หลังจากที่ ใบเตย อาร์สยาม นักร้องสาว ได้รับการประกันตัวออกมาจากคดี Forex-3D ใบเตยก็เดินหน้าทำงานทันที ทั้งรับงานร้องเพลง รวมไปถึงงานไลฟ์ด้วย โดยที่ล่าสุด (22 พฤศจิกายน 2566) ใบเตยได้ออกมาไลฟ์ขายสินค้า และมีช่วงหนึ่งที่ใบเตยน้ำตาซึม เปิดใจถึงชีวิตที่อยู่ข้างในว่าเหมือนตายทั้งเป็น
ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของไลฟ์ ใบเตย อาร์สยาม ได้ออกมาพูดว่า ไม่มีใครที่บ้านต้องช่วยเหลือหรือส่งเสีย เราอายุ 35 ปี ก็รับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัวทั้งหมด และรับผิดชอบลูกด้วย
ตลอด 2 ปีที่มีโควิด และเราเป็นศิลปิน ก็ไม่มีงานเลย และมาท้องด้วย ก็ต้องหาทุกอย่างเพื่อให้มีเงินและได้เลี้ยงลูกอย่างดีที่สุด ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของโลก เราก็เลยรู้สึกว่า สิ่งที่แย่มาก ๆ คือเราไม่ได้ดูแลครอบครัวในช่วงเวลาหนึ่ง เรากังวลทุกอย่างว่าน้องจะอยู่อย่างไร และยิ่งมารู้ว่าแฟนของลุกซ์เสียชีวิต ณ วันนั้นเหมือนตายทั้งเป็น 3 เดือนแรกเหมือนเป็นวิญญาณที่หล่อเลี้ยงและหล่อหลอมหัวใจให้ตื่นขึ้นมาได้ในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม ทุกคนในนั้นจะบอกว่า นึกถึงหน้าลูกไว้ อย่าเป็นอะไรไป ห้ามคิดในสิ่งที่แย่ ๆ เราต้องคิดอย่างเดียวว่าเราต้องเจอหน้าลูกให้ได้ เมื่อเห็นลูกมาเยี่ยมตลอด ทำให้เราคิดได้ว่า คนข้างนอกสู้แค่ไหน เราต้องสู้มากกว่าเขา เพื่อวันนี้
ในขณะเดียวกัน กานต์ วิภากร ภรรยาของเสก โลโซ ก็ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับใบเตยหลายเรื่อง เช่น
- ทำไมใบเตยเมื่อออกจากคุกมาแล้วถึงออกสื่อได้เลย จะเข้าใจความรู้สึกของคนธรรมดาไหม
- ทุกครั้งที่มาศาล ใบเตยจะร้องไห้อย่างหนักจนศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
- สิ่งที่แสดงออกมาทำให้รู้ว่า ใบเตยรักลูกจริง แต่ไม่รู้ว่ารักแบบไหน ถ้าเป็นตน หากจากลูกไป 6 เดือน พอได้พบกันคงจะอยู่กับครอบครัวอย่างเรียบง่ายและสงบสุขที่สุด ทบทวนตัวเอง วางแผนสู้คดี ดูแลลูก ครอบครัว พ่อแม่ ให้ดีกว่าเดิม เพราะเรามีโอกาสมาทำหน้าที่นั้น แต่นี่ไม่เข้าใจว่าทำไมใบเตยออกสื่อเยอะจัง ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาคือการแสดงหรือเปล่า
- ขอให้ดูพิ้งค์กี้ เขาเงียบ เขาน่ารัก เขาทำตัวฉลาด ที่ออกมาพูดตนไม่มีเจตนาร้ายกับใบเตย แค่แนะนำด้วยความหวังดีเท่านั้น