ทำเอาขาเผือกแตกตื่นกันไม่น้อย หลังจากนางร้ายมากความสามารถ แหม่ม วิชุดา โพสต์ข้อความ "หน้าอย่าง หลังอย่าง" จนคนสงสัยว่าโพสต์นี้สื่อถึงใคร เกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยล่าสุด (20 กันยายน 2566) เจ้าตัวก็ได้ชวนเพื่อนซี้ กิ๊ก มยุริญ มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ และมีช่วงหนึ่งที่ถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
- คุณไปลงอะไรในสตอรี่ ?
แหม่ม : เพื่อนเปิดมาเราก็ต้องต่อเพื่อนนิดหนึ่ง
- คุณนุ๊ก สุทธิดา ?
แหม่ม : ใช่ค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเขาเปิดว่าอะไร หน้าอย่าง หลังอย่าง
- อีโมจิเป็นรูปเท้าด้วยนะ ?
แหม่ม : อยากมอบให้
- หน้าอย่าง หลังอย่าง พี่เจอมาเยอะ แล้วน้องเจอบ้างไหม คืออะไร ?
แหม่ม : ก็คนหน้าอย่างหลังอย่างไง แต่สกิลของคนหน้าอย่างหลังอย่างที่พี่เจอ มันไม่ใช่แค่สมมติว่าไม่ใช่แค่เจอแล้วเอาเราไปนินทา แล้วต่อหน้าเรามาทำดี สกิลของเขาคือกุเรื่อง สร้างเรื่องให้เราเป็นคนชั่ว ถ้าสมมติเล่าให้เป็กกี้ฟังก็จะบอกไม่เห็นแรงเลย ก็จะเพิ่มปริมาณความแรงจนเป็กกี้เกลียดพี่ได้ แล้ววีรกรรมมันมีหลายอีพีมาก ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานของคนคนนี้เขาเป็นคนชอบทำให้คนตีกัน โดยที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันเลย ไปคุยกับคนที่หัวอ่อน ๆ หน่อย อย่างแบบ หนิงไม่เคยมีเรื่องอะไรกับพี่นะ แต่เคยเจอกันทั่วไป สามารถพูดจนหนิงเกลียดพี่ได้
- เพื่ออะไรอะ ?
แหม่ม : ไม่รู้ แล้วพี่ก็ไม่รู้เรื่องเลย พี่รู้จักมาเกือบ 10 ปี ไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนแบบนั้น คือเรดาร์จับสตอมันพัง
- แล้วไปเกี่ยวอะไรกับพี่นุ๊ก ?
แหม่ม : พี่นุ๊กก็โดน แต่พี่นุ๊กเขาจะเป็นลักษณะอีกแบบ เดี๋ยวให้พี่นุ๊กมาเล่าเองนะ
- ของพี่แหม่มเจอยังไงบ้าง ?
แหม่ม : ยกตัวอย่างเอาเรื่องที่แรง ๆ หน่อย ก็ไปกุข่าวว่าพี่เป็นชู้กับเพื่อนสนิทแฟนพี่อย่างนี้ แล้วพี่ก็ทักไปถามว่าพูดอย่างนี้จริงเหรอ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ใช้คำว่าเป็นชู้ แต่ว่ามันเป็นการกัดแซวเล่น แต่รายละเอียดขอไม่ลงดีเทลนะคะ เฮ้ย...ต้องลงดีเทล
- คนในวงการบันเทิงไหม ?
แหม่ม : ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง แต่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับคนในวงการบันเทิง ไม่ใช่ผู้จัดการดารา ไม่ใช่คนประสานงาน ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงเลย
- กว่าพี่แหม่มจะรู้ตัว คบเขามากี่ปีแล้ว ?
แหม่ม : เกือบ 10 ปี พี่มีความแหม่ง ๆ นิดหนึ่ง สมมติเขาเจอหนิง เขาจะเข้าไปหาหนิง สวัสดี น่ารัก แล้วชอบไปคอมเมนต์ในไอจีหนิง sis เลิฟจังเลย แต่คือด่าหนิงให้พี่ฟังยับอย่างนี้ แล้วพี่ก็เอ๊ะ...ทำไมตอนเจอหนิงแล้วเขาดีกับหนิงวะ แล้วเขาเกลียดหนิงได้ขนาดนั้น พี่ก็เริ่ม...กูจะโดนไหมเนี่ย อันนี้แรง มันหลายเรื่อง เรื่องมันเยอะจริง ๆ
กิ๊ก : ใช่คนเดิม คนนั้นไหม
แหม่ม : พยักหน้า
- พี่กิ๊กรู้ด้วย ?
กิ๊ก : รู้ค่ะ
แหม่ม : เวลามีทีก็ไปคุยกับพี่กิ๊กทำให้เราเย็นลง บางทีเรื่องมันแรง มันไม่ไหว แล้วเขาอะ สมมติพูดให้หนิงเกลียดพี่แล้ว แล้วคิดว่าพี่กับหนิงไม่มีทางคุยกันแน่ แล้ววันหนึ่งทุกคนมาคุยกัน แล้วความแตกรู้ทุกอย่าง แล้วทุกคนที่เขาเอามาด่าเละ ๆ เนี่ย คือตอนนั้นคนฟังก็หูเบา คนเล่าก็ปากหมา เราก็หูเบาก็ฟัง แล้วเชื่อ แบบไม่โอเคกับเป็กกี้เหมือนกันนะ แต่แปลกเวลาเจอเป็กกี้พี่ก็ประมาณหนึ่ง ไอ้นี่เข้าไปกอดเป็กกี้ เอ้า...เดี๋ยวสิให้กูเกลียดอยู่คนเดียวได้ยังไง มึงด่าเขาเละขนาดนี้ กูเกลียดเพราะมึงนะ นึกออกปะ แบบนี้เยอะมาก ก็เลยเอะใจ
- ได้บอกเขาตรง ๆ ไหม ?
แหม่ม : บอก เขาก็แกล้งบล็อกไลน์ แต่มันเช็กได้ไงว่าบล็อกหรือไม่บล็อก หรืออีกอันที่แบบชั่วมากคือ สมมติเขาชวนพี่ทำธุรกิจ อยู่ดี ๆ ไลน์ออฟฟิเชียลพี่หายไปเลย หาไม่เจอ ลูกค้าสั่งของไม่ได้ พี่ก็ไปเช็กจนรู้มาว่ามีหนึ่งในแอดมินลบไลน์ออฟฟิเชียล ลบบัญชีไปเลย เฮ้ย ... มันพังนะ มันเรื่องธุรกิจ พี่ก็ลงเฟซบุ๊กว่าพี่เช็กได้เรื่องนี้มีผลตามกฎหมายว่าใครเป็นคนทำ ถึงค่อยส่งข้อความมาขอโทษ บอกไม่ได้ตั้งใจทำ แต่พี่มารู้ทีหลังไปพูดกับคนอื่นว่าตั้งใจแกล้ง คือเวลาที่เขาจะติดตัวใคร หรือเขาจะทำให้ใครเชื่อ เขาจะติดตัวจนเราไม่มีโอกาสได้คิดเลย พี่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน คนอื่นเตือนพี่ พี่ไม่ฟังเลย แล้วพี่ไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบแย่ได้ขนาดนี้ แล้วทุกวันนี้คนที่เขาคบอยู่ก็โดนด่าเละทุกคน แต่เราจะไปเตือนเขา เขาไม่ฟังนะ เพราะเขาแก้ตัวเก่ง
- กรณีแบบนี้จัดการยังไงดี ?
