วิลลี่ เปิดใจเคลียร์ ย้ายประเทศจริงไหม ? หลังขายบ้าน 7 ชั้น - เสนาหอย ใจหาย !

              เปิดใจที่แรก เสนาหอย สุดใจหาย เล่าโมเมนต์ วิลลี่ แมคอินทอช บอกจะไปอยู่สหรัฐอเมริกา เผยสาเหตุตัดสินใจขายบ้าน 7 ชั้น แพลนส่งลูก-ภรรยา ไปอยู่ต่างประเทศ

              วิลลี่ แมคอินทอช ควงเพื่อนซี้ เสนาหอย ประกาศเตรียมตัวย้ายประเทศ เพื่อนรักจะใจหายขนาดไหน ขณะที่วิลลี่ขายบ้าน 7 ชั้น ย่านเอกมัยแล้ว ส่วนสร้างบ้านใหม่ยึดหลักฮวงจุ้ย 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะสร้างให้ใครอยู่ ? โดยล่าสุด (12 ตุลาคม 2566) ทั้งคู่ได้พากันมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
วิลลี่ เสนาหอย

จะย้ายประเทศจริงมั้ย ?

              วิลลี่ : ผมแค่จะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศที่อเมริกา เพราะว่ามีญาติอยู่ที่นั่น จะหาโรงเรียนอยู่ที่นั่น แล้วภรรยาก็อาจจะไปด้วย แค่นั้นเอง เรายังอยู่ที่นี่ ทำงาน และจะบินไปบ้าง

แต่พี่ขายบ้านหมดแล้วนะ คนไม่ไปจริง ๆ จะขายบ้านทำไม ?

              วิลลี่ : พี่มีความจำเป็นต้องขายบ้าน เพราะยุคของฮวงจุ้ยกำลังจะเปลี่ยนเป็นยุค 9 พี่ต้องทำบ้านใหม่ พี่ตัดสินใจดูว่าท้องมังกรอยู่ตรงไหน อยู่ตรงข้ามบ้านเป๊กกี้กับฐา (หัวเราะ) ก็ไปสืบหาว่าบ้านอยู่ตรงนี้ พยายามไปหาที่เพื่อฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้านที่ดีได้ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ก็ไปดูด้วยกันนี่แหละ (หัวเราะ)
วิลลี่ แมคอินทอช

บ้าน 7 ชั้น ที่ทำอย่างสวยเลยที่เอกมัยขาย ?

              วิลลี่ : ครอบครัวเหลือเล็กแล้ว เมื่อก่อนกะอยู่ด้วยกันเยอะ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก หมาอีกตัว ฉะนั้นพื้นที่ไม่ต้องใช้ใหญ่แล้ว ก็จะย้ายมาให้มันเล็กลง เพื่อดูแลง่ายหนึ่ง สองพอย้ายมาเล็กลงแล้ว ประจวบเหมาะกับฮวงจุ้ยกำลังจะเปลี่ยนยุค ทำมันร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มาทุกอย่าง จัดทุกอณู

              หอย : เอาตรง ๆ ตอนเขาพูดกับผมครั้งแรก เขา โทร. มาพูดอย่างเดียวเลยว่าหอย กูย้ายอยู่อเมริกานะ คำคำนี้ต้องบอกว่าใจเต้นตุ้บ ๆ ชีวิตเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าเราจะอยู่กันคนละครึ่ง ทำอย่างนี้ได้อย่างไร

              วิลลี่ : นี่อยากเล่นละครใช่มั้ย โชว์ให้พี่บอยดูใช่มั้ย (หัวเราะ)

              หอย : วันนั้นมันพูดคำนี้จริง ๆ แล้วเราอยู่ด้วยกันมานานมาก ชีวิตของเรารู้สึกเลยว่าเราอยู่กันคนละครึ่งอยู่แล้ว วันนั้นพอเขาพูดแบบนั้น โดยที่ไม่พูดอะไรต่อเนื่อง เขาพูดเสร็จก็วางหู

เสนาหอย

ความรู้สึกพี่หอยตอนนั้น ?

