วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 แพท วงเคลียร์ ได้ออกมาเผยประสบการณ์เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ที่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับผวา โดยที่แพทบอกว่า ตอนนั้นเวลา 22.00 น. แพทกำลังแต่งตัวในห้องคนเดียวและกำลังเตรียมที่จะออกโชว์ แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าห้องแพท จนแพทร้องตะโกนตกใจมาก ผู้ชายคนนั้นก็ขอโทษและปิดประตูไป สักพักก็มีคนโทร. หามาหาแพทเพื่อที่จะบอกว่า เห็นว่าแอร์ไม่ติดเลยเข้ามาดู เลยวางสายไป
แพทเผยว่า ห้องที่พักนั้นตนไม่ได้เปิดแอร์เอาไว้เพราะอากาศเย็น แต่คิดแล้วก็ไม่คิดว่ามีเหตุผลใดเลยที่โรงแรมจะเปิดเข้าห้องที่ลูกค้าเช็กอินแล้ว ซึ่งอันตรายมาก ยิ่งผู้หญิงคนเดียวนอนอยู่ด้วย และโรงแรมนี้ก็ไม่มีสายยูลูก จากนั้นผู้จัดการวงจึงไปเคลียร์ และขอการ์ดห้องของแพทอีกใบ จากที่ควรได้ 2 ใบ ทางโรงแรมก็ให้มาเหมือนกับว่ามีการเตรียมไว้อีกใบสำหรับห้องนี้ ซึ่งก็แปลกอีก
ด้านแพทบอกว่า เมื่อเจอเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่มีการย้ายโรงแรมแต่อย่างใด แต่ให้น้องที่รู้จักกันมานอนเป็นเพื่อน และเนื่องจากแพทต้องเดินทางแต่เช้า กลัวว่าหากเปลี่ยนโรงแรมแล้วจะนอนดึก แต่กระนั้นแพทก็รู้สึกไม่ปลอดภัย และตั้งคำถามว่ามีเหตุผลอะไรที่โรงแรมจะเปิดเข้ามาในห้องลูกค้าตอนเช็กอิน ต่อให้ลูกค้าไม่อยู่ก็มีทรัพย์สินอยู่ และตอนนั้นแพทกำลังแต่งตัวอยู่ซึ่งมันค่อนข้างหนักเหมือนกัน ตอนแรกแพทก็คิดว่าเป็นความผิดเราไหมที่ไม่ล็อกห้อง 2 ชั้น แต่จริง ๆ เราไม่ปิดอะไรเลย และหลังจากนี้ก็คงล็อกห้อง 2 ชั้น คล้องโซ่ หรือไม่อย่างนั้นก็เอาเก้าอี้หรือโต๊ะมาขวางประตูแล้ว
เรื่องนี้ได้ทำให้แฟนคลับและคนรู้จักต่างเป็นห่วงแพทกันมาก และแพทก็บอกว่าเวลาไปทัวร์ก็จะมีการสลับห้องกันก่อนที่จะเข้าพัก ครั้งนี้ก็เช่นกัน และมีคนบอกว่าตามมาตรฐานแล้ว ก่อนที่พนักงานจะเข้าห้องพักของแขก ไม่ว่าห้องนั้นจะว่างหรือไม่ ต้องมีการเคาะห้องก่อน ไม่ควรเปิดเข้าไปเลย ยิ่งห้องไหนมีแขกพักยิ่งต้องโทร. เช็กกับแขกให้เรียบร้อย เจอแบบนี้เข้าไปทำเอาแพทถึงกับผวาไปเลย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางโรงแรมโฮลาเทล พิษณุโลก ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับความผิดพลาดดังกล่าว และมีการสืบสวนพนักงาน โดยที่พบว่า มีหนึ่งในห้องพักของชั้น 5 มีปัญหาแอร์ไม่เย็นและแจ้งมาที่ห้องพัก พนักงานจึงจะย้ายห้องให้ลูกค้า แต่ด้วยความประมาทไม่ตรวจสอบในหน้าระบบและเช็กสถานะห้องพักพลาด และเข้าใจว่าห้องของแพทเป็นห้องว่าง พนักงานจึงขึ้นไปเช็กที่ห้องนั้นเพื่อที่จะย้ายห้องให้ลูกค้า เมื่อเข้าไปพบว่ามีลูกค้าอยู่ตกใจและกล่าวคำขอโทษ เมื่อลงมาพนักงานก็โทร. ไปขอโทษอีกครั้ง และยืนยันว่าไม่มีเจตนาไม่ดีที่จะไปเปิดห้องลูกค้า
ทางโรงแรมได้ลงโทษทางวินัยกับพนักงานคนดังกล่าวตามกฎของโรงแรม ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ถือเป็นความประมาทเลินเล่อ และส่งผลต่อจิตใจของแพท และขอน้อมรับความผิดทั้งหมด