กิ๊ก : พี่ว่าเราต้องใช้ทางธรรมนำก่อน อย่างน้อยแหม่มเขาจะเห็นระบบกรรมทำงาน สุดท้ายเขาว่าคนอื่น เขามีความสุขกับการเห็นคนอื่นแตกแยก สุดท้ายเขามีความสุขไหม ตัวเขาแน่ ๆ ไม่มีความสุข เพราะคนที่อยู่รอบข้าง พอมารู้ก็ไม่มีใครคบเขาจริงไหม ระบบกรรมมันใช้เวลา มันไม่ใช่ทำปุ๊บแล้วมันเห็นทันที แต่เมื่อเขาเปิดช่องให้อกุศลส่งผล คือทำไม่ดีมาก ๆ ไปยุแยง การทำบาปด้วยวาจามันหนักนะคะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ การที่ทำให้คนแตกแยก เพ้อเจ้อ พูดโกหกต่าง ๆ มันเป็นกรรมทางวาจาที่เป็นกรรมหนัก เพราะมันทำให้คนขาดความรัก ความสามัคคีกัน สิ่งนี้มันจะมีผลกระทบค่อนข้างเร็วแล้วก็รุนแรง แต่มันใช้เวลา
แหม่ม : ชีวิตมันค่อย ๆ พังไปเรื่อย ๆ จริงนะ เวลาคุยกับพี่กิ๊ก พี่กิ๊กจะไม่พูดว่าแหม่มปล่อยเขาไปเถอะ ปล่อยวาง พี่กิ๊กจะไม่อะไรแบบนี้ พี่กิ๊กจะใช้คำนี้พูด พอฟังแล้วมันปลดล็อก แล้วเรารู้สึกว่าโอเคยังไงวันนึงมันก็ต้องมีแล้วมันเป็นอย่างที่พี่กิ๊กพูดจริง ๆ
- พี่แหม่มคิดว่า ณ ตอนนี้เขารู้ตัวหรือยังว่าหน้ากากเขากำลังจะถูกฉีกออก ?
แหม่ม : ถ้าสมมติว่าถูกฉีกจากกลุ่มนี้เขาก็จะเปลี่ยนกลุ่ม ไปเป็นแบบนี้กับคนอื่นต่อ
กิ๊ก : ถ้าใช่คนนี้พี่ไม่รู้จักเขา แต่พี่ฟังจากที่แหม่มพูด พี่บอกเลยว่าคนคนนี้ปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีความสุข ชีวิตครอบครัวเขาก็ไม่สมบูรณ์
- ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา ?
กิ๊ก : พี่มั่นใจว่าคนเราจะอยู่ร่วมกันได้ มันจะต้องมีความรัก มีความจริงใจ มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน หากเราทำสิ่งเหล่านี้ผลที่เราได้รับการตอบสนองก็จะมีแต่คนรักเมตตา ปรารถนาดีกับเรา สิ่งที่น้องทำอยู่ หากน้องรู้ว่าเป็นตัวเอง พี่ก็ไม่อยากให้น้องทำต่อไป เพราะพี่บอกเลยว่ากฎแห่งการกระทำ ยุติธรรม เสมอ หนูทำอะไร หนูต้องได้รับผลแบบนั้น แต่หากรู้ว่าไม่ดี เราลด ละ เลิก ตั้งเจตนาที่จะปรับปรุงตัวเองอันนี้เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญและน่ายกย่องมาก ๆ
แหม่ม : พี่ไม่รู้จะบอกอะไร คือเขาเป็นเกลือเกินแกงมากแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดกับเขา ตอนนี้พี่ปล่อยมากแล้ว ก่อนหน้านี้อยากจะไปหาถึงบ้าน
กิ๊ก : พี่จะบอกแหม่มว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ถ้าเราให้อโหสิเขาอย่างแท้จริง เราก็จะปล่อยวางจากเขาไปเลย เขาก็จะเป็นคนไม่ดีของเขาต่อไป แต่เราหลุดจากเขามาแล้ว เพราะฉะนั้น โกรธ เกลียดใคร ต้องยิ่งเมตตาเขา ให้อภัยเขา ไม่โกรธเขา ไม่เกลียดเขาคือการให้อภัยตัวเอง ทำให้ตัวเองหลุดจากเขามา เราจะได้ไม่ต้องมาเกิดแล้ววนมาเจอเขาอีก ยิ่งไม่ชอบใคร ยิ่งต้องให้อภัยให้ได้จริง ๆ จากใจของเรา
ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama