ยู่ยี่ อลิสา เปิดใจครั้งแรกหลังออกจากเรือนจำ เล่าชีวิตต้องโทษ 7 ปี กับสิ่งที่ทรมานสุด

          ยู่ยี่ อลิสา เปิดใจครั้งแรกหลังออกจากเรือนจำ ย้อนเล่าชีวิตต้องโทษนานกว่า 7 ปี จากคดียาเสพติด ตอนนั้นช็อกมาก รู้สึกปล่อยวางไม่ได้ เพราะลูกยังเล็ก

          ควงเพื่อนซี๊ ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ออกมาเปิดใจหลังพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ สำหรับ ยู่ยี่ อลิสา อดีตนางแบบสายเซ็กซี่ชื่อดัง พร้อมย้อนเล่าเหตุการณ์เข้าไปพัวพันกับยาเสพติด จนชีวิตพลิกผันต้องโทษนานกว่า 7 ปี เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต และอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถึงขนาดทำร้ายตัวเอง ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี เป๊กกี้ ศรีธัญญา และบูม สุภาพร ดำเนินรายการ

- จีบอยู่นานกว่าจะใจอ่อนมาออกรายการ ?

          ยู่ยี่ : ยี่รู้สึกว่ายี่พร้อมแล้วที่จะออกรายการ ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มันคือช่วงดูแลใจตัวเอง ให้ถึงเวลานี้ ว่าพร้อมแล้วที่จะเจอกับคน กับคำถาม กับเรื่องราวที่มีมา อยากจะเล่าให้ฟัง

          ป๋าต๊อบ : ซัพพอร์ต เรื่องเกี่ยวกับทางด้านจิตใจ เขาก็ซัพพอร์ตพี่ด้วย เป็นคนช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เป็นเพื่อนคนหนึ่ง แฟนพี่ดีด้วยปีใหม่จะคอยบอก ไม่ไปเยี่ยมพี่ยี่เหรอ ไปเยี่ยมพี่ยี่ไหม มีช่วงไม่ได้ไปหางอนกันนิดหน่อย แต่เวลาไม่ได้ไปหาก็เหมือนมีอะไรขาดไป

- ไปเยี่ยมใช้เวลาด้วยกันนานไหม ?

          ยู่ยี่ : ให้เยี่ยมประมาณ 40 นาที บางทีก็ไม่มีอะไรคุยกันนั่งมองหน้าน้ำตาไหล จะทำยังไงดียี่อยากออกไป พูดได้แค่นั้นทุกครั้ง เราก็พูดอยู่เหมือนเดิม สงสารเขาเหมือนกันที่เขาต้องรับรู้เพราะเขาก็ทำอะไรไม่ได้

- จุดพลิกผันนางแบบสาวเซ็กซี่ พัวพันคดียาเสพติด ต้องโทษ 7 ปี ?

          ยู่ยี่ : ตกใจมาก ที่ศาลตัดสินจริง ๆ คือ 15 ปี 3 เดือน แล้วเค้าไม่ให้ประกัน ซึ่งเป็นโทษสูง แล้วยานิดเดียวมาก ถ้าเป็นคนอื่นติดเสพ แต่เราอยู่ในสนามบินเค้าเอาเรานำเข้า มันช็อกมาก พี่ต๊อบก็ช็อก เพราะไม่มีใครคิดว่าเป็นแบบนั้น ไม่มีลดโทษเลยทั้ง 3 ศาล แฟนบอกว่าเหมือนเราทั้งครอบครัวถูกลักพาตัวไป แม่อยู่ทางหนึ่ง ลูกกับพ่อก็อยู่อีกทางหนึ่ง มันทำอะไรไม่ได้

- สภาพจิตใจตอนนั้นในการรับมือ ?

