาเราโดนคนที่อยู่ในอาชีพเดียวกันมาพูดแบบนี้ อารมณ์แบบแม่เป็นห่วงลูก พี่เลี้ยงเองก็เป็นห่วงเหมือนกัน แม่โทร. มาถามเหมือนกัน เราก็อธิบาย หนูไม่ได้คิดอะไรเลย มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ก็คิดที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดดราม่า คนที่เสียใจหนักกว่าเรา น่าจะเป็นเขาหรือเปล่า แต่แม่ปุ้ยไม่ได้โพสต์ด่าอย่างนั้นนะ ที่เขาโพสต์มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่แค่คนอื่นหรือคนที่อยู่ในดราม่าเห็น แล้วรู้สึกว่ามันก็จริง แต่มันเป็นทุกคนเลยที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ทุกคนที่ได้เห็นโพสต์นี้จะได้รู้เลยว่า สิ่งที่เราควรให้เกียรติมากที่สุดก็คือคนที่ทำงานอาชีพเดียวกัน หรือการที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันประมาณนี้ค่ะ
- ฝากอะไรนิดหนึ่งทั้งกลุ่มคนที่เขาชื่นชอบ และติดตามเรากับดราม่าเรื่องนี้ อยากให้มันจบแบบไหน ?
แอนนา : ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกกำลังใจเลยที่ส่งเข้ามา แต่อยากจะบอกทุกคนว่าดราม่าทุกอย่าง มันเกิดจากการที่ 1. อาจจะไตร่ตรองไม่ดีก่อน 2. มนุษย์ทุกคนทำผิดพลาดได้ทั้งนั้น สุดท้ายมันก็คือการให้อภัยกัน ก็อยากให้ทุกคนมีหลัก มีเหตุ มีผลในการโพสต์ การที่จะพาดพิงถึงใคร และสุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคน ทุกกำลังใจเลย
- ตอนลง MU ตอนแรกแอบมีความกดดันไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีงานประจำ เป็นดาราด้วย และก็เป็นสาว AE ด้วย งานการก็ดูมั่นคง ทำไมกล้าเอาอนาคตมาแลกกับการประกวดนางงาม ใครจะรู้ว่าจะมง ?
แอนนา : การประกวดนางงามของแอนนาเริ่มมาตั้งแต่ ม.5 แล้วเราได้เข้าประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ มีพี่เลี้ยงผ่านการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่กำลังซ้อมอยู่และเขาก็มาทาบไทม์เรา เขาก็แนะนำเราไปรู้จักกับพี่เลี้ยงอีกคน และเขาได้บอกเรากลับมาว่า เป้าหมายสำคัญในการหาเด็กไปประกวดที่สูงสุดคืออยากให้เด็กได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะเป็นเวทีที่ค่อนข้างจะยิ่งใหญ่สำหรับเขา
หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อย ๆ หลังเรียนจบ แอนนาเรียนจบการท่องเที่ยวและการโรงแรมมา และมันเป็นช่วงโควิดพอดี พอเรียนจบและมันหางานค่อนข้างยาก ช่วงว่าง ๆ นั้นเราก็เลยเดินสายประกวดต่อ จนมีโอกาสมามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตอนนั้นทุกคนพร้อมแล้ว สปอนเซอร์พร้อม ผู้ใหญ่พร้อม เหลือแค่เราเองที่จะพร้อมไหม ซึ่งตอนนั้นเราติดอยู่กับงานที่เราทำ แต่จริง ๆ มันเป็นสิ่งที่เราวางเป้าหมายไว้นานมากแล้วกับพี่เลี้ยงของเรา ถ้าแอนนาไม่ทำตอนนี้แล้วแอนนาจะทำตอนไหน เหมือนเราอยากจะสานฝันตัวเอง ขอบพี่เลี้ยงของทุกคนที่คอยดูแลเรามา สำหรับงานประจำ ถ้าเราไม่เข้ารอบเรายังมีโอกาสกลับมาทำอีกได้ เพราะผู้ใหญ่เขาเข้าใจเรา แต่ถ้าการประกวดครั้งนี้แอนนาไม่เอา ไม่รู้ว่าโอกาสมันจะมาอีกเมื่อไร
- เห็นว่าเป็นสายมูด้วย ถึงกับต้องไปดูดวงก่อนประกวด หมอดูแนะนำอะไรเราบ้าง ?
