x close

หนิง ปณิตา เล่านาทีเผชิญหน้าสาวมือที่สามในศาล รับมือสั่น มีโกรธ.. แต่ต้องมีสติ !

          หนิง ปณิตา เมียหลวงใจพระ เล่านาทีเผชิญหน้ามือที่สาม ชมยังแมนกว่าผู้ชาย ตอบตรง ๆ เชื่อไหมว่าเขาเลิกกันจริง ?
หนิง ปณิตา

         หลังจากที่เมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม 2566) หนิง ปณิตา เดินทางขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เผชิญหน้าบุคคลที่สาม ในคดีที่หนิงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคู่กรณี ในคดีละเมิดเรียกค่าเสียหายจากการทำให้ครอบครัวต้องพัง โดยทั้งคู่ใช้เวลาไกล่เกลี่ยนานถึง 7 ชม. ก่อนตกลงกันได้ด้วยดี คู่กรณียอมโพสต์คลิปขอโทษหนิงในไอจี และห้ามลบคลิปเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่หนิงยอมลดค่าเสียหายให้เหลือ 3 ล้าน จากที่เรียกไป 10 ล้าน ให้ผ่อนจ่าย 4 ปี

          อ่านข่าว : คู่กรณีอัดคลิปขอโทษ หนิง รับคิดผิดเชื่อคำผู้ชาย บอกจะช่วยคดี สุดท้ายให้ไปสู้กันเอง !

         โดยล่าสุด (5 ตุลาคม 2566) หนิง ปณิตา ได้ออกมาเปิดใจทุกเรื่องราวผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทาง ช่องOne31 ที่มี ชมพู่ ก่อนบ่าย และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

หนิง ปณิตา

- มีโอกาสเจอหน้ากันครั้งแรก เป็นยังไง ?

          หนิง ปณิตา : ณ วินาทีแรก เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่รู้สึกอะไร ความรู้สึกมีอยู่แล้วแหละ โกรธมันมี แต่เรารู้สึกที่ว่าจะโกรธก็ต้องมีสติตลอด ต้องสั่งตัวเองให้ใจเย็นและมีเหตุผล ตอนเจอเขาก็มือสั่นนะ แต่พอหายใจเข้าออก มีสติ ใจเย็น ทุกอย่างกำลังจะดีแล้ว ก็อยู่ในสภาวะที่เราควบคุมได้

- มีจังหวะพีคปะทะคารมกันด้วย ?

          หนิง ปณิตา : ไม่เรียกว่าปะทะคารม พอศาลท่านเมตตาให้เราไกล่เกลี่ยกัน ก็เป็นจังหวะที่เรากับเขาได้เผชิญหน้ากันพูดคุยกันครั้งแรก แน่นอนว่าการพูดคุยกันครั้งแรก เราก็อยากพูดในส่วนของเรา ว่าเรารู้สึกยังไง เราก็พูดกับเขาว่า ขอโทษนะที่พูดทั้งหมด เรามีระยะเวลาพูดสั้นมาก เราพูดชัด ๆ ตรง ๆ ไม่ต้องแปล แล้วหนิงเป็นคนแบบนั้น หนิงขอแค่อย่างเดียวการเคลียร์กันให้สำเร็จและแยกย้ายจากกันไปด้วยดี มันต้องมาจากพื้นฐานที่ว่าคุณรู้สึกว่าคุณผิดก่อน ถ้าคุณรู้สึกว่าผิดได้มันก็จะไปในทิศทางที่ควรจะไปได้ ซึ่งยอมรับว่าน้องทำได้ดีพอสมควร แล้วพอเขาทำได้ดีพอสมควร มันทำให้เราเปิดใจที่จะฟังอะไรอีกหลาย ๆ คำที่เขาพูด แต่ถ้าเขาทำตรงนี้ไม่ได้ มันก็ทำให้เราไม่ได้เปิดใจฟังเขา เรื่องมันก็จะไม่จบ ถูกมั้ย ก็ต้องไปอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมที่จะเป็นคนฟัง

หนิง ปณิตา

- ในฐานะรู้จักพี่หนิงมานาน ตอนแรกคิดว่าโหด ดุ แต่จริง ๆ เป็นคนใจอ่อนและใจเย็นมาก เมื่อวานก็เป็นอีกครั้ง พอเขาร้องไห้ ขอโทษ แม่ก็ใจอ่อนให้อภัยเขาเลย ทำไมถึงเห็นใจเขา ?

          หนิง ปณิตา : เป็นคนเห็นน้ำตาคนไม่ได้ นี่คือจุดอ่อนของเรา แต่บนความที่ไม่ได้เรียกว่าให้อภัยหรอก เรียกว่ายอมเปิดใจยอมฟังคนอื่นบ้าง เพราะปัญหาทุกปัญหาเวลาเกิดต้องฟังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร พอเขาพูดมาเราก็บอกว่ามันไม่ใช่ สิ่งนี้คุณก็ต้องการแบบนี้ อย่างเขาบอกว่าเขาโดนผู้ชายหลอก เราก็บอกว่าไม่ หนิงไม่ได้เข้าข้างจิน อย่าคิดว่าการที่บอกว่าไม่ คือหนิงเข้าข้างจิน แต่มีคนเตือนคุณนี่ ถ้ามีคนเตือนคุณ คุณต้องรับฟังแล้ว คุณจะบอกว่าโดนหลอกไม่ได้ เพราะมีคนเตือนคุณ คุณต้องยอมรับตรงนี้ก่อนว่าคุณไม่ฟังใคร ถ้าไม่ฟังใครแล้วรู้ว่าเขายังไม่ได้เลิกกับครอบครับครัวเขา แสดงว่าคุณผิด แต่ถ้าคุณฟัง คุณออกไปเลยนะ แต่นี่คุณไม่ฟัง แต่ถามว่าเขาโดนหลอกจริงมั้ย เขาก็อาจโดนการพูดเหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์ไป เราก็ต้องเปิดใจฟังตรงนี้ ตรงนี้เลยเป็นจุดที่ทำให้เราเห็นใจเขา

- มีข่าวออกมาว่าคู่กรณีพี่หนิงร้องไห้ คำไหนที่ทำให้เขาร้องไห้ออกมา ?

          หนิง ปณิตา : ประโยคที่บอกว่าก่อนอื่นต้องยอมรับให้ได้ก่อน หนิงยอมรับฟังแล้วว่าโดนหลอก แต่โดนหลอกแล้วยอมให้เขาหลอกด้วยมั้ย มันเป็นจุดที่ทำให้ตัวเองรู้สึกต้องยอมให้เขาหลอกมั้ย หนิงขอไม่เอาคำพูดที่เราคุยกันอย่าไปลงดีเทล เพราะน้องเขาทำในส่วนที่ต้องทำ ณ ตรงนั้น ต้องยอมรับว่าถ้าเขายอมรับแล้วก็โอเค คนเราถ้าไม่ยอมรับจะเดินต่อไม่ได้ แต่วันนี้เขายอมรับ เราต้องให้โอกาสเขามั้ย คนเรามีใครไม่เคยทำผิด วันนี้หนิงมานั่งตรงนี้ได้เพราะหนิงเคยทำผิด และทุกคนยังเคยให้อภัย สังคมยังให้อภัยในสิ่งที่หนิงทำผิด หนิงถึงนั่งตรงนี้ได้ สังคมก็ต้องให้อภัยถ้าเขาทำผิด เพราะเขายอมรับ เราก็ควรให้โอกาสและดูว่าข้างหน้าเขาจะทำยังไง ถ้าเขาแก้ไขได้ ทำให้เราสร้างคนดี ๆ ได้คนนึงเลยนะ แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ อันนั้นก็คือตัวเขา สำหรับเรากับเขา จบเรียบร้อย

หนิง ปณิตา

- ช่วงพักเบรกกินข้าว เห็นบอกว่าใจอ่อน ถึงขนาดให้คนเอาข้าวเอาน้ำไปให้เขากิน เอ่ยปากเองเลยว่ากินข้าวหรือยัง ?