              หอย : กูจะย้ายตาม ไม่ได้แล้ว ต้องหาที่เรียนภาษาอังกฤษ กูจะย้ายตามไปที่อเมริกา เหมือนอะไรถล่มลงมา จริงเหรอวะ นี่กูต้องอยู่คนเดียวเหรอ ธรรมดาต้องเจอกันและคุยกันทุกวัน เช้านี้เมียเขาชอบ โทร. มาว่าเย็น ๆ จะกินอะไร วิลลี่ชอบไม่สบายใจ ให้ โทร. มาถามว่าจะกินอะไร

              วิลลี่ : เหมือนกัน โทร. คุยกับเค้กส้ม เขา โทร. มาถามอะไรนะ

              หอย : วันนี้จะเอาอะไรกิน (หัวเราะ) ผมไม่รู้จะตอบเค้กส้มยังไงให้ดูอบอุ่น (หัวเราะ)

ทำไมถึง โทร. หาพี่หอยสั้น ๆ แค่นั้น ?

              วิลลี่ : บอกล่วงหน้าไง เพราะจริง ๆ ภรรยาเป็นคนบอกว่าน่าจะให้ลูกไปเรียนเมืองนอก
วิลลี่ แมคอินทอช

ถ้าเปิดมาแค่นั้น สนิทกันผมก็ช็อก ?

              วิลลี่ : เราไม่ได้คิดว่าจะแยกจากเขาหรอก คนเราเกิดมาแล้วมีเนื้องอก เราก็ต้องอยู่กับเนื้องอกไปเรื่อย ๆ ถึงแม้หมอจะทักแล้วว่าผ่าออกเถอะ เราก็บอกว่าผ่าไม่ได้ ข้างในมีฟัน มีผมด้วย มันเป็นตัวแล้ว แต่ตัวแค่นี้ อยู่กับมันไปก่อน ไม่ได้คิดเลยนะว่าจะห่างกัน แต่มันมีความจำเป็น เราเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเลือก ก็ประคับประคอง จะเรียนที่นี่ก็ไป แล้วเขาก็ถามว่ายูมาด้วยมั้ย หรือไป ๆ มา ๆ เราก็บอกว่าไป เราจะไปอยู่เยอะ เราจะเบางานลง

              หอย : เขาวางหูไป แล้วก็ยาวจนอีกวันนึง เขาเป็นคนที่ไลน์ไม่เคยตอบใคร คนไม่ต้องตกใจนะ ขนาดกูเนี่ย มันไม่เคยตอบกูเลย รุ่งขึ้นก็เลยถามว่ายังไงวะ มันก็บอกว่าจะไปแบบเดือนเว้นเดือน พาลูกไปอยู่นี่แล้วจะหยุดทำงานเดือนนึง เป็นแพลนแบบนี้ ผมกังวลมาก

ลูกกับเมียไปที่โน่นแต่พี่ไปเดือนเดียวแล้วก็กลับ ?

              วิลลี่ : จริง ๆ ต้องแล้วแต่เมียนะ ถ้าเมียบอกว่าอยู่นานหน่อย มันก็ต้องอยู่นานหน่อย คุณไม่เห็นโซ่ที่รัดคอผมอยู่เหรอ (หัวเราะ)

ถ้าพี่ต้องไปตามที่เมียสั่งก็ต้องพักงานที่นี่บ้าง รอบนี้พี่หอยนั่งห่างพี่วิลลี่เพราะโกรธกันใช่มั้ย ?

