x close

ถุงยางอนามัยผู้หญิง คืออะไร รู้จักทางเลือกในการป้องกันตัวเองก่อนมีเซ็กส์

          ถุงยางผู้หญิง คืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ช่วยคุมกำเนิดและป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ไหม มาทำความรู้จัก ถุงยางอนามัยผู้หญิง วิธีใส่และการใช้งาน พร้อมข้อดี-ข้อเสีย
คุมกำเนิด

          อย่างที่ทราบกันดีว่า ถุงยางอนามัย เป็นตัวช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นเคยกับถุงยางอนามัยของผู้ชายที่มาในรูปแปบปลอกสำหรับสวมองคชาตมากกว่า แต่เนื่องจากการปฏิเสธของผู้ชายบางคนในการใช้ถุงยางอนามัย ทำให้เกิดเป็นแรงจูงใจในการสร้าง “ถุงยางอนามัยผู้หญิง” ขึ้นมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันตัวเองจากโรคและคุมกำเนิดอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ถุงยางผู้หญิง ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากหาซื้อยากและราคาสูงกว่าถุงยางผู้ชายหลายเท่า วันนี้เราจึงอยากชวนมาทำความรู้จักถุงยางอนามัยผู้หญิง ตั้งแต่ประโยชน์ วิธีการใช้ พร้อมข้อดี-ข้อเสียกัน

ถุงยางอนามัยผู้หญิง คืออะไร

          ถุงยางผู้หญิง หรือ ถุงยางอนามัยผู้หญิง (Female condom) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสอดเข้าไปภายในช่องคลอดของสตรีก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ กลไกของถุงยางผู้หญิงคือดักจับอสุจิของเพศชายเอาไว้ไม่ให้ผ่านเข้าสู่โพรงมดลูกไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่แล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น โดยผ่านการรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) เมื่อปี พ.ศ. 2546
          ลักษณะของถุงยางอนามัยผู้หญิงทำมาจากพอลิยูรีเทน (Polyurethane) มีความยาว 6.5 นิ้ว หรือยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ที่ปลายถุงทั้งสองด้านมีห่วงยางหรือวงแหวนยืดหยุ่น 2 วง เพื่อให้เกิดความกระชับและคงรูปร่างไว้ได้ในขณะใช้งาน ปลายถุงด้านหนึ่งตันเพื่อใช้สอดเข้าไปในช่องคลอด ส่วนปลายถุงอีกด้านหนึ่งจะเป็นปลายเปิดยื่นออกมานอกช่องคลอด ภายในถุงยางจะมีน้ำยาหล่อลื่น แต่ไม่มียาฆ่าเชื้ออสุจิ

ประโยชน์ของถุงยางอนามัยผู้หญิง

          ถุงยางผู้หญิงสามารถใช้คุมกำเนิดและช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เอดส์ เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับบุคคลดังนี้
  • ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดทั้งแบบชั่วคราวหรือแบบฉุกเฉิน โดยที่ไม่ได้กินยาคุมกำเนิดมาก่อน
  • ผู้ที่แพ้หรือรู้สึกไวต่อถุงยางอนามัยแบบลาเท็กซ์ (ถุงยางอนามัยผู้ชาย)
  • ผู้หญิงที่มีโรคหรือสามีมีโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เป็นโรคไวรัสตับอักเสบ ติดเชื้อเอชไอวี ฯลฯ
  • ผู้หญิงที่คุมกำเนิดในรูปแบบอื่นอยู่แล้ว แต่อยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมด้วย เช่น ฉีดยาคุมกำเนิด หรือรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดมาก่อน
          นอกจากผู้หญิงสามารถใช้ได้แล้ว กรมควบคุมโรคยังได้ออกมาสนับสนุนให้กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศใช้ถุงยางผู้หญิงขณะมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย

วิธีใส่ถุงยางอนามัยผู้หญิง

          หน้าตาของถุงยางอนามัยผู้หญิงอาจจะดูใหญ่เทอะทะ ทำให้รู้สึกว่าสวมใส่ยาก ลองมาดูวิธีการใส่และข้อแนะนำในการใช้งานกัน
  1. ล้างมือให้สะอาด แล้วแกะถุงยางอนามัยออกจากซองด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการฉีกขาด
  2. จัดท่าให้เหมาะสมกับการใส่ ปกติจะใช้ท่านอนหงายชันเข่า ท่านั่งยอง ๆ ท่ายืนแยกขาเล็กน้อย ท่ายืนแบบยกขา 1 ข้าง พาดขาบนเก้าอี้ ซึ่งคล้ายกับวิธีการใส่ผ้าอนามัยแบบสอด
  3. ใช้มือข้างที่ถนัดจับวงแหวนจากภายนอกของถุงยาง ซึ่งอยู่บริเวณก้นถุง ด้วยนิ้วหัวแม่ถือกับนิ้วกลาง บีบเข้าหากันเป็นวงรีให้มีขนาดเล็กลง จากนั้นจึงค่อย ๆ สอดถุงยางเข้าไปในช่องคลอด
  4. ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปภายในถุงยางอนามัย และดันถุงยางอนามัยให้ใกล้บริเวณปากมดลูกมากที่สุด จากนั้นถุงยางจะคลายตัวและขยายออกเอง
  5. ตรวจสอบว่าถุงยางไม่พลิกตัวหรือพับงอ และปลายเปิดของถุงยางอยู่ที่ปากอวัยวะเพศ
  6. ในขั้นตอนการถอดถุงยางอนามัยผู้หญิง หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จแล้วและมีน้ำอสุจิอยู่ในถุง ให้ใช้นิ้วจับห่วงที่อยู่ภายนอกแล้วบิดปากถุงประมาณ 3-4 รอบให้สนิท เพื่อให้เชื้ออสุจิอยู่ในถุง แล้วจึงค่อย ๆ ดึงถุงยางออกมาจากช่องคลอด
คุมกำเนิด

