เปิดใจที่แรก เสนาหอย สุดใจหาย เล่าโมเมนต์ วิลลี่ แมคอินทอช บอกจะไปอยู่สหรัฐอเมริกา เผยสาเหตุตัดสินใจขายบ้าน 7 ชั้น แพลนส่งลูก-ภรรยา ไปอยู่ต่างประเทศ
จะย้ายประเทศจริงมั้ย ?
แต่พี่ขายบ้านหมดแล้วนะ คนไม่ไปจริง ๆ จะขายบ้านทำไม ?
บ้าน 7 ชั้น ที่ทำอย่างสวยเลยที่เอกมัยขาย ?
วิลลี่ : ครอบครัวเหลือเล็กแล้ว เมื่อก่อนกะอยู่ด้วยกันเยอะ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก หมาอีกตัว ฉะนั้นพื้นที่ไม่ต้องใช้ใหญ่แล้ว ก็จะย้ายมาให้มันเล็กลง เพื่อดูแลง่ายหนึ่ง สองพอย้ายมาเล็กลงแล้ว ประจวบเหมาะกับฮวงจุ้ยกำลังจะเปลี่ยนยุค ทำมันร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มาทุกอย่าง จัดทุกอณู
หอย : เอาตรง ๆ ตอนเขาพูดกับผมครั้งแรก เขา โทร. มาพูดอย่างเดียวเลยว่าหอย กูย้ายอยู่อเมริกานะ คำคำนี้ต้องบอกว่าใจเต้นตุ้บ ๆ ชีวิตเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าเราจะอยู่กันคนละครึ่ง ทำอย่างนี้ได้อย่างไร
วิลลี่ : นี่อยากเล่นละครใช่มั้ย โชว์ให้พี่บอยดูใช่มั้ย (หัวเราะ)
หอย : วันนั้นมันพูดคำนี้จริง ๆ แล้วเราอยู่ด้วยกันมานานมาก ชีวิตของเรารู้สึกเลยว่าเราอยู่กันคนละครึ่งอยู่แล้ว วันนั้นพอเขาพูดแบบนั้น โดยที่ไม่พูดอะไรต่อเนื่อง เขาพูดเสร็จก็วางหู
ความรู้สึกพี่หอยตอนนั้น ?
หอย : กูจะย้ายตาม ไม่ได้แล้ว ต้องหาที่เรียนภาษาอังกฤษ กูจะย้ายตามไปที่อเมริกา เหมือนอะไรถล่มลงมา จริงเหรอวะ นี่กูต้องอยู่คนเดียวเหรอ ธรรมดาต้องเจอกันและคุยกันทุกวัน เช้านี้เมียเขาชอบ โทร. มาว่าเย็น ๆ จะกินอะไร วิลลี่ชอบไม่สบายใจ ให้ โทร. มาถามว่าจะกินอะไร
วิลลี่ : เหมือนกัน โทร. คุยกับเค้กส้ม เขา โทร. มาถามอะไรนะ
หอย : วันนี้จะเอาอะไรกิน (หัวเราะ) ผมไม่รู้จะตอบเค้กส้มยังไงให้ดูอบอุ่น (หัวเราะ)
ทำไมถึง โทร. หาพี่หอยสั้น ๆ แค่นั้น ?
ถ้าเปิดมาแค่นั้น สนิทกันผมก็ช็อก ?
วิลลี่ : เราไม่ได้คิดว่าจะแยกจากเขาหรอก คนเราเกิดมาแล้วมีเนื้องอก เราก็ต้องอยู่กับเนื้องอกไปเรื่อย ๆ ถึงแม้หมอจะทักแล้วว่าผ่าออกเถอะ เราก็บอกว่าผ่าไม่ได้ ข้างในมีฟัน มีผมด้วย มันเป็นตัวแล้ว แต่ตัวแค่นี้ อยู่กับมันไปก่อน ไม่ได้คิดเลยนะว่าจะห่างกัน แต่มันมีความจำเป็น เราเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเลือก ก็ประคับประคอง จะเรียนที่นี่ก็ไป แล้วเขาก็ถามว่ายูมาด้วยมั้ย หรือไป ๆ มา ๆ เราก็บอกว่าไป เราจะไปอยู่เยอะ เราจะเบางานลง
หอย : เขาวางหูไป แล้วก็ยาวจนอีกวันนึง เขาเป็นคนที่ไลน์ไม่เคยตอบใคร คนไม่ต้องตกใจนะ ขนาดกูเนี่ย มันไม่เคยตอบกูเลย รุ่งขึ้นก็เลยถามว่ายังไงวะ มันก็บอกว่าจะไปแบบเดือนเว้นเดือน พาลูกไปอยู่นี่แล้วจะหยุดทำงานเดือนนึง เป็นแพลนแบบนี้ ผมกังวลมาก
ลูกกับเมียไปที่โน่นแต่พี่ไปเดือนเดียวแล้วก็กลับ ?
