จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน เมื่อวานนี้ (3 ตุลาคม 2566) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยหนึ่งในคนบันเทิงที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ "จิ๊บ ปกฉัตร" และ "เอ็ม" ผู้จัดการส่วนตัว ที่เจ้าตัวได้ถ่ายคลิประหว่างหนีตายเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์จนกลายเป็นไวรัล และถูกติติงเป็นอย่างมาก เนื่องจากวิธีการเอาชีวิตรอดที่ไม่ถูกหลักวิธี
โดยล่าสุด (4 ตุลาคม 2566) จิ๊บ ปกฉัตร และผู้จัดการส่วนตัว ได้มาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
จิ๊บ : ก่อนอื่นต้องพูดว่าขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและภาวนาอย่างที่สุดให้ผู้บาดเจ็บตอนนี้รอดปลอดภัย ในฐานะที่เราเจอเหตุการณ์มาเมื่อวานก็อยากโอบกอดทุกคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์กัน ณ บริเวณนั้น เราเข้าใจความแพนิกที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เราเองก็เป็น ที่วันนี้เรามาออก เพราะจิ๊บอยากมารับผิดชอบ ในฐานะที่คลิปนี้กลายเป็นไวรัล แล้ววิธีการหนีที่เกิดขึ้นในคลิป จิ๊บอยากรับผิดชอบว่าการที่จิ๊บหนีเข้าไปในลิฟต์ ออกไปในรถหรืออะไร ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ไม่ใช่วิธีการหนีที่ถูกต้อง วันนี้จิ๊บเลยขอใช้พื้นที่รายการนี้ ที่จะบอกทุกคนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณห้ามทำเลียนแบบทุกอย่างในคลิปนี้
- ทุกอย่างที่ทำมันผิดหมด ?
จิ๊บ : คุณห้ามเข้าไปในลิฟต์ เพราะลิฟต์คือทางตัน เราไม่รู้ว่าเหตุเกิดชั้นไหน เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ตอนที่จิ๊บไปถึงและจอดรถลง นั่นคือจังหวะที่พอดีกัน ไม่ได้อยู่ในพารากอนก่อน ?
เอ็ม : ณ ตอนนั้นเราไปทำธุระกันมาก่อน แล้วไปเดินห้างกันมาก่อนที่เอ็มควอเทียร์ แล้วกลับมาห้างนี้ 4 โมงตรงเป๊ะเลย เราจอดรถชั้นเอ็มแล้วเดินขึ้นชั้น 1 พอขึ้นมาชั้น 1 เราก็ตกลงกันว่าจะทานอะไรกันดี จิ๊บบอกว่าไปชั้น 4 แล้วกัน เรากำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน จังหวะเดินอยู่มีคนวิ่งแล้ว เราก็พูดเล่นกับเพื่อนว่าตามดารา ข้างบนมีงาน เราคิดอย่างนี้ พอขึ้นชั้น 2 เฮ้ย วิ่งอีกแล้ว จิ๊บ ตามเธอแล้วล่ะ ไม่ใช่หรอก ขึ้นชั้น 3 ก็วิ่งอีก ชั้น 4 ก็วิ่งอีก เราไม่รู้จริง ๆ เราก็เดินไปตรงกลางของห้างที่จะมองลงไปว่ามันมีอะไร มองปุ๊บวิ่งทุกชั้นเลย ในทิศทางเดียวกัน ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ดาราแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร
- จิ๊บรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ?
จิ๊บ : ตอนนั้นไม่รู้ว่ายังไง ก็ดูข่าวในทวิตเตอร์แล้วบอกว่าเขายิงกัน ก็คิดว่าเป็นแบบยิงกันเฉย ๆ ไม่รู้ว่ามันคือเหตุการณ์อะไร คิดว่าเขาคงตกใจเสียงปืนก็เลยวิ่ง เราก็เริ่มมูฟ
เอ็ม : เราเดินเร็วก่อน แล้วมีพี่ผู้หญิงสองคนเดินมาชนก็เลยถามว่าพี่มันคืออะไร เขายิงกัน 3 นัด ทีนี้ทั้งเลขา เอ็ม คนทำคอนเทนต์ก็วิ่งกัน แล้วชั้นนั้นไม่มีทางออกไปลานจอดรถ
จิ๊บ : เราไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์จะใกล้ตัว เราก็เลยไม่สนใจว่าทางออกควรอยู่ตรงไหน ทางออกฉุกเฉินอยู่ยังไง เราไม่รู้ว่ามันใกล้ตัว เรางง และไม่มีสติ
- ได้ยินเสียงปืนตอนไหน ?
เอ็ม : ตอนที่วิ่งเข้าลิฟต์แล้วเปิดชั้น 1 จะวิ่งเข้ารถ เสียงปืนไล่ตามหลัง เสียงปืนมันก้องมาก มันใกล้หลังเรามาก ทีนี้วิ่งเร็วมาก ๆ ไม่คิดชีวิตแล้ว ถ้าเห็นในคลิปที่เอ็มวิ่ง มันไม่ได้วิ่งนะ มันถูกผลักจนไหลไปเองหมดแล้ว ทุกคนหนีตายกันหมด
จิ๊บ : จะบอกว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคะ ถ้าจะหนีห้ามหนีเข้าลิฟต์ สองไม่ควรหนีแล้วไปขึ้นรถ คุณควรหนีจนสุดทางออกจากบริเวณนั้นให้ได้ ไม่ใช่หนีไปขึ้นรถแบบที่เราทำ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ตอนนั้นเราทุกคนบริเวณนั้นขาดสติ มันคิดไม่ออก ต้องยอมรับตรง ๆ คำว่าสติมันสำคัญมาก ก็ต้องขอบคุณหลายคนที่เตือนตอนหลังมา ว่าการเข้าไปบริเวณลิฟต์เราไม่รู้เขาอยู่ตรงไหน ถ้าเปิดลิฟต์มาแล้วเจอเขาเลยทำไง เราไม่ได้คิดเลยจริง ๆ ฉะนั้นอย่าทำเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ
- ในฐานะพี่ชายและรู้จักเอ็ม ตอนขาดสติทุกคนเป็นแบบนี้ ฉะนั้นไม่ต้องโทษตัวเองมาก ถ้าเป็นพี่อะไรใกล้ตัวสุดก็ไปตรงนั้น ?
จิ๊บ : พอผ่านมาแล้วเราก็คิดได้ ก็ขอรับผิดชอบว่าอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama