วันนี้เราเห็นชัดเจนว่าในวัย 40 อยู่หน้าเตาแล้วมีความสุขกับชีวิต แต่พอย้อนกลับไปดูคุณในวงการบันเทิงตอนที่คุณเป็นดารา นัยน์ตาของคุณเหมือนมีความทุกข์อะไรบางอย่าง คุณมีปมอะไรเกี่ยวกับการเป็นนักแสดง ?
อาร์ต พศุตม์ : จริง ๆ ในวงการหลายคนรู้แล้วแหละว่าผมเคยทำงานที่ที่หนึ่งมาแล้วผมก็ไม่ได้เซ็นสัญาต่อ มันมีปมเล็ก ๆ ในใจมาตลอด แต่ถามว่าได้เคลียร์ไหม ก็ได้เคลียร์ก่อนที่จะยกเลิกสัญญา จริง ๆ มันเป็นการโดนขัดแข้งขัดขามากกว่าจากเพื่อนเราเอง
ขัดแข้งขัดขาหมายความว่ายังไงครับ ?
อาร์ต พศุตม์ : มีเพื่อนคนหนึ่งรุ่น ๆ ผมนี่แหละ อยู่ดี ๆ วันหนึ่งผมเป็นคนแรกที่ได้ละครในกลุ่มในรุ่นเดียวกัน แล้วตอนนั้นผมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง กับซิตคอม 1 เรื่อง แล้วก็มีบุคคลนี้มาถามผมว่า อาร์ต ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่บ้าง เราก็ตอบไปแค่นั้น แล้วปรากฏว่าคนคนนี้ดันไปบอกที่ดูแลศิลปินของแผนกนี้ว่าผมอวดงาน ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนถามผม ทางนั้นเขาก็โทร. มาด่าผมว่าไปบอกทำไมว่ามีงานโน่นนี่นั่น ผมก็แบบเราพูดให้ใครฟังนะ ไม่มี ไม่ได้พูดให้ใครฟังเลย
เพราะผมไม่ได้พูดจริง ๆ แต่แค่มันมาถามผมก็เลยพูด เราก็เลยนึกว่า อ๋อ ! ผมพูดกับคนคนหนึ่ง แล้วผมเป็นประเภทที่แบบถ้าเอ๊ะ ! แล้วต้องจับให้ได้ ผมก็ปล่อยข่าวคนนี้คนหนึ่ง ปล่อยข่าวทางนี้อีกทางหนึ่ง
ปรากฏข่าวทางนี้ถึงผู้ใหญ่จริง ๆ ผมเลยโอเค รู้แล้ว เขาไม่ได้เป็นเพื่อนเราแล้ว พยายามแทงเรานี่นา แล้วมันก็มีเรื่องราวแย่ ๆ มาสักพัก เหมือนเขาพยายามแทงผมตลอด คำตอบสุดท้ายของเขาก็คือ เขาคิดว่าถ้าไม่มีผมเขาจะได้เป็นพระเอกแทนผม ซึ่งจริง ๆ คนละคาแรกเตอร์เลย คือคุณสามารถเป็นพระเอกในคาแรกเตอร์ของคุณได้
แต่สิ่งที่เสียใจก็คือในที่ทำงานเก่าเขาจะมีแผนกแผนกหนึ่งที่ดูแลศิลปิน อันนี้น้ำตาร่วง คือมีพี่คนหนึ่งที่ดูแลผมอยู่ พ่อผมเขาอยู่วงการใช่ไหม แล้วเขาก็ทำหนัง เอ๊ย ! อยากให้ลูกมึงเล่น ผมก็ถือบท บอกว่า พี่ครับ ผมอยากเล่นบทนี้ครับ ผู้ใหญ่คนนั้นก็บอกไม่ให้เล่น แต่ในระหว่างนั้นพระเอกหลาย ๆ คนเล่นหนังหมดแล้ว ซึ่งผมก็มีคำถามอยู่ในใจว่าทำไมไม่ให้ผมเล่น
หลังจากนั้นประมาณครึ่งปีมั้ง พี่คนนี้เขาก็โทร. มาหาผม อาร์ต แกเป็นยังไงบ้าง หนังที่แกเล่นเป็นยังไงบ้าง ผมก็หนังอะไร ก็พี่ไม่ให้ผมเล่นไง ผมก็เลยบอกว่า พี่อย่าบอกนะว่าพี่ให้เพื่อนผมเล่น คำตอบคือใช่ ผมเลยน้ำตาร่วงเลย แบบเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทำไมถึงทำแบบนี้กับเรา ทั้ง ๆ ที่เราเคารพและไว้ใจทำให้ทุกอย่าง พูดมาทุกวันนี้ยังเสียใจเลย แต่ว่าพี่คนนี้ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ทำงานแล้ว ออกจากที่ทำงานเก่าไปบวช วันที่บวชเขาโทร. หาผม อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะอะไรที่ฉันทำกับแกไว้ เพราะตอนนั้นเขาเหมือนแอบขัดขาผมนิด ๆ ไปให้งานอีกคนหนึ่ง
รู้ไหมว่าเพราะอะไร ?
