คุณเข้าวงการมาตั้งแต่เด็กเลย เรามาย้อนกันนิดหนึ่งเรื่องที่คนน่าจะรู้จักเราที่สุดคือ ?
ธัญญ่า : มันเริ่มมาจากถ่ายโฆษณาคือ ฮานามิ ตอนที่ถ่ายกับ แอนดริว เกร็กสัน อันนั้นเป็นโฆษณาตัวแรกที่คนรู้จัก แต่อาจจะไม่รู้จักชื่อว่าคนนี้ชื่อธัญญ่านะ ก็มีคนมาขอลายเซ็นเพราะช่วงนั้นยังไม่มีกล้อง แล้วพอหลังจากนั้นที่คนรู้จักชื่อจริง ๆ ในตอนที่เราเล่นหนังเซ็นสัญญากับไฟว์สตาร์ หนังที่เริ่มมีชื่อเสียงจริง ๆ คือเรื่อง กระโปรงบานขาสั้น มีเล่นกับ ธัน โทนวนิช, กัปตัน ละครเรื่องแรกคือเหมือนฝันเล่นกับ พี่แซม ยุรนันท์
แล้วก็ข้ามมาเป็นตัวร้ายในตอนนั้นที่เกิดสุดคือเรื่องอะไร ?
ธัญญ่า : เล่นเรื่องสามีตีตรา กับ ทองประกายแสด ออกพร้อมกันเลยออนแอร์วันเดียวกัน แต่ก็โชคดีนะการที่เล่นบทร้ายแล้วยังไม่เคยโดนใครเกลียด หรือว่าจะมาตบหรืออะไรอย่างงี้ มีแต่แบบชอบจังเลยมาเล่นอย่างงี้ดีจัง แล้วจะบอกว่าการที่วู้ดดี้มาชวนไปเป็นพิธีกรทำให้เราบุกเบิก และรู้ว่าเราก็ทำพิธีกรได้นินา เพราะจริง ๆ เราเป็นคนที่กลัวมากกับการทำพิธีกร เพราะว่ามีคนติดต่อมาหลายคนแล้วไม่กล้าเลย
แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าทำไมอาจเพราะเป็นวู้ดดี้มั้งก็เลยได้ทำด้วยกัน รู้สึกว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่เราต้องเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ คือตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ แต่รู้สึกว่าต้องลอง พอทำแล้วเหมือนเป็นการเรียนรู้ครั้งใหม่ แล้วทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่ที่มาถามว่าเป็นพิธีกรได้ยังไง ทำไมเป็นได้ คือเขารู้สึกว่าไม่สามารถที่จะพูดได้ ซึ่งเราเคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อนว่าไม่มีทางที่ฉันจะเป็นพิธีกรได้ แต่พอเราเจอกับทุกวันได้เรียนรู้จากวู้ดดี้ มดดำ พี่ตั้ก คือทุกวันนี้ไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นพิธีกรที่เก่ง แต่รู้สึกว่าฉันก็ทำได้นะ แต่ก็พยายามเก็บเกี่ยวกับคนเก่ง ๆ มาเรื่อย ๆ เวลาเราเจอ
อนาคตหลังจากมีละคร ซีรีส์ อยากทำอะไรอีก ?
ธัญญ่า : สิ่งใหม่ที่ทำอยู่ก็คือเรื่องซีรีส์วาย เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับตัวเองแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่าแต่เราต้องการให้เด็ก ๆ ทั้ง 7 คนเกิด อยากให้เขาได้เติบโตในวงการบันเทิงแล้วก็มีแฟนคลับ เป็นโปรเจกต์ที่ลุ้นมากเลยเพราะว่าอันนี้ไม่ได้เป็นการรับจ้างผลิตแต่ลงทุนเอง (ทำเอง) ทุกอย่าง
ได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับซีรีส์วาย ?
ธัญญ่า : ปวดหัว (หัวเราะ) ด้วยความที่เราต้องรับผิดชอบเยอะขึ้น เป็นเด็กใหม่ทั้งหมด และมีหลานเราเล่นด้วย จะมีการเวิร์กช็อปกัน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบาร์โฮส หลายคนจะมองว่าเป็นการขายบริการทางเพศหรือเปล่า เป็นบาร์พวกผู้หญิงมาซื้อผู้ชายหรือเปล่า ซึ่งจริง ๆ มันไม่ใช่มันแค่เป็นการเอนเตอร์เทนเฉย ๆ แล้วจบแค่นั้น บาร์เราจะมีกฎว่าห้ามออกไปต่อกับแขก
อย่างถ้า วู้ดดี้ จะไปเที่ยวบาร์โฮสก็โอเคใช่ไหม ไม่ผิดใช่ไหม ?
ธัญญ่า : จริง ๆ มันเหมือนไปผับค่ะ แบบถ้าเราต้องการมีเพื่อน มาร่วมโต๊ะแล้วก็คุยด้วย เต้นด้วย ซื้อดริ้งค์คนนี้แล้วก็มา ซึ่งจบแค่นั้น ซึ่งต่อจากนั้นเขาจะชอบกันเองหรือเป็นแฟนกันหรืออะไรก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าจ่ายเพื่อไปต่อเพื่อไปมีเซ็กส์ไม่มี ตอนที่เราไปก็เอาพี่เป็กไปด้วย เพราะเราพาเด็กในซีรีส์ไปด้วยเพื่อไปดูว่าวิธีการทำยังไง ไปใกล้บรรยากาศอะไรแบบนี้
พูดถึงพี่เป็กแล้วเนี้ย ชีวิตพวกคุณ 2 คนมันเหมือนรถไฟเหาะ ตอนนี้รถไฟมันอยู่ในโหมดไหนตอนนี้ ?