          หนิง ปณิตา : ด้วยสถานการณ์ในศาลมันเครียดมากจนต้องเบรกทานข้าว ก็ถามว่าจะกินอะไร เพราะตรงนั้นศาลท่านก็ให้โอกาสเราพูดคุยว่าต้องเคลียร์อะไร แล้วมันก็หิว พี่ก็หิว เชื่อว่าเขาก็หิว เรามีลูกน้องไป เราก็แค่สั่งให้ซื้อมาและดูแลทุกคน เวลาหิวแล้วเราก็เบลอ คิดอะไรไม่ออก ตัวเราเครียดแค่ไหนเชื่อว่าเขาเครียดมากกว่า เพราะส่วนของเรายังได้รับกำลังใจจากทุกคน แต่เขาโดนสังคมซ้ำเติม ๆ

- ไม่ได้หยุดแค่ข้าว เอาข้าวให้ไม่พอ แกะให้ด้วยจากที่ทราบจากเลขาฯ เอาน้ำให้เขาอีก ?

          หนิง ปณิตา : ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว

- เขาโพสต์คลิปจากใจที่อยากอธิบายหรือเป็นคำสั่งศาล ?

          หนิง ปณิตา : ในกระบวนการไกล่เกลี่ยให้ยอมความ ศาลก็จะทำให้อยู่ตรงกลางให้ดีที่สุด แล้วอย่าคิดว่ากระบวนการยุติธรรมไม่มีนะ สมมติหนิงเรียกร้องไปมากกว่านี้เยอะมาก แต่หนิงได้แค่นี้ เมื่อวานหนิงก็พูดกับศาลว่าทำไมแบบนี้ ๆ ศาลก็สอนหนิงมาว่า ด้วยหนิงเรียกร้องขนาดนี้มันสูงมาก แต่น้องเขาทำได้แค่นี้ เราไปเรียกร้องมากกว่านี้มันก็เป็นไปไม่ได้ นี่คือสุดเพดานเขาแล้ว คุณหนิงเดินลงมาไม่มีอะไรจะเสีย มันควรเจอกันที่ควรจะเจอกัน ถ้าอะไรยอมได้ก็ยอม ก็ให้มันจบได้เร็วที่สุด และให้ดีที่สุด

หนิง ปณิตา

- เขาเลิกกันจริงมั้ย ?

          หนิง ปณิตา : ณ วันนี้เขาพูดว่าเขาเลิกกัน จะแก้ไขปัญหาข้างหน้าให้ดีที่สุด อนาคตเราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ ณ วันนี้เมื่อเขาพูดอย่างนี้ เขายอมแบบนี้ในกระบวนการยุติธรรม เราให้กฎหมายเป็นตัวตัดสิน เราก็ต้องเคารพกฎหมายที่ตัดสินออกมา ที่เขาพูดแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการให้โอกาสของหนิง หนิงเชื่อว่าสังคมก็ควรให้โอกาสเขา อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นเราไม่รู้เลย ไม่มีใครบอกอนาคตได้ สำหรับหนิงกับเขาคือจบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนี้ถ้าเขาจะไปคบกันก็เป็นเรื่องเขากับคุณจิน ไม่ใช่เรื่องของหนิงกับเขา หรือหนิงกับจินอีกต่อไป

- เมื่อวานเซ็นยอมความเรียบร้อย ?

          หนิง ปณิตา : ใช่ค่ะ และทุกอย่างออกมาเป็นสิ่งที่ศาลสั่งลงมาว่าให้ทางน้องลงคลิปขอโทษหนิง ค่าใช้จ่ายตกลงกันที่เท่าไร หนิงไม่มีสิทธิ์บังคับให้ทำอะไร เพราะเราให้กฎหมายเป็นคนตัดสิน

- อะไรทำให้นิ่งขึ้น เปลี่ยนไปเยอะ เมื่อก่อนอารมณ์นำ เครียดเข้า รพ. ปัจจุบันมีสติ นิ่งขึ้นเยอะเพราะอะไร ?