ถ้าพี่ต้องไปตามที่เมียสั่งก็ต้องพักงานที่นี่บ้าง รอบนี้พี่หอยนั่งห่างพี่วิลลี่เพราะโกรธกันใช่มั้ย ?
หอย : ทำไมช่างสังเกต
วิลลี่ : เดี๋ยวจะดราม่านะหอย แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก (หัวเราะ)
หอย : นี่คือการเข้าเพลง ผมบอกเลยวันนั้น ใจผมดิ่งมาก โทร. ไปหาฝ่ายบัญชี ว่าเคลียร์หนี้กันหมดหรือยัง (หัวเราะ)
วิลลี่ : (หัวเราะ) กลัวหนี
เรื่องจริงคือภรรยาพี่วิลลี่จะพาลูกไปเรียนต่อที่บอสตัน แล้วพี่ก็ต้องไปแต่ก็ยังกลับ อาจไปเดือนนึงกลับเดือนนึงหรือไปสองเดือนกลับเดือนนึง ซึ่งก็ต้องทิ้งให้พี่หอยอยู่กับแฟนที่นี่ ?
จะไปเมื่อไร ?
ระหว่างที่พี่วิลลี่เล่า พี่หอยเศร้าหรือเปล่า ?
เขาไปอเมริกาหลายเดือน กลัวอะไรที่สุด ?
ไม่มองหน้าพี่วิลลี่เลยเพราะอะไร ?
หอย : บอกไม่ถูกนะ เราอยู่กันมานานมาก น่าจะ 30 ปีที่รู้จัก วันนึงต้องไปอยู่อีกที่นึง เรารู้สึกใจหาย เขาเป็นส่วนหนึ่ง ผมรู้สึกว่าผมนามสกุลแมคอินทอชด้วยซ้ำไป ตอนแรกเราจะเรียกคุณแม่เขาว่าน้อง เรารู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว แต่ถ้าวันนึงต้องไป เขาทำหน้าที่ของสามีที่ดี ครอบครัวที่ดี อยากให้เขาอยู่กับลูกและครอบครัวเยอะ ๆ เพราะฉะนั้นวิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุด
วิลลี่ : ไปด้วยกัน
หอย : ขออยู่แคลิฟอร์เนียได้มั้ย
วิลลี่ : นี่ไง เรื่องมากอีก
หอย : ใจคิดเหมือนกัน อยากไปด้วย แต่ผมไม่ถนัดเมืองนอกไง
วิลลี่ : เมืองที่ผมไปอยู่อาจเป็นเมืองของการเรียน มันเป็นช่วงที่ยากเหมือนกันในการเปลี่ยน เหมือนเราตัดสินใจได้ แต่พอจะทำก็หวิว ๆ ท้องนะ เราอยู่ที่นี่มานาน คนรอบข้างเราจะยังไง หอยจะยังไงบ้าง เพราะเราไม่เคยมีอะไรที่ไม่ได้ทำด้วยกัน มันทำด้วยกันมาตลอด ผมไม่ตอบไลน์ แต่หอยจะกระดี๊กระด๊าเวลาผม โทร. หา ผมก็จะ โทร. อย่างเดียว (หัวเราะ) เวลาตอบไลน์ผมคิดเยอะ ก็ โทร. หาดีกว่า ต้องขอโทษเพื่อน ๆ ในวงการทุกคน เพราะผมไปไหนมาไหน ทุกคนก็ทักเรื่องนี้ ผมเคยคิดไว้อยู่แล้ว อยากเอาหอยไปด้วยถ้าเขาอยากไปนะ จริง ๆ ใจผม ผมไม่ได้บอกหอย ผมรู้ว่าคิวงานเป็นยังไง ถ้าเราจัดการทุกอย่างได้เสร็จ ก็จะบอกเขาว่าหอย จองตั๋วยัง ไปไหน ก็ไปอเมริกาไง แล้วก็ไปด้วยกัน จะมีที่ให้อยู่แล้วกลับด้วยกัน เพราะบนเครื่องจะคุยได้นานมาก เรานั่งอยู่สองคนไม่เคยหลับเลยบนเครื่อง
หอย : เริ่มจากเมกาบางนาก่อนได้มั้ย ไม่อยากไปเมกาแล้ว อยากไปเมกาบางนา
วิลลี่ : ผมก็ห่วงความรู้สึกของหอยนะ ปกติผู้ชายไม่พูดเรื่องแบบนี้หรอก ถ้ารายการไม่ซักก็ไม่พูดหรอก แต่พอต้องทำแล้ว หอยก็ต้องเข้าใจ
พี่หอยไปมั้ย ?
