เบนซ์ เรซซิ่ง ควงคุณแม่เปิดใจหลังพ้นเรือนจำ เผยเคยถูกทนายดังเรียก 20 ล้าน !

            แม่ใจหาย... เบนซ์ เรซซิ่ง เผยครั้งแรก หากไม่มีลูกคงฆ่าตัวตายในเรือนจำ ! อึ้งเคยถูกทนายดังเรียกเงิน 20 ล้าน
เบนซ์ เรซซิ่ง

            วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 "เบนซ์ เรซซิ่ง" อดีตสามีและพ่อของลูก "แพท ณปภา" ได้ออกมาเปิดใจถึงโมเมนต์การเจอลูกชายครั้งแรก รับเครียดจัดเคยคิดฆ่าตัวตาย พร้อมเคลียร์คำครหาใช้เส้นสาย-เงินยัดจนหลุดคดี มาพร้อม "คุณแม่สุพรเพ็ญ" เล่าช่วงเวลาแห่งความทรมานกับการสู้คดีกว่า 6 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ช่อง one31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เบนซ์ เรซซิ่ง

- คดียืดเยื้อยาวนาน 6 ปี นานมาก เหมือนเราเห็นเขาเข้า ๆ ออก ๆ เหมือนจะจบแต่ไม่จบสักที พอวันที่เขาบอกว่าลูกเราถูกปล่อยออกมาวันนั้น ความรู้สึกแม่เป็นยังไง ?

            แม่สุพรเพ็ญ : โห ดีใจจนพูดไม่ออก เหมือนยกภูเขาออกจากอก ตลอดเวลา 6 ปี เราลำบาก ต้องตามเรื่องเอกสาร ทนายเราก็ต้องตาม

- วินาทีแรกที่รู้ว่าจบแล้ว ?

            เบนซ์ : เหมือนเรารอคอยวันนี้มาตลอดชีวิต เป็นวันที่เราเฝ้ารอคอย เราสิ้นสุดคดี เราจบคดี เราชนะคดี เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างโล่งจากใจเรา น้ำตาก็เอ่อล้นออกมา เราห้ามน้ำตาไม่อยู่จริง ๆ วันที่เราไปยืนรอฟังคำพิพากษาวันนั้น

เบนซ์ เรซซิ่ง

ย้อนเล่าเรื่องคดี ที่ทำให้ต้องเข้าเรือนจำ

- ย้อนไปถึงคดี บางคนอาจลืมไปแล้วหรือไม่ทราบ ว่าเราโดนคดี 2 เรื่อง มีเรื่องอะไรบ้าง ?

            เบนซ์ : หลัก ๆ แล้วในคดีนี้เป็นความผิด 2 มูลฐาน อันดับแรกคือสมคบกันฟอกเงิน และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งทั้งหมดมันเป็นแค่เส้นทางการเงินที่เราไปมีความเชื่อมโยงกับคนถูกจับในคดียาเสพติด

- แล้วมันไปเชื่อมโยงได้ยังไง ?

            เบนซ์ : ตั้งแต่แรก ผมประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแต่งรถ ซ่อมรถซูเปอร์ไบค์อยู่แล้ว ซึ่งมีลูกค้ามากหน้าหลายตาที่เขามาซื้อรถกับเรา เราก็จะมีการซื้อรถขายรถ โอนเงินกันปกติ แต่วันดีคืนดีเราไม่รู้หรอกสุดท้ายเขาถูกจับเรื่องยาเสพติด ซึ่งการซื้อ-ขายของเรามันเกิดขึ้นก่อนมีคดีนี้ตั้ง 2-3 ปีก่อนแล้ว แต่ในเมื่อเส้นทางการเงินเราไปแตะกันปุ๊บ มันก็เข้าองค์ประกอบของคดีได้ เราต้องไปชี้แจง ไปพิสูจน์เอาในการสู้คดี

เบนซ์ เรซซิ่ง

- ตอนนี้ 2 คดีที่โดนข้อหาไป สรุปแล้วเราได้ทำจริงหรือเปล่า ?

            เบนซ์ : ตั้งแต่เริ่มต้นคดี ผมบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรกมาโดยตลอด เราให้การปฏิเสธ เข้าไปให้การ นำเอกสารไปยื่นตลอด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำธุรกิจมามันเป็นธุรกิจที่ตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาสีดำเลย กว่าจะถึงจุดนี้ก็เหนื่อยมาก 6 ปี

- ตอนเข้าไปอยู่ในนั้นคือ 1 ปี 3 เดือน ?

            เบนซ์ : ตอนสู้คดีศาลชั้นต้น อยู่ข้างใน 1 ปี 3 เดือน เพื่อสู้คดี แล้วออกมาฟังคำตัดสิน

เบนซ์ เรซซิ่ง

จากมั่นใจว่ารอดคดี กลายเป็นไม่ได้ประกันตัว

- ตอนแรกมั่นใจว่าคงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในนั้น ?

            เบนซ์ : ใช่ เพราะเรามีเอกสารยืนยันเขาได้เลย ใบสัญญาซื้อ-ขาย การซื้อ การขายออก ทุกอย่างเราเอาไปชี้แจงให้เขาแล้ว แต่ทางนั้นก็รับเรื่องเอาไว้ แต่บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวแจ้งข้อกล่าวหาและไปอธิบายให้ศาลฟัง ไปสู้ในศาล แต่อยากบอกว่าอะไรที่เกี่ยวกับยาเสพติดอัตราโทษมันสูง เลยไม่มีโอกาสได้ประกันตัวมาสู้ข้างนอก เราเลยต้องสู้อยู่ข้างใน

- แม่รู้สึกยังไงที่ลูกต้องเข้าไปอยู่ในนั้น ?

            แม่สุพรเพ็ญ : ครั้งแรกที่เข้าไป ยังไงคุณแม่ก็มั่นใจว่าศาลต้องให้ประกันตัว แม่ก็นั่งรอ รอจน 4-5 โมง ก็ยังไม่เห็น พอศาลบอกว่าอัตราโทษสูง ไม่สามารถให้ประกันตัวได้

            เบนซ์ : ศาลบอกว่าในคดีนี้อัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ถ้าเราสู้แพ้ในคดีคือประหารชีวิต เขาเลยไม่ให้ประกันตัว เพราะเราอาจหลบหนีได้ หลาย ๆ คนถ้ามีโทษสูงขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเขาน่าจะหนีแล้ว ไม่มายืนยันความบริสุทธิ์ใจ สู้คดีจนถึงสุดท้ายอย่างนี้หรอก

เบนซ์ เรซซิ่ง

- ตอนได้ออกมา คิดไหมว่าหนีดีกว่า ?

            เบนซ์ : ไม่เคยมีความคิดหนีเลย ถามว่าผมหนีได้ไหม ผมหนีได้ แต่ผมหนีไม่ได้ เพราะทุกคนรอบตัวเราที่สู้กันมาตลอดจะเดือดร้อนไปหมดเลย แต่ถ้าเราหนี แปลว่าเรายอมรับในสิ่งที่เราโดนข้อหา สังคมก็จะตัดสินว่าผมทำผิด ผมก็ทิ้งครอบครัวไม่ได้ มีแม่ พี่ น้อง ภรรยา และลูก แล้วลูกโตขึ้นมาจะยังไงถ้าโดนว่าพ่อหนีคดีความ ถ้าสุดท้ายผมต้องแพ้ ผมก็ยอมติด ผมไม่หนี

- พอศาลพูดว่าคุณจะได้รับโทษถึงประหารชีวิต วันนั้นฟังคำนี้แล้วรู้สึกยังไง ?