              หอย : ทำไมช่างสังเกต

              วิลลี่ : เดี๋ยวจะดราม่านะหอย แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก (หัวเราะ)

              หอย : นี่คือการเข้าเพลง ผมบอกเลยวันนั้น ใจผมดิ่งมาก โทร. ไปหาฝ่ายบัญชี ว่าเคลียร์หนี้กันหมดหรือยัง (หัวเราะ)

              วิลลี่ : (หัวเราะ) กลัวหนี

วิลลี่ เสนาหอย

เรื่องจริงคือภรรยาพี่วิลลี่จะพาลูกไปเรียนต่อที่บอสตัน แล้วพี่ก็ต้องไปแต่ก็ยังกลับ อาจไปเดือนนึงกลับเดือนนึงหรือไปสองเดือนกลับเดือนนึง ซึ่งก็ต้องทิ้งให้พี่หอยอยู่กับแฟนที่นี่ ?

              วิลลี่ : มีความจำเป็น จะให้เค้กส้มมาอยู่กับผม เขาก็ไม่ยอมไง ผมก็บอกว่าหอยไม่งอนใช่มั้ยถ้าลูกต้องไปอยู่เมืองนอก และผมต้องไป ๆ กลับ ๆ เขาบอกไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวหอยก็ไปอยู่อังกฤษ ซื้อแมนยูบริหารก็ได้

จะไปเมื่อไร ?

              วิลลี่ : ต้องให้ภรรยาไปดูโรงเรียน ตอนแรกกะไว้ว่าสิ้นปีนี้หรือประมาณกลางปีหน้า ก็ไม่ได้รีบ ไปเรื่อย ๆ ตัดสินใจว่าจะเอาแบบไหน เดี๋ยวก็จะบินไปดู จริง ๆ ต้องเลือกโลเกชั่นที่เขาโอเคด้วย ผมไม่สามารถเอาภรรยาสุดที่รักของผมไปทิ้งไว้ในทุ่งได้ เราก็ต้องวางแผน พอเขาไปผมก็ต้องทำงานอยู่ สิ่งที่ต้องจัดการคือคิวงานแค่นั้นเอง ยังอยู่ไม่ไปไหน ผมแค่วางแผนปรึกษาเขา ว่าต่อจากนี้ไป เวลาซื้ออะไร เดี๋ยวนี้ต้องเปลี่ยนเครดิตการ์ดแล้วนะ เพราะต้องเก็บพอยต์ เพื่อแลกบิน (หัวเราะ) วางแผนไง
เสนาหอย

ระหว่างที่พี่วิลลี่เล่า พี่หอยเศร้าหรือเปล่า ?

              หอย : ใจหายมากกว่า ว่าจะไม่ได้ทำงานกัน เขาก็บอกว่าไปเดือนเว้นเดือนก็ใจหายนะ เพราะถึงไม่เจอกันทุกวัน เราก็รู้ว่าเขาอยู่กับเราตลอดเวลา เวลาคุยอะไรกัน หรืออะไรกัน จะไปยังไงต่อ ธุรกิจที่ทำด้วยกันจะยังไงต่อ เขาบอกว่าเหมือนเดิม แค่เว้นว่างเท่านั้น ก็ยังสบายใจ แต่ยังใจหายอยู่

เขาไปอเมริกาหลายเดือน กลัวอะไรที่สุด ?

              หอย : กลัวไม่ได้สบตากันเวลาเจอกัน เวลาเจอกันเราจะสบตากัน ส่วนใหญ่เราสองคนไม่ค่อยได้พูดอะไรกัน เรารู้สึกด้วยมองตา เราก็ทำแบบนั้นมาตลอด ถ้าวันนึงสายตาคู่นั้นอยู่ไกล ถึงเรารู้อยู่แล้วว่าอีกเดือนเขาก็จะกลับ แต่เราก็ใจหาย
วิลลี่ เสนาหอย

ไม่มองหน้าพี่วิลลี่เลยเพราะอะไร ?

