ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องราวครอบครัวให้ฟังเสียเท่าไหร่ สำหรับนักชกชื่อดัง สมจิตร จงจอหอ นักกีฬามวยสากล เจ้าของเหรียญทองหลายเหรียญ ที่ล่าสุด (1 กันยายน 2566) เจ้าตัวมาให้สัมภาษณ์เปิดใจทั้งน้ำตาถึงครอบครัวในรายการ Bradboy ของ บอย พิษณุ โดยเล่าว่าตนต้องใช้จิตใจที่เข้มแข็งสู้เพื่อลูกที่สมองช้ากว่าอายุ รวมถึงภรรยาที่ป่วยเป็นโรค SLE หรือ โรคพุ่มพวง
โดยช่วงหนึ่งของการพูดคุยสมจิตรได้เล่าเรื่องของภรรยาที่ป่วยเป็นโรค SLE ว่า อาการล่าสุด 80-90% ดีขึ้น คือ โรคนี้มีหลายชนิดมาก แต่ของเราเป็นระบบผิวหนัง ซึ่งหมอบอกว่าต้นตอมาจากอาหารที่เรากิน ห้ามกินของหมักดอง ซึ่งเรากินมาตั้งแต่เด็กวิถีคนอีสาน ก็ต้องเปลี่ยนการกินใหม่ ห้ามเครียด ห้ามนอนดึก เราก็ดูแลเขา เมื่อจิตใจดี สุขภาพดี นอนหลับดี ฟื้นฟูเร็ว จากยากินเป็นกำ ๆ ก็ลดน้อยลง
ก่อนจะเล่าต่อถึงลูกชาย น้องกำปั้น ว่า ผมไม่ค่อยจะบอกรายการไหน กำปั้นเขาอายุ 22 ปี แต่ไอคิวเขาประมาณเด็ก 10 กว่าปี เหมือนเด็กสมาธิสั้น เขาเรียนพูดภาษาได้เก่ง แต่บวกลบคูณหารไม่ได้เลย ความจำตรงนั้นไม่ได้เลย ก็พยายามเรียน เป็นคนร่าเริง เพื่อนเยอะ แต่สุดท้ายพอปี 3 จะขึ้นปี 4 ครูบอกว่าเรียนไม่ได้เพราะสมองน้องไปไม่ได้ ก็เลยต้องดร็อป เมียก็ป่วย ลูกก็เป็นอย่างนี้
แต่สุดท้ายแล้วผมคิดบวกนะว่ามันอาจจะดีก็ได้ ถ้ากำปั้นเป็นเด็กธรรมดาที่วัย 22 ป่านนี้กำปั้นอาจจะดื่มเหล้า ขับรถซิ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์แว้น ดูดบุหรี่ แต่สมองเขาเป็นเด็ก เขาอยู่กับพ่อกับแม่เป็นเด็กดีร่าเริง ทุกคนรักเขาหมด งั้นแสดงว่าสิ่งที่มันโชคร้ายกับผม มันก็คือโชคดีสำหรับผมส่วนหนึ่ง เป็นเรื่องราวที่เขาอาจจะกำหนดมา แต่สิ่งที่เจออยู่ที่เราจะปรับมันยังไง เราจะอยู่กับมันยังไง อยู่กับครอบครัวที่เมียป่วย ลูกก็ได้เท่านี้
เราคิดแง่บวกดีกว่า ถ้าคิดลบเราก็จะท้อแท้ การทำงานก็จะไม่มีสมาธิ สมาธิสำคัญที่สุดในการทำงาน หากเราคิดถึงเรื่องครอบครัว คิดถึงที่เรื่องมันทุกข์ เราก็จะทำงานตรงนี้ไม่ได้ ผมก็รู้สึกว่าโอเคเราตัดเรื่องนี้เอาไว้ แต่สุดท้ายเราก็จะมีเรื่องอื่นมาทดแทนนะครับ ก็ไม่เสียใจ ไม่เสียดายเลยที่เป็นแบบนี้ ก็มีลูกสาวอีกคน จันทร์เจ้า คนนี้เก่ง สิ่งที่เราได้คือได้ลูกอยู่กับเรา กำปั้นเรียนไม่จบไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องของการเอาปริญญามาให้พ่อ แล้วพ่อจะภูมิใจ แต่เราภูมิใจที่เขาเป็นคนรักครอบครัว
สุดท้ายเจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงการเปิดเผยเรื่องราวครอบครัวไว้ว่า เราก็ไม่อยากบอกใครนะ แต่พอวันหนึ่งที่มันรู้สึกว่ามันก็เป็นกำลังใจให้เรายืนหยัด ผมเชื่อว่าเรื่องแบบนี้คนอื่นทุกข์กว่าผมก็มีนะ ลำบากกว่าผมก็มี อยากจะบอกว่าความลำบากอะทุกคนมีหมด อยู่ที่เราจะมีมุมมองยังไงแล้วแก้ไขปัญหามันยังไง ก็เลยได้พูดออกไป