แอนนา : ก็ชุดแดงที่ประกวดตอนไฟนอลนั้นแหละค่ะ มาจากหมอดูก็ส่วนหนึ่งแล้วกัน จะบอกว่าหมอดูหมดเลยก็คือไม่ได้ (หัวเราะ) ตอนนั้นหมอดูแนะนำมาว่าเวที MUT เขาบอกมาว่ามีทั้งหมด 2 สี คือสีน้ำเงินกับสีแดง ให้ไปเลือกเองระหว่างรอบพรีลิมกับไฟนอล จะเอาสีอะไร ซึ่งส่วนตัวเราชอบสีแดง มีช่วงหนึ่งก่อนประกวดถ่ายเล่น ๆ กัน แล้วทาปากแดง ลุคเจิดมากเลย ก็เลยคิดให้สีแดงเป็นชุดไฟนอล น้ำเงินรอบพรีลิม วางไว้แบบนั้นสรุปว่ามงค่ะ แล้วเชื่อไหมที่ไอคอนสยามในปีของพี่อแมนด้า ที่เขาได้มงเขาก็ใส่สีแดงเหมือนกัน ก็เลยมีคนบอกว่าหรือเจ้าที่ชอบสีแดง แล้วเราชอบด้วย
- เจ้าที่เจ้าทางหรือเจ้าที่เวทีคะ ?
แอนนา : ก็ทั้งเจ้าที่เจ้าทาง แล้วเจ้าที่เวทีด้วยสิ ก็สะกดจิตก็กลายเป็นว่าเรามง
- ซุ่มออกกำลังกายหนัก เพราะเตรียมตัวเป็นนางเอกหรือเปล่า แต่ตอนนี้ที่ยังไม่เห็น เพราะว่าเธอเลือกมาก ไม่ใช่ละคร แต่เป็นเลือกพระเอก ?
แอนนา : ไม่ใช่ เลือกได้เหรอคะปกติ (หัวเราะ) มันเป็นโอกาสที่เข้ามามากกว่า แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ไม่ได้เลือกนะ สุดท้ายแล้วเวลาแอนนาทำอะไรก็ทำเต็มที่ เลยอยากที่จะดูให้ละเอียดก่อน มันเหมาะกับเราไหมอะไรอย่างไร เราก็จะทุ่มเททุกอย่างให้เต็มที่ มันไม่ใช่ใช้คำว่าเลือกหรอก ใช้คำว่าไตร่ตรองมากกว่า
- เวลาเราเห็นข่าวดราม่าหรือข่าวเปรียบเทียบ ไม่รู้สิ มันเหมือนเป็นการชิงดีชิงเด่นกันหรือเปล่า แต่มันเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ คิดอย่างไรบ้างที่มันเกิดกระแสพวกนี้ ?
แอนนา : แอนนาว่าเรารู้จักเวทีของเราดีที่สุด เรารู้บริบถเวทีเราอย่างไร มันไม่มีอะไรจะเหมือนกันไปทุกเรื่อง หรือแตกต่างกันไปซะทุกเรื่อง สุดท้ายเวทีนางงามคือการได้เชิดชูเกียรติผู้หญิงคนหนึ่ง อันนี้เรามีเป้าหมายเดียวกัน สุดท้ายคาแรกเตอร์ในการเลือกนางงามอาจจะต่างกันก็ได้ คนเลยจะไปโฟกัสตรงนั้น แล้วก็เอาไปเปรียบเทียบคาแรกเตอร์ของแต่ละคนว่า คนนั้นดีกว่า คนนี้ดีกว่า แต่สุดท้ายมันไม่มีมาตรฐานว่าแบบไหนที่ดีที่สุด
- สถานะหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
แอนนา : ไม่มีใครเลยค่ะ มีแต่ตัวเอง ตอนนี้รักตัวเองค่ะ
- แล้วกลับพระเอกหนุ่มช่องนั้นล่ะ ?
แอนนา : ช่องไหน บอกหนูสิ จะได้รู้ ไม่มีค่ะ
- เขาว่ามีพระเอกช่องหนึ่งตามจีบอยู่จริงไหม ?
แอนนา : คิดอยู่ ใครเนี่ย (หัวเราะ)
- ไม่มี เป็นไปได้อย่างไรสวยขนาดนี้ ?
แอนนา : หนูว่าคนอื่นเขากลัวหนูคิดว่าหนูดูเข้าถึงยากมั้งคะ
- อยากบอกอะไรหนุ่ม ๆ ที่กำลังสนใจเราบ้าง ?