              หอย : บอกไม่ถูกนะ เราอยู่กันมานานมาก น่าจะ 30 ปีที่รู้จัก วันนึงต้องไปอยู่อีกที่นึง เรารู้สึกใจหาย เขาเป็นส่วนหนึ่ง ผมรู้สึกว่าผมนามสกุลแมคอินทอชด้วยซ้ำไป ตอนแรกเราจะเรียกคุณแม่เขาว่าน้อง เรารู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว แต่ถ้าวันนึงต้องไป เขาทำหน้าที่ของสามีที่ดี ครอบครัวที่ดี อยากให้เขาอยู่กับลูกและครอบครัวเยอะ ๆ เพราะฉะนั้นวิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุด

              วิลลี่ : ไปด้วยกัน

              หอย : ขออยู่แคลิฟอร์เนียได้มั้ย

              วิลลี่ : นี่ไง เรื่องมากอีก

              หอย : ใจคิดเหมือนกัน อยากไปด้วย แต่ผมไม่ถนัดเมืองนอกไง

              วิลลี่ : เมืองที่ผมไปอยู่อาจเป็นเมืองของการเรียน มันเป็นช่วงที่ยากเหมือนกันในการเปลี่ยน เหมือนเราตัดสินใจได้ แต่พอจะทำก็หวิว ๆ ท้องนะ เราอยู่ที่นี่มานาน คนรอบข้างเราจะยังไง หอยจะยังไงบ้าง เพราะเราไม่เคยมีอะไรที่ไม่ได้ทำด้วยกัน มันทำด้วยกันมาตลอด ผมไม่ตอบไลน์ แต่หอยจะกระดี๊กระด๊าเวลาผม โทร. หา ผมก็จะ โทร. อย่างเดียว (หัวเราะ) เวลาตอบไลน์ผมคิดเยอะ ก็ โทร. หาดีกว่า ต้องขอโทษเพื่อน ๆ ในวงการทุกคน เพราะผมไปไหนมาไหน ทุกคนก็ทักเรื่องนี้ ผมเคยคิดไว้อยู่แล้ว อยากเอาหอยไปด้วยถ้าเขาอยากไปนะ จริง ๆ ใจผม ผมไม่ได้บอกหอย ผมรู้ว่าคิวงานเป็นยังไง ถ้าเราจัดการทุกอย่างได้เสร็จ ก็จะบอกเขาว่าหอย จองตั๋วยัง ไปไหน ก็ไปอเมริกาไง แล้วก็ไปด้วยกัน จะมีที่ให้อยู่แล้วกลับด้วยกัน เพราะบนเครื่องจะคุยได้นานมาก เรานั่งอยู่สองคนไม่เคยหลับเลยบนเครื่อง

              หอย : เริ่มจากเมกาบางนาก่อนได้มั้ย ไม่อยากไปเมกาแล้ว อยากไปเมกาบางนา

              วิลลี่ : ผมก็ห่วงความรู้สึกของหอยนะ ปกติผู้ชายไม่พูดเรื่องแบบนี้หรอก ถ้ารายการไม่ซักก็ไม่พูดหรอก แต่พอต้องทำแล้ว หอยก็ต้องเข้าใจ

เสนาหอย

พี่หอยไปมั้ย ?

              หอย : ถ้าเราจัดการอะไรเสร็จแล้วอาจไม่แน่ พาแฟนไปด้วย

คืนเขาไปอเมริกาจะไปส่งมั้ย ?

              หอย : ไม่ไป ไม่ชอบบรรยากาศ ไม่เอา เขิน

พี่ร้องแน่ พี่วิลลี่อยากให้เขาไปส่งที่สนามบินมั้ย ?

              วิลลี่ : ไม่เอา เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว เขินตายเลย พูดไปไม่กล้ามองหน้าหอยเลย (ดึงมากอด) อย่าโกรธกันนะ ไม่เป็นไรหรอก

              หอย : จริง ๆ ตอนเขาขายบ้านเอกมัย ผมอยากซื้อ แต่ติดปัญหาอย่างเดียว ผมติดเครดิตบูโร (หัวเราะ)

วิลลี่ เสนาหอย

กำไรเยอะมั้ยขายที่เอกมัย ?

