สวยหุ่นดีเบอร์นี้ แต่ก็ไม่วายโดนบูลลี่ สำหรับนางเอกสาว โบว์ เมลดา หลังถูกชาวเน็ตแซะแรงว่าปล่อยตัวจนหุ่นดูอวบขึ้น บางรายเมาท์แรงว่า อ้วนขึ้น อวบขึ้น อยากให้ลดเอว ลดต้นแขน จิกกัดสารพัด
ล่าสุด (31 พฤษภาคม 2566) สาวโบว์ ก็ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า เราไม่ได้ปล่อยตัว แต่อาจจะด้วยความที่เราแบบเป็นคนน่าขย้ำอะ มันก็เลยอาจจะดูน่ารักไปอีกแบบ อีกอย่างคือร่างกายของเราแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เราเป็นคนโครงใหญ่ สัดส่วนเรามันเชปบ๊ะ แบบหุ่นฝรั่ง มันก็เลยยากนิดหนึ่งในการลด
ยอมรับว่าเห็นคอมเมนต์ที่โดนวิจารณ์ และก็โดนทักเยอะด้วย แต่ก็ช่างมัน คือถ้าเราทำได้ก็คงเห็นว่าผอมแล้ว ถามว่าบั่นทอนความรู้สึกไหม ก็รู้สึกเสียใจที่ทุกคนมีมาตรฐานความสวยไม่เหมือนกัน เพราะสำหรับเรา แบบนี้เราก็คือมั่นใจแล้ว เราไม่ได้ไปทับไลน์ใคร และเราก็ได้เป็นแบบอย่างให้กับคนที่ใส่เสื้อผ้าแนวนี้ด้วย เพราะทุกวันนี้หลายคนเขาก็มีปัญหาสะโพกใหญ่เอวเล็ก และทักมาถามเราว่า เราใส่กางเกงร้านไหน ซึ่งโอเคเราก็พอที่จะแนะนำได้
คือที่โดนติงก็มีอยากให้เน้นออกกำลังกาย ลดช่วงเอว ลดช่วงต้นแขน ซึ่งเราก็ทำไม่ใช่เราไม่ออกกำลังกายเลย แต่ด้วยความที่โครงสร้างของเรามันเป็นแบบนี้เนอะ เป็นปกติที่คนเขาอยากจะทัก อยากจะรู้จักเรา หรือว่าอยากคุยด้วย แต่จริง ๆ มันก็มีหลายเรื่องให้คุยเนอะ ก็อารมณ์แบบ "อ้วนขึ้นปะ ผอมลงปะ" อ้วนขึ้นแล้วบ้านมันแคบลงปะ หรือยังไง (หัวเราะ) คือฉันก็ทำงานของ และฉันก็พยายามผอมให้แหละ แต่ผอมในแบบที่เราเองก็สุขภาพดี ไม่เหี่ยว ไม่โทรม
จริง ๆ แล้ว เราน้ำหนักไม่ได้ขึ้นเลย แต่อาจจะเพราะอายุของเราที่เพิ่มขึ้นมากกว่า มันเลยทำให้ดูอวบด้วยผิวพรรณ หรือดูอาจจะเปล่งปลั่งขึ้น ไม่ได้ดูลีนเหมือนตอนเด็ก ๆ สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือกินให้น้อยลง ทุกวันนี้แทบจะดมข้าวอยู่แล้ว เพราะว่าแค่หายใจเข้าก็อ้วน ถามว่าแบบนี้ อาเล็ก ธีรเดช ชอบไหม สาวโบว์ก็ตอบว่า ลองไม่ชอบสิ ฮา...
สำหรับเรื่องความรักที่ก่อนหน้านี้คุณแม่บอกว่าอยากอุ้มหลาน สาวโบว์ ก็เปิดเผยว่า ก็ตลกดี ก็แบบเขามาขอหรือยังแม่ (หัวเราะ) แต่ก็เข้าใจด้วยวัยของเรา 27-28 แล้ว มันก็ถือว่าเป็นช่วงวัยที่ควรจะมีลูก เพราะสภาพร่างกายต่าง ๆ มันพร้อม แต่ติดที่เราเองมากกว่า คือเราอยากจะทำงานก่อน
ส่วนทางอาเล็กเขาก็ไม่ได้อะไร คือคุณแม่เป็นคนตลก ท่านพูดไปอย่างนั้นแหละ ให้บรรยากาศมันจอย คือท่านก็อยากให้มี เพราะท่านกลัวว่าในอนาคตอายุเยอะแล้วเราจะมียาก ถามว่ามีวาดภาพงานแต่งงานไว้ไหมก็วาดฝันไว้เลยว่างานแต่งจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ คือคุยกันเลยสองคน เพราะว่าเราเป็นพวกช่างฝันทั้งคู่ (หัวเราะ) แต่ก็ต้องปัดออกกันบ้าง เนื่องจากมันพูดไปเรื่อย
เรื่องแต่งงานยอมรับว่ามีคุย ๆ กันไว้บ้างแล้ว มันเหมือนการคุยไปเรื่อยมากกว่า อย่างเวลาเราเห็นคนนั้นคนนี้แต่งงาน หรือไปเจอชุดแต่งงานสวย ๆ เราก็คุยกัน ซึ่งทางเขาบอกว่าโอเคแค่นั้นเลย เพราะว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต และเราเองก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วเราจะได้เลิก หรือเราจะได้แต่ง
ถามว่าเขาอยากแต่งงานไหม คือเขาอยากแต่งงานอยู่แล้วค่ะ เพราะหนูสวย (หัวเราะ) คือมันอาจจะด้วยวัยของเขานั่นแหละ ถามว่าตอนนี้ติดที่เราหรือเราแค่รอให้เขามาขอ ก็ทั้งสองอย่าง จริง ๆ เราเองก็พร้อม เขาเองก็พร้อม แต่มันอยู่ที่วัย จังหวะ และการทำงานมากกว่า คือก่อนหน้านี้เคยคิดไว้เหมือนกันนะว่า 27 อยากจะแต่งงานมีลูก แต่ไป ๆ มา ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โตพอที่จะเป็นแม่คนขนาดนั้น ถ้าหากมีลูกจริง ๆ ก็สงสารลูกให้เขามีแม่เมื่อพร้อมดีกว่า
ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็ดี สนุกดี แต่เจอกันไม่ค่อยบ่อย เรียกว่าเจอกันน้อยขึ้นทุกวัน เพราะต่างคนต่างก็อยากที่จะเต็มที่กับงาน ส่วนวิธีเติมความหวานก็จะมีแบบ โทร. หาบ้าง นัดเจอบ้าง มีงอแงบ้าง คือเราทั้งคู่ว่างไม่ตรงกันสักที