            เบนซ์ : ถ้าย้อนกลับไปตอนศาลชั้นต้น เขาพิพากษาจำคุกผม 8 ปี ฐานฟอกเงิน แต่เรื่องสนับสนุนยาเสพติดยกฟ้อง เลยประกันตัวออกมา แต่ว่าพอมาอยู่ข้างนอกเราสู้ศาลอุทธรณ์ต่อ เราเห็นชั้นต้นเราชนะมาแล้ว เราก็มั่นใจว่าเราไม่เกี่ยวกับยาเสพติดตั้งแต่แรก แต่ปรากฏว่าวันที่เดินทางไปฟังคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ วันนั้นทุกอย่างกลับตาลปัตรหมดเลย จากที่เราเคยชนะเรื่องยา วันนั้นศาลตัดสินจำคุกผมตลอดชีวิต แม่ก็อยู่ข้างนอก ผมเข้าไปกับทนาย ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลาย กลับไปเป็นคนละเรื่องเลย จากที่เราเคยชนะแล้วเรื่องนี้ กลายเป็นว่าเราต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต

เบนซ์ เรซซิ่ง

- ความรู้สึกตอนที่ได้ยิน ?

            เบนซ์ : ถ้าถามผม ผมก็มีความหวังอยู่ตลอด และมั่นใจในสิ่งที่เราสู้มาตลอด เราต้องพึ่งศาลฎีกา ศาลสูงเป็นที่สุดท้าย และต้องยืนหยัดต่อสู้ต่อไป แม้ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตแล้วแต่เราก็ต้องสู้ต่อ


- ครั้งแรกตอนเข้าเรือนจำ ปรับตัวยากไหม ?

            เบนซ์ : มันไม่เคยทำใจยอมรับได้เลยสักวัน แต่ต้องบอกก่อนว่าที่ผมอยู่คือทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง จะคุมขังเฉพาะผู้ต้องขังคดียาเสพติด จะไม่มีพวกชิงปล้นฆ่า ความเป็นอยู่ผมคิดว่าอาจไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร เพราะทุกคนโดนจับเสพยาบ้าง ค้ายาบ้าง แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก

- โดนแกล้ง โดนทำร้ายไหม ?

            เบนซ์ : ไม่ได้เจอประเภทนั้น อาจมาดูแลเรา ห่วงเรา เป็นเอฟซีเรา ช่วยดูแลเราซะมากกว่า เขาเห็นใจเราที่เพิ่งมีลูกเล็ก เข้าไปอยู่ข้างใน ก็พยายามมาเทกแคร์เรา ทุกคนต้องช่วยให้กำลังใจกัน เพราะไม่มีใครหรอกอยากเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ข้างใน มันมีทั้งคนที่รับได้บ้างและรับไม่ได้บ้าง อย่างน้อยเราก็ต้องคอยให้กำลังใจกันไว้ เพราะทุกคนอยู่ด้วยความหวัง

- เข้าไปครั้งที่สอง ยังไม่รู้จะได้ออกเมื่อไหร่ ความรู้สึกต่างกันไหม ?

            เบนซ์ : ครั้งสุดท้ายเป็นอะไรที่เราคาดหวังไว้เยอะมาก ๆ เพราะมันเป็นยกสุดท้ายแล้ว มันเดิมพันด้วยชีวิตจริง ๆ มันเครียด เราเครียดจนลืมหายใจ

เบนซ์ เรซซิ่ง

- บางทีก็ไม่อยากหายใจ ?

            เบนซ์ : ใช่ ตอนเราเข้าไปใหม่ ๆ บางทีเรารับไม่ได้กับความเป็นอยู่ มีเจ้าหน้าที่เคยถามว่าชีวิตนี้เคยลำบากไหม ผมก็มาคิดดูว่าชีวิตนี้เราไม่เคยลำบากเลย อยู่ที่บ้านเขาดูแลเราอย่างดี อยากได้อะไรเราก็ได้ เราเพิ่งรู้ว่า อ๋อ ความลำบากเป็นอย่างนี้ ผมรับไม่ได้ที่จะต้องถูกจำกัดอิสรภาพ ความเป็นอยู่หลายแหล่ เคยเครียดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย ผมรับไม่ได้หรอกแบบนี้

- เข้าไปอยู่นานไหมที่มีความคิดนี้ ?

            เบนซ์ : เป็นช่วงแรก ๆ ที่ปรับตัวยังไม่ได้ ผมคิดว่าให้ผมมาอยู่อย่างนี้ ผมยอมตายดีกว่า

- แม่เคยรู้ไหมว่าเบนซ์อยากฆ่าตัวตาย ?