              วิลลี่ : กำไรพอได้ ผมต้องหาให้ลูกเป็นทุน ที่ไม่ได้พูดเรื่องนี้ซีเรียสกับหอย เพราะเยลหลีบอกว่าไปลองเทสต์ดูก่อนสัก 6 เดือน ถ้ายังไม่ใช่ หรือที่เมืองไทยดีอยู่แล้วก็จะกลับ หรือไปปีนึงแล้วอาจจะกลับ

ภรรยาไปก่อน พี่อยู่นี่ เขาจะไม่อยู่กับพี่ปีนึงหรือ 6 เดือน เลยเหรอ ?

              วิลลี่ : ใช่ พี่ต้องอยู่เมืองไทยคนเดียว เยลหลีเขาสบายใจ เพราะตอนผมหลับอยู่ นอนอ้าปาก เขาฝังจีพีเอสในฟันแล้ว เขาได้ยินทุกอย่าง พี่ตั้งใจเลยว่าพอเยลหลีไปเมืองนอกเมื่อไหร่จะไปเที่ยวฟรีบัส

              หอย : ฟรีบัสปิดไปตั้ง 15 ปีที่แล้ว ไม่ทันแล้ว

บ้านที่อยู่ตอนนี้ขายไปหรือยัง ?

              วิลลี่ : มีคนจะซื้อแล้ว ตอนนี้ก็เลยไปสร้างใหม่และย้ายไปเมกาแล้ว เมกาบางนา ไปเช่าอยู่

ตัวเลขที่ขายบ้านหลังใหญ่ ขายได้เท่าไหร่ ?

              วิลลี่ : 4 หมื่นกว่าล้าน

              หอย : นี่ขายโรงงานอุตสาหกรรมเหรอ

              วิลลี่ : (หัวเราะ) มันขายไปแล้วก็เอาไปเคลียร์แบงก์ มันเหลือพอประมาณ

วางงบไว้เท่าไร ?

              วิลลี่ : 20 ล้าน ที่ดินพร้อมบ้านและอินทีเรียแล้วนะ ตอนนี้เหลือเสื่อกับหมอนแล้ว (หัวเราะ)
วิลลี่ แมคอินทอช

พี่หอยกำลังสร้างเรือนหอ จริงมั้ย ?

              หอย : กำลังหาอยู่

แต่พี่เคยพูดว่าชีวิตนี้พี่จะไม่แต่งงาน แต่การสร้างเรือนหอคือพี่ต้องแต่งงานนะ ?

              หอย : ผมบอกตรงไหนว่าแต่งงาน ผมมีเรือนหอได้โดยไม่แต่งงานได้เปล่า กูไม่แต่ง แต่กูอยากมีเรือนหอ

              วิลลี่ : ที่มึงเอาเงินไปดาวน์ที่หมู่บ้านเดียวกับกู แปลว่าอะไร  ที่มาคุยวันนี้ พูดตรง ๆ คือเราไปก็จะได้ฝากบ้านไว้กับมัน แต่ไม่ มันต้องบังคับให้พูดออกทีวีด้วยนะว่าเดี๋ยวไปด้วยกัน แล้วบ้านใครจะดู มึงจะทิ้งส้มเฝ้าบ้าน 2 หลังเหรอ

              หอย : นี่มึงเห็นกูเป็นนิโคลัสหรือยังไง ให้เฝ้าบ้านมึง จริง ๆ แล้วก็วาง ๆ ไว้

              ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิลลี่ เปิดใจเคลียร์ ย้ายประเทศจริงไหม ? หลังขายบ้าน 7 ชั้น - เสนาหอย ใจหาย ! โพสต์เมื่อ 13 ตุลาคม 2566 เวลา 16:52:45 27,030 อ่าน
TOP
x close