          หนิง ปณิตา :น้องณิริน คำเดียวเลย หนิงโกรธเท่าไร สำหรับเรื่องนี้ น้องณิรินโกรธหนักกว่าหนิง อย่าลืมว่าสามีภรรยาแยกกันก็เป็นคนอื่น แต่น้องณิรินไม่สามารถแยกความเป็นลูกความเป็นพ่อกับคุณจินได้ สายเลือดมันผูกพันกัน หนิงโกรธเท่าไร  ลูกหนิงโกรธมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหนิงไม่ดับไฟในตัวหนิงลง ลูกหนิงก็เหมือนไฟสุมอยู่ในตัว ถ้าหนิงจะสอนเขา ณิรินไม่เอาลูก อย่าไปว่าเขาแบบนี้ อย่าก้าวร้าวแบบนี้ แต่ตัวแม่ยังจบเรื่องตรงนี้ไม่ได้ หนิงจะเอาหน้าที่ไหนไปสอนลูก สิ่งเดียวเลยที่หนิงยอมจบ บางคนบอกว่าหนิงใจดีเกินไป หนิงเป็นแม่พระ หนิงไม่ได้ดีขนาดนั้น หนิงก็ทำเพื่อตัวหนิงเอง เพราะต้องการให้ลูกหนิงจบ ต้องต่อสู้กับทุกอย่างในใจหนิงพอสมควร หนิงมีทิฐิ หนิงมีความโกรธ หนิงถูกกระทำแบบนี้หนิงอยากต่อสู้อยากเอาชนะ แต่มันไม่ได้ ไฟมันจะขึ้น ๆ แต่ถ้าไฟดับเมื่อไร ก็จะเอาตรงนี้เป็นตัวอย่างว่าณิรินเห็นมั้ย แม่ทำให้หนูดู นี่แม่หนูนะ หนูบอกว่าแม่เป็นไอดอลใช่มั้ย ถ้าแม่หนูทำได้ หนูก็ทำได้ เราจะใช้วิธีแบบนี้คุยกับเขา

หนิง ปณิตา

- เปลี่ยนเพราะน้องณิริน ?

          หนิง ปณิตา :อย่าใช้คำว่าเปลี่ยนไปเลย พยายามปรับปรุงตัวในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเพื่ออยากให้เด็กคนนึงเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ (เสียงสั่น) เขาเป็นเด็กที่ไม่จำเป็นต้องมานั่งรับเรื่องพวกนี้เขาเป็นเด็กมีความสุข เขาน่ารัก ยิ่งเขาแข็งแรงเท่าไหร่ เรายิ่งต้องอดทนต่อสู้ให้ดีที่สุด อาจไม่ถูกใจหนิง แต่ถูกต้องที่สุดสำหรับณิริน เป็นการฝึกเขาอย่าใช้ความโกรธในการสื่อสาร เพราะหลังจากนี้หนิงกับจินคือคนนอกแล้ว แต่ณิรินกับจินยังมีสายเลือดผูกพัน เขาต้องคอนเนคกัน ฉะนั้นต้องสื่อสารติดต่อพูดคุยอะไรกัน หนิงไม่อยากให้ณิรินใช้ความโกรธนำในการสื่อสารกับพ่อ จะไม่ได้อะไร แล้วณิรินเพิ่ง 11 ขวบ แต่ถ้าณิรินใช้ความใจเย็น ณิรินก็ต้องฝึก เราเป็นทีมเดียวกัน แม้แต่น้องสาวคุณจิน ก็ยังน่ารักมาก ๆ คอยซัพพอร์ต ณิรินโชคดี สิ่งนี้สำคัญมาก เราเดินนับถอยหลังแล้ว เราไม่รู้เราจะตายเมื่อไหร่ แต่ลูกเราต้องอยู่บนโลกใบนี้ แล้วเราจะทำยังไงให้ลูกเราเป็นเด็กที่เผชิญกับโลกได้อย่างไม่ต้องแก้ไขปัญหาด้วยอารมณ์ หรือสิ่งที่เราเคยพลาดมา เราไม่อยากให้ลูกเราพลาดในสิ่งที่เราเคยเป็น แล้วสังคมทุกวันนี้ โอ้โห มันเยอะแยะที่เห็นกันตามหน้าข่าว เราอยากให้ลูกเราแข็งแรง เราต้องเป็นเซ็นเตอร์ เป็นเสาหลักให้ได้ก่อน ถ้าเราเป็นเสาหลักไม่ได้ ลูกเราล้มแน่ ๆ แฟมิลี่ไหนที่มีปัญหาพ่อแม่เลิกกัน แฟมิลี่นั้นไม่มีหรอกที่ลูกจะสมบูรณ์ แล้วเด็กไม่สมควรได้รับสิ่งนี้เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา ฉะนั้นเราต้องยืนให้มั่น นี่สำคัญมาก ๆ แต่ไม่ใช่ทำได้ดีนะ วันนี้พยายามจะทำอยู่ แต่โชคดีกว่าอีกหลาย ๆ คนตรงที่พอเซปุ๊บ มีคนนี้คอยรับข้างนี้ เซมุมนั้นมีคนคอยรับข้างนั้น 360 องศา หนิงมีคนคอยรับการเซของหนิง