            แม่สุพรเพ็ญ : ไม่เคยเลยค่ะ เพราะเวลาแม่ไปเยี่ยมเราก็ให้กำลังใจว่าสู้ ๆ นะ เราสู้ไปด้วยกัน ถ้าลูกไม่สู้แล้วแม่จะสู้ยังไง

            เบนซ์ : เวลามาเยี่ยมก็ร้องไห้กันทุกครั้ง

เบนซ์ เรซซิ่ง

-อะไรทำให้เราไม่ทำแบบนั้น ?

            เบนซ์ : มันเป็นสิ่งเดียวเลยที่ทำให้ผมมีกำลังใจจะอยู่ต่อคือลูก ผมคิดว่าผมต้องสู้เพื่อออกมาหาลูกให้ได้ ถ้าวันนั้นไม่มีลูกผมน่าจะตายในเรือนจำไปแล้ว เพราะผมทำใจไม่ได้

- เป็นครั้งแรกไหมที่แม่ได้ยินจากปากลูกว่าเขาอยากฆ่าตัวตาย ?

            แม่สุพรเพ็ญ : ใช่ค่ะ เขาไม่เคยเล่าเลย

- แม่ได้ยินแล้วรู้สึกยังไง ?

            แม่สุพรเพ็ญ : ก็รู้สึกใจหายเนอะ ตอนไปเยี่ยมเขาเราก็บอกว่าเดี๋ยวก็กลับบ้าน ให้กำลังใจกันตลอด แม่ไปเยี่ยมทุกอาทิตย์เลย

เบนซ์ เรซซิ่ง

เสียค่าทนายความหลักล้าน-เจอทนายดังเรียก 20 ล้าน

- แม่ไม่ได้สู้แค่ตัวนะ ตังค์ก็เสียไปเยอะนะ ครั้งแรกที่ไปคุย จ่ายเงินค่าทนายไปเท่าไร ?

            แม่สุพรเพ็ญ : 3.1 ล้าน อันนี้แค่ประกันตัว ครั้งแรกเลยที่เข้าไป แม่ก็ไม่รู้ เราไม่เคยมีเรื่อง เพื่อนก็แนะนำทนายมา เขาก็มาคุย เขาบอกว่ายังไงก็ได้ประกันตัวแน่นอน แต่ต้องเอาเงินสดให้เขา แม่บอกว่าภายใน 1 เดือน ทำสัญญากัน ถ้าประกันได้คุณก็เอาไป สุดท้ายทำไม่ได้ พอโทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย ทวงก็ไม่ยอมคืน ไม่ยอมติดต่อ ไม่คุยด้วย

            เบนซ์ : เสียไปเลย 3.1 ล้าน ก็ฟ้องร้องเป็นคดีกัน

            แม่สุพรเพ็ญ : แม่ไปร้องสภาทนายความ สภาทนายความก็ลบชื่อ ไปฟ้องแพ่ง ศาลสั่งให้จ่าย เขาก็ไม่จ่าย ไปฟ้องล้มละลาย ก็ไม่มีทรัพย์สินให้ยึด

            เบนซ์ : เขาดูเป็นคนน่าเชื่อถือ มีตำแหน่งวิชาการนำหน้า เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ดูน่าเชื่อถือมาก สุดท้ายก็โกงเงินเราไปอยู่ดี

            แม่สุพรเพ็ญ : ก็ฟ้องเป็นคดีอาญา ตอนนี้จบแล้ว ศาลสั่งจำคุก 3 ปี แต่เงินไม่คืนนะ (หัวเราะ)

เบนซ์ เรซซิ่ง

- พอเป็นคดีดัง ๆ ก็มีทนายคนดัง ดังมากด้วย ติดต่อมาหาแม่ เขาว่าไง ?

            แม่สุพรเพ็ญ : เขาบอกคดีนี้เขาทำได้ แต่เขาเรียกเงินเยอะอยู่นะ เรียกตั้งแต่ 5 ล้าน ถึง 30 ล้าน

- คนที่บอกว่าดังมาก ๆ เรียก 20 ล้าน คุณแม่บอกเขาว่ายังไง ?

            แม่สุพรเพ็ญ : ไม่เป็นไร แม่ไม่คุยกับเขา ก็คือจบ

            เบนซ์ : เขาไม่ได้ดูพฤติการณ์ว่าสู้ได้หรือสู้ไม่ได้ เขาเรียกเงินก่อนเลย 20 ล้าน เขาไม่รู้เลยว่าข้อมูลเกี่ยวพันอะไรยังไง จะสู้ได้หรือไม่ มาถึงก็เรียกก่อนเลย เป็นอย่างนี้เยอะมาก ทนายความเข้าหาเยอะมาก

            แม่สุพรเพ็ญ : เยอะมาก ทนายความที่เราไม่รู้จัก จนตอนนี้รู้จักหมดเลย เวลาเราเกิดเรื่องทุกคนจะวิ่งเข้ามา

            เบนซ์ : เรามีคดีอยู่ข้างในก็แย่อยู่แล้ว เหมือนเขามาฉวยโอกาสในยามที่เราเดือดร้อน

- พอเราออกมา หลายคนก็ชื่นชม หลายคนก็นินทา บางคนบอกว่าใช่สิ มีตังค์ ก็ใช้เส้นแหละถึงได้ออกมา ได้ยินอย่างนั้นเราเป็นยังไง ?

            แม่สุพรเพ็ญ : แม่ก็เฉย ๆ เราห้ามความคิดใครไม่ได้ ใครจะพูดอะไรก็พูดไป เพราะเรื่องเราจบแล้ว เราก็สบายใจแล้ว ไม่สนใจแล้ว

            เบนซ์ : ผมเจอคนว่าคนด่ามาเยอะ ถ้าหากวันนั้นผมแพ้คดี ติดคุกจริง ๆ เขาก็ซ้ำเติมเราอยู่ดี แต่ถ้าเราสู้คดีจนชนะ เขาก็หาว่าเราใช้เงินสู้คดีหรือเปล่า แต่คดีนี้เราสู้ด้วยพยานหลักฐานจริง ๆ เลย ไม่มีวิ่งเต้นเลย เพราะเรามั่นใจในพยานหลักฐานเราทั้งหมด

เบนซ์ เรซซิ่ง

ความรู้สึกเมื่อได้กลับมาเจอลูก

- ออกมาวันแรกเจอลูกเลย เป็นไงบ้าง ?

            เบนซ์ : ดีใจมาก เป็นการที่เราได้กลับมาเจอกันโดยไม่ต้องมีห่วงแล้ว ไม่ต้องคิดว่าเราจะต้องกลับเข้าไปข้างในอีกไหม เราต้องติดคุกอีกหรือเปล่า มันเป็นวันที่เราหลุดพ้นทุกอย่างแล้ว รู้แล้วว่าหลังจากนี้เราจะใช้เวลากับเขาได้อย่างเต็มที่

- ตอนลูกเจอเรา ?

            เบนซ์ : เขายังจำเราได้ มีโอกาสเจอบ้าง หลาย ๆ เวลา แต่อาจไม่ได้เจอกันบ่อย เลยอาจมีความเกร็ง ๆ เขิน ๆ กันนิดหนึ่ง

- ประโยคแรกที่พูดกัน ?

            เบนซ์ : เขาบอกปะป๊าหล่อ (หัวเราะ)

- ภูมิใจในตัวลูกชายไหม ?

            เบนซ์ : ภูมิใจครับ เราเคยเห็นเขาผ่าน ๆ ทางทีวี ตอนเขาแสดงละคร พอเราเห็นก็อดยิ้มไม่ได้ น่ารักจังเลย เราภูมิใจ

เบนซ์ เรซซิ่ง

- แต่ยังโดนผลกระทบจากโรงเรียน มีเพื่อน ๆ หลายคนถามน้องเรซซิ่งว่าพ่อติดคุกเหรอ เราได้ยินแล้วรู้สึกยังไง ?