อาร์ต พศุตม์ : เหมือนคนนี้เขาไปให้ความหวังกับผู้จัดการคนนี้อยู่ เป็นเหมือนเลิฟอะไรสักอย่างอะไรแบบนี้
แล้วเหตุผลที่ลาออก ?
อาร์ต พศุตม์ : เหตุผลที่ลาออกเลยคือ ตอนนั้นผมเล่นบางระจัน แล้วผมก็ได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำมา ก็มีผู้จัด 3 เรื่องโทร. หาผม อาร์ตเล่นเรื่องนี้ไหม เล่นเรื่องนี้ให้พี่หน่อย ว่างครับ ตอนนี้ยังไม่มีละครเล่น เพราะมันมีช่วงระยะเวลาว่าง ปรากฏว่าผู้ใหญ่ไม่ให้ผมเล่นเลยทั้ง 3 เรื่อง บอกผมไม่ว่าง ทั้ง ๆ ที่ผมรู้ตัวว่าว่าง และผู้จัดโทร. หาผมแล้ว คือผมได้รางวัลหนึ่งแล้วผมก็อยากได้อีก อยากโชว์ศักยภาพให้ทุกคนเห็น คิดว่าจะได้เจริญในหน้าที่การงานขึ้น ปรากฏว่าไม่ให้ผมเล่น จับผมไปลงละครเย็น 1 เรื่อง ผมเก็บเรื่องนี้มานานมาก เงินเดือนก็ไม่ได้ ทำไมจับผมลงแต่ละครเย็น ทั้ง ๆ ที่บทดี ๆ ผมก็มีตั้งเยอะแยะ
ผมก็แอบหนีไปเล่นอีกที่หนึ่งเป็นซีรีส์สั้น ๆ ช่องอื่น ผมตั้งใจทำ และผมคำนวณค่าเสียหายไว้อยู่แล้ว ถ้าผมโดนปรับจะโดน 10 เท่าของค่าตอน พอทางที่ทำงานเก่ารู้ว่าผมไปเล่น เขาก็ฟีดแบ็กไปว่าห้ามออน เพราะมีสัญญาอยู่ ผมก็บอก พี่ ออนไปเลยครับ เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง ถ้าโดนปรับตอนนั้นน่าจะโดน 3-4 ล้านมั้ง ซึ่งผมโดนปรับให้แต่ขอละครเรื่องนี้ออน ผมก็เป็นคนโทร. ไปหาผู้ใหญ่ว่าผมอยากคุยด้วย ก็ได้พบกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เดินไปถึงผมไหว้ก่อนเลย ขอโทษครับที่ทำผิดสัญญา เขาก็ถามทำไมทำแบบนี้
เพราะผมอยากมีวันนี้ ผมอยากมีวันที่พี่สนใจผมแบบนี้ พี่เคยนั่งคุยกับผมแบบนี้ไหม แต่ตอนพูดร้องไห้แล้วนะ คนอย่างผมร้องไห้มันคืออัดอั้น ผมเก็บข้อมูลมา 4 ปี เงินเดือนผมไม่ได้ ไม่ได้เล่นละคร โดนเหตุการณ์ต่าง ๆ นานามากมาย ผมอยากมีหน้าที่การงานที่ดีขึ้นครับ อยากดังเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