ข้อควรระวัง

ในการใช้ถุงยางอนามัย

  • ห้ามใช้ทั้งถุงยางผู้หญิงและถุงยางผู้ชายขณะร่วมเพศ เพราะอาจเกิดการเสียดสีกันจนฉีกขาดได้
  • ต้องใช้ถุงยางเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ห้ามนำมาใช้ซ้ำเป็นอันขาด ถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งต้องใช้ถุงยางอนามัยผู้หญิงอันใหม่
  • หากถุงยางฉีกขาด วงแหวนรอบนอกหลุดเข้าไปในอวัยวะเพศหญิง หรือถุงยางพันกันในอวัยวะเพศระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ควรถอดถุงยางอนามัยทิ้งและสวมอันใหม่ทันที
  • หากพบว่าถุงยางอนามัยผู้หญิงทำงานได้ไม่เต็มที่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมารับประทาน เพื่อลดโอกาสในการตั้งครรภ์

ถุงยางผู้หญิง ข้อดี-ข้อเสีย มีอะไรบ้าง

          รู้จักถุงยางผู้หญิงกันไปแล้ว แต่ถุงยางประเภทนี้จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างจากวิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ อย่างไรบ้าง เราสรุปมาให้แล้ว

ข้อดีของการใช้ถุงยางผู้หญิง

  • ใช้คุมกำเนิดหรือป้องกันการตั้งครรภ์ได้ หากใช้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
  • ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นเดียวกับการใช้ถุงยางอนามัยผู้ชาย เช่น ซิฟิลิส หนองใน ไวรัสตับอักเสบบี เอดส์
  • สามารถสวมใส่ได้ขณะที่กำลังจะมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
  • สามารถใช้ได้ขณะมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือหลังการให้กำเนิดบุตร
  • ช่วยปกป้องพื้นผิวของช่องคลอด
  • ไม่มีผลต่อสุขภาพและภาวะการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง เพราะไม่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนในร่างกาย จึงทำให้ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน ประจำเดือนมาตามปกติ
  • มีความทนทานมากกว่าถุงยางอนามัยผู้ชาย และสามารถใช้ร่วมกับเจลหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันได้
  • สามารถใส่ถุงยางผู้หญิงได้นานถึง 8 ชั่วโมง ก่อนมีเพศสัมพันธ์

ข้อเสียของการใช้ถุงยางผู้หญิง

  • มีอัตราการล้มเหลวสูงจากการคุมกำเนิดหากใช้อย่างไม่ถูกวิธี
  • หาซื้อได้ยาก และมักมีราคาแพงกว่าถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย
  • ขั้นตอนการใส่ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย อาจจะลำบากสำหรับบางคน
  • ปิดกั้นการสัมผัสกันโดยตรงของอวัยวะเพศชายและหญิง อาจขัดจังหวะการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยใช้การเล้าโลมหรือใส่ถุงยางก่อนการร่วมเพศ
  • บางคนอาจเกิดอาการระคายเคือง แพ้ถุงยางอนามัย หรือตกขาวผิดปกติได้
  • การใช้ถุงยางผู้หญิงอาจก่อให้เกิดเสียงที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างร่วมรัก ซึ่งแก้ไขได้โดยการใช้สารหล่อลื่นเพิ่มเติม
  • ถุงยางอนามัยค่อนข้างทนทานก็จริง แต่อาจฉีกขาดหรือเลื่อนไหลหลุดเข้าไปค้างอยู่ในช่องคลอดได้ในระหว่างการร่วมเพศ
  • การเสียดสีของถุงยางผู้หญิงอาจลดการกระตุ้นบริเวณปุ่มกระสันหรือคลิตอริส (Clitoris) หรือการหล่อลื่นที่เกิดขึ้นภายในอวัยวะเพศ ซึ่งอาจส่งผลให้การร่วมเพศไม่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร แต่สามารถแก้ไขได้โดยการใช้สารหล่อลื่น
คุมกำเนิด

ถุงยางผู้หญิงราคาเท่าไร

          จากการตรวจสอบพบว่าถุงยางอนามัยผู้หญิงมีราคาเริ่มต้นที่ 150-300 บาท โดยประมาณ อาจหาซื้อได้จากห้างสรรพสินค้า ร้านขายยา เว็บไซต์ โดยควรตรวจสอบว่าผู้ขายเป็นเภสัชกรหรือผู้ค้าปลีกที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

           แม้ว่าถุงยางอนามัยผู้หญิงจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่อาจป้องกันการตั้งครรภ์ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เต็มร้อย จึงควรพิจารณาเกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิดรูปแบบอื่น เพื่อการป้องกันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ควรทำความเข้าใจถึงวิธีการใช้งานถุงยางผู้หญิงที่ถูกต้อง และอย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ รอยฉีกขาดของซอง ก่อนการใช้งานทุกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : beintheknow.org, webmd.com, fpnsw.org.au, th.wikipedia.org, lovefoundation.or.th

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถุงยางอนามัยผู้หญิง คืออะไร รู้จักทางเลือกในการป้องกันตัวเองก่อนมีเซ็กส์ อัปเดตล่าสุด 1 มิถุนายน 2566 เวลา 16:53:35 52,738 อ่าน
TOP