- อยากบอกอะไรถึงคู่กรณีของเราผ่านหน้าจอตรงนี้ ?

          หนิง ปณิตา :น้องทำได้ดีมาก ๆ แล้ว ในสิ่งที่มันเกิดขึ้น ชื่นชม วันนี้ถ้าเขายอมรับผิดแล้ว ก็ให้กำลังใจเขาหน่อย ชื่นชมว่าเขาเป็นผู้หญิงที่แมนมากคนนึง เมื่อวานที่เขาร้องไห้เขากลัวด้วยว่าการที่เขาโพสต์ลงไป เขาจะโดนสังคมรุมซ้ำเติมเขาแค่ไหน แต่หนิงพูดคำนึงกับเขาว่านั่นคือสิ่งที่คุณต้องได้รับจากการที่คุณทำผิด แต่ขอให้คุณขอบคุณหัวใจตัวเอง เพราะคุณแมนมากที่คุณกล้ายอมรับความผิดและกล้าพูดออกไปต่อหน้าสังคม คุณแมนกว่าผู้ชายบางคน แล้วมันจะผ่านไป หนิงก็พูดแบบนี้แล้วก็ตบไหล่เขา ถ้าเขาทำได้แบบที่พูดกับหนิงนะ แล้วเขาจะผ่านไป อย่าไปด่าอะไรเขาเลย วันนี้ใครอยากด่าเขาให้ใจเย็น ๆ รอดูเขาหน่อยดีกว่า บางทีการไปซ้ำเติมเขาไม่ใช่เรื่องโอเค หนิงไม่ใช่แม่พระนะ แต่คิดว่าเรื่องหนิงกับเขาให้จบวันนี้ดีที่สุด แต่อนาคตหนิงกับคุณจินจะยังไง เป็นอีกบทเรียนต่อไป ซึ่งมันก็ยังไม่จบ

- ข้อคิดสั้น ๆ สำหรับคู่กรณี ?

          หนิง ปณิตา :หนิงคิดว่าน้องเขารู้เยอะมากแล้ว ในบทเรียนที่เขาได้รับ

- เผื่อบ้านอื่นเจอปัญหานี้ ข้อคิดของคนที่กำลังจะเดินทางผิด อยากเตือนอะไร ?

          หนิง ปณิตา :ต้องนึกเลยว่าถ้าคุณจะก้าวไปยุ่งกับชีวิตใคร ถ้าตัวคุณเองโดนทำแบบนี้บ้างกับชีวิตคุณ คุณจะรู้สึกยังไง แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่แคร์ก็เชิญ แล้วเชื่ออย่างหนึ่งกฎแห่งกรรมมีจริง แล้วกรรมจะเป็นตัวที่ใช้เวลาหน่อย พี่อ้อมบอกว่ากรรมมันมาหลายรูปแบบ มันอาจไม่มีวันนี้ แต่ถึงเวลามันจะมาเอง เวลาจะทำอะไรคิดถึงใจเขาใจเราเยอะ ๆ

หนิง ปณิตา

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนิง ปณิตา เล่านาทีเผชิญหน้าสาวมือที่สามในศาล รับมือสั่น มีโกรธ.. แต่ต้องมีสติ ! โพสต์เมื่อ 5 ตุลาคม 2566 เวลา 19:40:05 8,194 อ่าน
TOP