พี่ไปถามผู้กำกับหรือผู้จัดทุกคนได้เลย 7 ปีที่ผมทำในวงการ ผมเคยทำงานสาย 3 วัน ผมเป็นเด็กดีไหม เพียงเพราะผมไม่เข้ามาหาพี่หรือได้มาคุยกับพวกพี่ ผมกลายเป็นเด็กไม่ดีใช่ไหมครับ เขาเงียบ ผมไปทำงานที่อื่นเพราะผมว่าง ตอนนั้นผมไม่มีงาน 7-8 เดือน ทั้ง ๆ ที่มีละคร 3 เรื่องติดต่อมาไม่ให้ผมเล่น ผมก็ต้องไปหาเงิน เพราะผมไม่ใช่เด็กบ้านรวย พี่ต้องรอให้พ่อแม่ผมป่วยเหมือนคนอื่นที่ตอนนี้พี่ให้ออกไปทำที่อื่นแล้ว พี่ต้องรอให้เห็นพ่อแม่ผมป่วยแบบนี้เหรอพี่ถึงจะยอมมอบบทดี ๆ ให้ผม เขาก็ไม่ตอบ
อันนี้ก็ต้องขอโทษผู้ใหญ่นะครับ มันก็เป็นเรื่องที่ผมแอบอัดอั้นนิดหนึ่ง สรุปเขาก็ถามว่าผมจะเซ็นต่อไหม ตอนนั้นมีละครเรื่องหนึ่งติดต่อผมมา 30 ตอน งั้นผมขอแบบนี้ละกันครับ ตลอดเวลาที่ผมอยู่มา 7-8 ปีที่นี่ ผมไม่เคยได้การันตีเลยว่าผมจะได้เล่นละครกี่เรื่อง เงินเดือนผมไม่เคยได้ งั้นผมขอการันตีปีนึง 3 เรื่อง เงินเดือนผมไม่เอาก็ได้ แต่ผมของานแค่นี้ ไม่ได้ งั้นผมขอเล่นละครนี้ 30 ตอนได้ไหม ไม่ได้ งั้นผมไม่เซ็นนะครับ นี่คือที่มา แล้วเพื่อนคนที่ผมพูดถึงอยู่นี่ก็ไปป่าวประกาศให้คนอื่นฟังว่าผมเป็นคนฉีกสัญญาผิดกฎ เขาไม่รู้ว่าผมไปคุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว
คุณได้เคลียร์กับทางเพื่อนคนนี้ไหม ?
อาร์ต พศุตม์ : ไม่คุยครับ ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยนะ ผมอยู่ในวงการมา 17 ปี ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ออกสื่อ นี่คือครั้งแรกที่พูด แต่มีผู้ใหญ่หลายคนที่เขาถามผมว่าทำไมไม่เซ็นแล้วเข้าใจผมผิด 1 ใน 3 เรื่อง มีเรื่องหนึ่งที่เป็นของผู้จัดคนหนึ่ง เขาเปลี่ยนพระเอก ตัวผมก็เลยเล่นไม่ได้ ผมเข้าใจ ผู้จัดโทร. คุยกับผมแล้วเรียบร้อย รู้ไหมมันไปคุยกับคนอื่นว่าไง ที่อาร์ตไม่เล่นละครเรื่องนี้เพราะอาร์ตกลัวไม่ได้ตังค์ เพราะผู้จัดคนนี้จ่ายช้า ดูเขาพูดสิ งงไหมล่ะ
คุณได้เรียนรู้อะไรกับเรื่องราวที่ผ่านมาในรอบ 10 ปี ?
อาร์ต พศุตม์ : จริง ๆ ทุกอย่างมันดีหมดเลยนะในชีวิต แค่คนบางคนเข้ามาในชีวิตผมไม่ดีเท่านั้นเอง และผมก็เลือกเก็บแต่สิ่งที่ดี ๆ ไว้