          ยู่ยี่ : ด้วยความที่เราปล่อยวางไม่ได้ เรามีแต่ความรู้สึกว่าอยากจะออก ลูกเรายังเล็ก 2 ขวบครึ่ง เขาจำไม่ได้เลยว่าเราเป็นแม่ ทุกวันมันทรมานที่ว่าเราถูกจับแยกออกไป แล้วมันไม่ใช่คดีที่ใหญ่โตขนาดนั้น ความยอมรับไม่มี ความรับไม่ได้เลยเกิดขึ้น

- ช่วงแรกที่เข้าไปจิตใจย่ำแย่ที่สุด ?

          ยู่ยี่ : แย่มาก แย่ที่สุด ร้องไห้ตลอดเวลา เรียกร้องไม่ได้ เป็นปี ๆ จนถึงวันสุดท้ายที่ออกมาก็ไม่รู้สึกว่าปล่อยวางได้ แต่ช่วงนั้นยี่ป่วยหาหมอจิตเวช จำเป็นต้องใช้ยามาช่วยภาวะซึมเศร้า ตอนที่ออกมาก็รักษาต่อเนื่อง นี่คือ 3 ปีที่ออกมาไม่ได้รับงาน แล้วทำงานกับพี่ต๊อบ เจอเรื่องใหม่ ๆ ตั้งแต่ที่เราออกมา พี่ต๊อบช่วยดูแลจนตอนนี้ค่อย ๆ ลดยาจนที่กินมาเลิกใช้

- เจอสัจธรรมชีวิต ?

          ยู่ยี่ : ยี่เห็นคนในยามที่แย่ที่สุด เรารู้เข้าไปมันทรมานแค่ไหน ยี่ทำงานในโรงพยาบาลในนั้น มนุษย์ไม่ว่าจะมาจากที่สูงหรือที่ต่ำมีค่าเท่ากันหมด คนที่อยู่ในนั้นลำบากสถานที่มันเล็กมาก แออัด แล้วบางคนเข้าป่วยเป็นโรคมะเร็ง ยี่ไม่เคยรังเกียจเขาเลย ยี่ถือว่ายี่ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว เราอยู่และเห็นเรื่องราวพวกนี้ ที่เราทุกข์ ทุกข์กว่าเราก็มี

- การปรับตัวยากขนาดไหน ?

          ยู่ยี่ : ในแง่ความเป็นอยู่ไม่ต้องการอะไร แต่ในจิตใจมันอีกเรื่องหนึ่ง

- โหยหาลูก ๆ มาตลอดในระยะเวลา 7 ปี ?

          ยู่ยี่ : วางไม่ลงเพราะเรื่องลูกนี่แหละ เราออกจากวงการไปพักหนึ่งมีลูกมีครอบครัวดูแลเขา วันหนึ่งไม่มีเขา กอดไม่ได้ หอมไม่ได้

          ป๋าต๊อบ : ซัพพอร์ตหลาน เพราะเห็นว่าหลาน ๆ ควรมีความหวังบ้าง ไม่งั้นหลานจะลากไปติดกับเรื่องของผู้ใหญ่เสมอ ๆ แล้วเขาก็คิดถึงแม่ คนเล็กไม่ใช่จำไม่ได้ มีฝันร้ายตื่นมาเรียกมาม้าอยู่บ่อย ๆ มันมีอะไรขาดไปสักอย่างอ้อมอกใครสักคน พยายามไปทดแทนสิ่งเหล่านั้นให้เขาบ้าง

- ความคิดถึงลูก ?

          ยู่ยี่ : มันเหมือนชีวิตเราทั้งชีวิต ตัวเราเข้าไปจิตใจเราเข้าไป แต่อีกครึ่งหนึ่งของเรามันอยู่ข้างนอก มันไม่ครบไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรายอมรับสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ได้ เราทำใจไม่ได้จริง ๆ

- ลูก ๆ มีโอกาสไปเจอไหม ?

          ยู่ยี่ : มีค่ะ พี่ต๊อบพาไป คุณพ่อเขาก็พาไปบ้าง ที่เยี่ยมญาติใกล้ชิด ครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมากก่อนที่จะได้เจอ รู้สึกเหมือนฝัน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด มีความสุขมาก ลุกก็จะกอดนาน ๆ กอดไม่ปล่อย พอหมดเวลารู้สึกว่าใจเราตกลงไปเลย มองเขาจนกว่าเขาจะเดินกันกลับ บอกแค่ว่าเรารักเขามาก เขาก็ดีใจที่ได้เจอ

- ยู่ยี่มีสภาวะเครียดตอนอยู่ในเรือนจำ ?