แอนนา : คิดว่าถ้าเรามีไลฟ์สไตล์ตรงกัน ก็มาทักทายเป็นเพื่อนกันได้นะ
- มีสเปกที่แอนนาชอบไหม ?
แอนนา : ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นเราอินกับอะไรมากกว่าค่ะ ถ้าติดซีรีส์เกาหลีอาจจะชอบขาว ๆ ตี๋ ๆ ถ้าติดซีรีส์ฝรั่งก็จะชอบแบบฝอ ๆ ค่ะ
- เอางี้ดีกว่า ใช้สเปกแบบนี้ไหม ? (ทีมงานยื่นรูปหนุ่มในโทรศัพท์ให้แอนนาดู)
แอนนา : เดี๋ยวก่อน รู้มาจากไหน (หัวเราะ เขิน) ใครบอกมา รู้ได้ไงอะ เอาดี ๆ ใครบอก ไม่ ๆ
- เธอต้องตอบคำถาม แล้วอย่างนี้ใช่ไหมมาเลย ? (หัวเราะ)
แอนนา : เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันได้ค่ะ (หัวเราะ)
- มีคนเขาเมาท์มา แอนนาเดี๋ยวนี้หยิ่งไม่เหมือนเดิม ?
แอนนา : แล้วพี่รักหนูไหมคะ (ยิ้ม) ไม่หรอกมันอยู่ที่สถานการณ์มากกว่า ถามว่าตอนนี้แอนนายังรู้สึกเหมือนเดิมกับทุกคนไหม แอนนายังรู้สึกเหมือนเดิม แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่มันมีมากขึ้นแล้วกัน มันอาจจะทำให้ทุกคนมองว่าเราปรับตัวเปลี่ยนไปหรือเปล่า เพราะว่าหลังกล้องแอนนาก็ยังเหมือนเดิม เพื่อนแอนนาก็ยังติดต่อกันเหมือนเดิมค่ะ เหมือนเดิมเลยค่ะ และยังสังสรรค์ได้นะคะ (ยิ้ม)
- เคยมองบ้างไหมว่า ชีวิตมันมีขึ้นสุดลงสุด วันหนึ่งมันจะหายไปกับตา เรามองเรื่องนี้อย่างไร วางแผนบ้างไหม หรือมองว่าเราเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ฉันไม่มีวันลง ชั้นจะเป็นดาวค้างฟ้า น้องมองเรื่องนี้อย่างไรคะ ?
แอนนา : มองเหมือนกันเลยพี่แพรรี่ ตั้งแต่แอนนารับมงกุฎ และปฏิบัติหน้าที่มาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่เราลงมาจากสนามต่างประเทศ มีวันหนึ่งที่เรานั่งร้องไห้ ตอนที่จะเปลี่ยนเครื่องมาที่ไทย ร้องกับพี่เลี้ยงเลยค่ะ แล้วพูดคำเดียวเลยว่า หนูทำอะไรต่อดี เพราะว่าหนูรู้เลยว่า หลายอย่างที่เราได้มาชั่วข้ามคืน มันเป็นสิ่งเหมือนพลุ สักวันหนึ่งมันต้องลงมาเรื่อย ๆ ทุกคนวันนี้ชื่นชม อวยเรา จำว่าเราคือแอนนาเสือได้ วันหนึ่งที่มีคนใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ คนก็จะไปโฟกัสกับคนใหม่เรื่อย ๆ วัฏจักรมันเป็นแบบนี้ล่ะกัน แอนนาเลยพยายามหาช่องทางอื่น ๆ ที่ทำให้ตัวเองเป็นเหมือนว่าว พลุดังก็หล่น แต่ว่าวมันยังลอยไปเรื่อย ๆ มันไม่เทียบเท่าพลุ แต่แอนนาว่ามันยั่งยืนกว่า
- แสดงว่าแอนนาวางแผนตัวเองไว้ตลอด หาลู่หาทาง ไม่ได้หยุดตัวเองแค่นี้ ?
แอนนา : ใช่ค่ะ อย่างที่บอกเรายังไปได้ไกลกว่านี้ แค่อายุ 24-25 ปีเอง มันมีอะไรต่าง ๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่รู้มันคืออะไร มันก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะค้นหามันต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ แย่งซีน ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 19.30 น. ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น และสามารถรับชมบนทางหน้าจอได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.40 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กดเลข 27