คืนเขาไปอเมริกาจะไปส่งมั้ย ?
พี่ร้องแน่ พี่วิลลี่อยากให้เขาไปส่งที่สนามบินมั้ย ?
วิลลี่ : ไม่เอา เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว เขินตายเลย พูดไปไม่กล้ามองหน้าหอยเลย (ดึงมากอด) อย่าโกรธกันนะ ไม่เป็นไรหรอก
หอย : จริง ๆ ตอนเขาขายบ้านเอกมัย ผมอยากซื้อ แต่ติดปัญหาอย่างเดียว ผมติดเครดิตบูโร (หัวเราะ)
กำไรเยอะมั้ยขายที่เอกมัย ?
ภรรยาไปก่อน พี่อยู่นี่ เขาจะไม่อยู่กับพี่ปีนึงหรือ 6 เดือน เลยเหรอ ?
วิลลี่ : ใช่ พี่ต้องอยู่เมืองไทยคนเดียว เยลหลีเขาสบายใจ เพราะตอนผมหลับอยู่ นอนอ้าปาก เขาฝังจีพีเอสในฟันแล้ว เขาได้ยินทุกอย่าง พี่ตั้งใจเลยว่าพอเยลหลีไปเมืองนอกเมื่อไหร่จะไปเที่ยวฟรีบัส
หอย : ฟรีบัสปิดไปตั้ง 15 ปีที่แล้ว ไม่ทันแล้ว
บ้านที่อยู่ตอนนี้ขายไปหรือยัง ?
ตัวเลขที่ขายบ้านหลังใหญ่ ขายได้เท่าไหร่ ?
วิลลี่ : 4 หมื่นกว่าล้าน
หอย : นี่ขายโรงงานอุตสาหกรรมเหรอ
วิลลี่ : (หัวเราะ) มันขายไปแล้วก็เอาไปเคลียร์แบงก์ มันเหลือพอประมาณ
วางงบไว้เท่าไร ?
พี่หอยกำลังสร้างเรือนหอ จริงมั้ย ?
แต่พี่เคยพูดว่าชีวิตนี้พี่จะไม่แต่งงาน แต่การสร้างเรือนหอคือพี่ต้องแต่งงานนะ ?
หอย : ผมบอกตรงไหนว่าแต่งงาน ผมมีเรือนหอได้โดยไม่แต่งงานได้เปล่า กูไม่แต่ง แต่กูอยากมีเรือนหอ
วิลลี่ : ที่มึงเอาเงินไปดาวน์ที่หมู่บ้านเดียวกับกู แปลว่าอะไร ที่มาคุยวันนี้ พูดตรง ๆ คือเราไปก็จะได้ฝากบ้านไว้กับมัน แต่ไม่ มันต้องบังคับให้พูดออกทีวีด้วยนะว่าเดี๋ยวไปด้วยกัน แล้วบ้านใครจะดู มึงจะทิ้งส้มเฝ้าบ้าน 2 หลังเหรอ
หอย : นี่มึงเห็นกูเป็นนิโคลัสหรือยังไง ให้เฝ้าบ้านมึง จริง ๆ แล้วก็วาง ๆ ไว้