            เบนซ์ : ได้ยินข่าวนี้ผ่านหูมาบ้าง ผมคิดว่าผู้ปกครองควรคิดให้เยอะ ๆ นิดหนึ่ง ไม่ควรพูดอะไรที่เป็นการกระทบความรู้สึกของเด็กเขา วันนี้เขาอาจไม่รู้หรอกว่าการติดคุกหรือไม่ติดคุกคืออะไร แต่เป็นช่วงที่เขาพัฒนา เป็นช่วงที่เขาจดจำ เราเสพข่าวมาแล้วก็ควรคิดให้เยอะ ๆ ก่อนพูดอะไรออกไป ซึ่งผมคิดอยู่แล้วว่าจะพูดเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง จากบทเรียนที่ผมเจอมา จะให้เขาได้รู้ว่าการใช้ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน

- เด็กคนอื่นอาจถามแบบไม่รู้ความหมาย ไม่คิดอะไร แต่ลูกเราอาจจะคิด และอาจจำเรื่องที่มันไม่ดี ซึ่งจริง ๆ เรซซิ่งพูดกับพวกเรานะว่าพ่อไปบำบัด ไม่ได้อยู่ในคุก ซึ่งก็อยากให้จำภาพดี ๆ ของพ่อมากกว่า พอเกิดเรื่องแบบนี้เราจะบอกผู้ปกครองเขายังไงดี ?

            เบนซ์ : จริง ๆ เราก็ห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่อย่างน้อยลองถามความรู้สึกตัวเองดู ถ้าเราเจอแบบนี้เราจะรู้สึกยังไง

- ออกมาอย่างถาวรแล้ว น้องเรซซิ่งก็มีความเข้มแข็งของเขา ตอนนี้วางแผนอนาคตกับเรซซิ่งยังไง ?

            เบนซ์ : ตั้งแต่เจอกันวันนั้นผมก็ไม่สบาย เป็นไข้ ก็กลัวติดหวัดกันด้วย ทุกวันนี้วิดีโอคอลคุยกันทุกวัน เดี๋ยวหายป่วยแล้วจะนัดเวลามาเจอกันแล้วดูว่าเราจะแบ่งเวลากันยังไง ว่างตรงกันไหม เขาชอบอะไรจะพาไปเที่ยวไปอะไรกัน เขาชอบตรงไหนก็จะส่งเสริมเขา

เบนซ์ เรซซิ่ง

ฝากบทเรียนถึงคนทางบ้าน

- มีอะไรอยากฝากถึงคนดูทางบ้านกับบทเรียนที่เราได้รับ ?

            เบนซ์ : ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้รับมากับตัว แต่ก่อนผมอาจทำธุรกิจตามแบบภาษาวัยรุ่น ไม่ได้คิดให้รอบคอบอะไร ใครอยากมาซื้อเราก็ขายหมด มันเลยทำให้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เราก็ควรเลือกคบหาคน บางทีคนแต่งตัวดี มีเงิน แต่เราไม่รู้ว่าเบื้องหลังเขาทำอะไร การที่เขามาซื้อรถกับเรา ไม่รู้เขาประกอบอาชีพอะไร การที่เขาถือครองทรัพย์สิน ไม่ได้โอนชื่อ เราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันเป็นคดีกับเรา เราก็ต้องใช้ชีวิตระมัดระวัง รอบคอบมากขึ้น และต้องรู้จักการรอคอย

- อยากเตือนอะไรคนที่อยู่หรือเข้าวงการยาเสพติด ?

            เบนซ์ : ผมอยู่ในคุก บอกเลยว่ายาเสพติดเนี่ยยังไงก็ไม่มีทางรอด ตำรวจไทยเก่งอยู่แล้ว ต่อให้วันนี้ไม่โดนจับ ยังไงวันหน้าก็ต้องโดน ถ้ารักชีวิต รักครอบครัว ไม่อยากสูญเสียอิสรภาพเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็ไปหาทำอย่างอื่นที่ถูกกฎหมายดีกว่า

            ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เบนซ์ เรซซิ่ง ควงคุณแม่เปิดใจหลังพ้นเรือนจำ เผยเคยถูกทนายดังเรียก 20 ล้าน ! อัปเดตล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา 23:29:04 12,687 อ่าน
TOP
x close