          ยู่ยี่ : มาจากความคิดถึง วางไม่ลง ยอมรับไม่ได้นี่แหละค่ะ ยี่รู้สึกแย่ที่ต้องให้ลูกมาเห็นเราร้องไห้ แต่มันอดไม่ได้ เหมือนน้ำตามันไหลอยู่ตลอดเวลา ลูกเขาก็แอบไปร้องไห้เหมือนกัน

- ความเครียดส่งผลให้มีอารมณ์ก้าวร้าวรุนแรงตอนอยู่ข้างใน ?

          ยู่ยี่ : มันมีความโมโห หงุดหงิด ร้องไห้ ทุกอย่างเศร้าไปเลย หรือไม่ก็โมโหไม่ยุ่งกับใคร นานค่ะค่อย ๆ ปรับตัวเอง พูดคุยกับคน ช่วยเหลือคน ตั้งมั่นไว้ว่าจะเป็นคนดีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรารู้ว่าข้างในมันอยู่ลำบาก เราได้อยู่กับคนป่วยมันช่วยให้ใจเราอ่อนลง เราได้ทำประเมินและตัวเราเองด้วย เราไม่เห็นคนอื่นเป็นแบบเราโมโหตลอดเวลาและร้องไห้ ทุรนทุรายมาก เรารู้สึกว่ามันแย่ไปหมดต้องหาตัวช่วย รับยาตัวแรงที่สุดทานอยู่หลายปีจนออกมาก็ยังทาน เพิ่งมาลดตอนอยู่ข้างนอก ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว

          ป๊าต๊อบ : แล้วแต่บางวัน บางวันเห็นใจเพื่อนก็พยายามร้องไห้แซงเขาไป ปลอบใจคอยเตือนเขา ช่วยเหลือคนไว้ ทำดีแล้ว เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น

- สนิทกันมาก ?

          ป๋าต๊อบ : รู้จักกับยี่มานานแล้ว สมัยก่อนมักเจอกันสถานที่มืด ๆ ยิ่งมืดยิ่งเจอกันบ่อย สนิทจริง ๆ ตอนที่เขามาฟื้นฟูนี่แหละ ใครก็ตามที่ตบเท้าบอกตัวเองว่าฉันต้องเปลี่ยนแปลง ได้ความนับถือจากพี่ไปทันที เขาเดินเข้ามา พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นเพื่อนเคยรู้จักกันด้วย เขาอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าหนัก พอเค้าหลุดออกมามาเจอเขาก็แบบเจ๋งว่ะ

          ยู่ยี่ :  ตอนนั้นมีน้องแล้ว เอามาทั้ง 3 เลย เขาก็เลยเห็นแล้วเอ็นดู

- รักลูก ๆ เขาด้วย ?

          ป๋าต๊อบ : จริง ๆ แล้วพี่เป็นคนรักมนุษย์ที่ยอมรับตัวเองและเปลี่ยนแปลง พี่รักเขาตรงนี้ ลูก ๆ นี่หลงมาก ๆ

- มีโอกาสกลับมาในวงการบันเทิงไหม ?

          ยู่ยี่ : พร้อมนะคะ ค่อนข้างพร้อมมาก ๆ เลย เพราะดูแลตัวเองมาหลายปีละ  ดีที่ครอบครัวกับพี่ต๊อบช่วย พร้อมเมื่อไหร่ให้ไปให้เต็มที่

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยู่ยี่ อลิสา เปิดใจครั้งแรกหลังออกจากเรือนจำ เล่าชีวิตต้องโทษ 7 ปี กับสิ่งที่ทรมานสุด อัปเดตล่าสุด 19 พฤษภาคม 2566 เวลา 17:47:08 55,276 อ่าน
TOP
x close