ธัญญ่า : มันก็เรื่อย ๆ แล้วอ่ะ ก็มีบ้างรถไฟสะดุดก้อนหินก็ยังคงมีอยู่บ้าง คือมันรู้ใจกันแล้วอ่ะ แค่มองตาก็รู้ใจ
ตอนนี้ น้องลียา อายุเท่าไหร่ ?
ธัญญ่า : 14 ปีแล้ว โตเป็นสาวแล้ว ตอนนี้ก็ยังเป็นเด็กขี้อายอยู่ ตอนเราเด็ก ๆ ก็จะเป็นคนขี้อายมากตอนโตแล้วค่อยกล้าแสดงออก ซึ่งลียาเหมือนจะเป็นมากกว่าด้วยซ้ำ ด้วยความที่ไปอเมริกาตอนเขาเด็ก ๆ ที่เอาลูกหนีไป แล้วตอนกลับมาคนก็มาถ่ายรูปเขาเยอะ เขาก็เหมือนตกใจแล้วก็กลายเป็นกลัวการถ่ายรูปไปเลยนั่นคือตอนเด็ก แต่พอเขาเริ่มโตก็เริ่มชอบเล่นติ๊กต๊อก แล้วรู้สึกว่าอยู่ในโลกส่วนตัวของเขา อยากเต้น อยากทำอะไร ก็จะในติ๊กต๊อก แต่ถ้าอยู่ดีๆเราเอากล้องไปถ่ายเขาไม่ได้ เขาจะต้องอยากและอนุญาติที่จะโพสหรืออะไรแบบนี้
ทราบมาว่าตอนนี้ ธัญญ่า และ พี่เป็ก เหมือนอกหักจากลูกตัวเอง ?
ธัญญ่า : ใช่ (หัวเราะ) คือตอนเด็กเราก็จะมาที่ 1 ติดเรา อยากนอนกับเรา ถ้าวันไหนเรากลับดึกเขาก็จะนอนไม่หลับต้องรอ แต่พอเริ่มโตอายุ 12 เขาแยกห้องไปนอนกับหมา เอาหมาไปนอนด้วย ไม่นอนกับพ่อกับแม่แล้ว วันแรกเราก็จริงเหรอลูกจะนอนเองจริง ๆ เหรอ คงแป๊บเดียวเดี๋ยวเขาก็กลับมา ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ยังไม่กลับมาเลย (หัวเราะ) แยกห้องไปเลย ไม่ต้องการนอนกับพ่อกับแม่แล้ว
เราทำใจกันได้หรือยังว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ?
ธัญญ่า : ก็ได้แล้วประมาณหนึ่ง แต่รู้สึกแบบนอนด้วยได้ไหมอ่ะ คืนนี้ไปนอนกับหม่ามี้ไหมอะไรแบบนี้ บางทีก็มีง้อ ๆ อะไรแบบนี้ บางทีก็มานอน แต่เขาจะเป็นคนที่ชอบเปิดทีวีมีเสียงทีวีนอน แต่เราจะเป็นคนชอบนอนเงียบ ๆ มืด ๆ
เป็นห่วงอะไรมากที่สุดเกี่ยวกับ น้องลียา ?
ธัญญ่า : อาจจะความปลอดภัย เพราะว่าสังคมตอนนี้เราก็เห็นข่าวเยอะ กังวลในเรื่องของการที่เราจะปล่อยให้เขาไปไหนมาไหน ซึ่งพี่เป็กก็จะกังวลมากเกินไป เขาก็จะรู้สึกอึดอัด แล้วด้วยความที่เขากำลังเป็นวัยรุ่น อยากไปไหนเอง อยากทำอะไรเอง ซึ่งเราเข้าใจเขานะเพราะว่าเราก็ผ่านช่วงนั้นมาก่อนแล้วก็มีพี่ชาย แล้วก็เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงอนุญาตให้พี่ชายไปโรงเรียนเอง เขาอยากไปกับเพื่อนก็ไปเองได้ แต่เราโอ้โหจนมหาวิทยาลัยเขายังไม่ค่อยปล่อยเลย พอมามีลูกเองก็เลยเข้าใจ แบบมันห่วงไปหมดเลย
ตอนนี้ในวัย 14 เขาก็ยังมีโลกของเขาไหม อย่างเรื่องผู้ชายเขาเริ่มถามไหม ?
ธัญญ่า : ไม่ถามนะคะ ด้วยความที่ตัวเขาเหมือนโตช้ากว่าเพื่อน คือถ้าเอาเพื่อนเขามาเทียบจะดูโตเป็นสาวกันหมดแล้ว แต่ลียายังมีความเป็นเด็กอยู่ ยังชอบเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ อยู่ ยังไม่ใช่เป็นสาวที่จะชอบผู้ชาย มีแฟน ก็เคยถามเขานะว่าลียามีคนมาชอบบ้างไหม มีใครมาจีบไหม เขาก็บอกว่า โอ้โห ! ลียาเนี้ยนะจะมีใครมาจีบ เหมือนเขายังเด็กแล้วก็ตัวเล็ก เขาก็มีความชัดเจนในสิ่งที่เขาต้องการมากขึ้น ในสไตล์การแต่งตัว อยากเรียนต่อด้านไหน ไปเรียนประเทศอะไร