หน้าเป็นด่างขาว รักษายังไง ทริกง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สีผิวกลับมาดูสม่ำเสมอได้ หลายคนคงสงสัยว่าหน้าเป็นด่างขาว เกิดจากอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร ตามมาดูกันเลย
ทุกวันนี้ปัญหาผิวกวนใจสาว ๆ นั้นมีอยู่มากมายหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหย่อนคล้อย ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมไปถึงผิวหน้าเป็นด่างขาว ทั้งจากกรรมพันธุ์และแพ้แดด แต่ละอย่างล้วนสร้างความกังวลใจ เพราะส่งผลต่อบุคลิกภาพของสาว ๆ เป็นอย่างมาก วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีบอกลาโรคด่างขาว เพื่อบรรเทาหรือช่วยให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอมาฝากกัน
โรคด่างขาว คืออะไร
โรคด่างขาว (Vitiligo) เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติกับเซลล์ที่สร้างเม็ดสีผิว (Melanocyte) ซึ่งเซลล์นี้อาจถูกทำลายหรือหยุดการสร้างเม็ดสีผิว (Melanin) จึงทำให้เกิดเป็นด่างสีขาวคล้ายน้ำนมตามผิวหนัง และสามารถเกิดขึ้นบริเวณใดบนร่างกายก็ได้ โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ใบหน้า คอ มือ เท้า หรือตามรอยพับ และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดมากหรือน้อยเพียงใด
โรคด่างขาว เกิดจากอะไร
สาเหตุโรคด่างขาวนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่พบว่ามักจะเกิดร่วมกับผู้ที่มีโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ โลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 โรคต่อมหมวกไต และโรคผมร่วง เป็นต้น สำหรับปัจจัยกระตุ้น ได้แก่ ผิวไหม้จากแดด ความเครียด หรือสัมผัสกับสารเคมีอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย นอกจากนี้โรคด่างขาวยังเป็นโรคไม่ติดต่อ โดยจะไม่ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่เป็น แต่สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์
โรคด่างขาว รักษายังไง
โรคด่างขาวไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เป็นการประคับประคองอาการหรือทำให้รอยด่างขาวดูดีขึ้น วิธีการรักษาโรคด่างขาวจะขึ้นอยู่กับอาการและความต้องการของแต่ละคน โดยการรักษาอาจจะต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ได้แก่
1. ใช้ยาช่วยปรับสภาพสีผิว การรักษาปัญหาหน้าด่างขาวหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ หากเป็นเพราะแดด ต้องใช้ยาในกลุ่มปรับสภาพสีผิว เช่น Lax-1, ครีมบำรุง (Aloe Si) และครีมกันแดด (WRS) โดยการทายาจะต้องใช้ปริมาณยาให้เหมาะสม หากน้อยเกินไปก็จะทำให้เห็นผลช้า รวมถึงการทาครีมกันแดดก็ต้องทาในปริมาณที่มากกว่าครีมบำรุง และควรจะทาทุก 2 ชั่วโมง เป็นต้น แต่ถึงอย่างนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน หากอยากหายเร็วขึ้นควรทำทรีตเมนต์ร่วมด้วย
2. ครีมควบคุมการอักเสบ เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) สำหรับใช้เฉพาะที่ อาจช่วยให้สีผิวกลับมาใหม่ได้หากเริ่มใช้ในขณะที่เพิ่งเริ่มเกิดโรค และอาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาหลายเดือนจึงจะเห็นผล การรักษาด้วยวิธีนี้ค่อนข้างง่ายและมีประสิทธิภาพดี แต่อาจเกิดผลข้างเคียงกับผิวได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
3. การรักษาด้วยยาควบคู่ไปกับการฉายแสง เป็นการรักษาที่จะให้ผู้ป่วยใช้ยาซอราเลน ร่วมกับการฉายแสง (Photochemotherapy) ตัวยาจะทำให้ผิวมีความไวต่อแสงและทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวปกติให้กลับคืนมา โดยการรักษานี้จะมีผลข้างเคียง เช่น แดดเผาอย่างรุนแรง แผลพุพอง ผิวคล้ำมาก และเพิ่มความเสี่ยงเป็นต้อกระจกและมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
4. การฉายแสงด้วยรังสียูวีบี (UVB) เป็นกระบวนการรักษาที่ง่ายและไม่ต้องใช้ยาซอราเลนร่วมด้วย ซึ่งการรักษาวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพในการรักษาบริเวณใบหน้า ลำตัว แขน และขา โดยผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
5. การรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นการรักษาที่จะช่วยให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิวขึ้นมาใหม่ โดยการใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) แต่เป็นวิธีที่ใช้กับพื้นที่ขนาดเล็กเท่านั้น และมักใช้รักษาร่วมกับการใช้ยาทาผิว อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น แดงและเป็นแผลพุพอง
6. วิธีฟอกสีผิว (Depigmentation) เป็นวิธีที่ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีด่างขาวแพร่กระจายเป็นบริเวณกว้างและการรักษาอื่น ๆ ไม่ได้ผล โดยจะใช้ยาที่มีส่วนประกอบของโมโนเบนโซน (Monobenzone) ทาลงไปบนผิวหนังที่ยังมีสภาพปกติ ซึ่งจะช่วยทำให้สีผิวค่อย ๆ ขาวขึ้นจนใกล้เคียงกับผิวที่เกิดด่างขาว นอกจากนั้นผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการบำบัดวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลานานหลายเดือน และต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวที่กำลังรักษาสัมผัสกับผิวผู้อื่นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
7. การศัลยกรรม เช่น การปลูกถ่ายผิวหนัง (Skin Grafting) หรือการสัก (Micropigmentation) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษา และสามารถใช้รักษาร่วมกับการบำบัดในข้างต้นได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ โดยวิธีศัลยกรรมจะถูกใช้เมื่อการรักษาด้วยการบำบัดและการใช้ยาไม่เป็นผล โดยมีจุดประสงค์ในการรักษาเพื่อทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ
เป็นยังไงกันบ้างคะสาว ๆ สำหรับวิธีรักษาหน้าเป็นด่างขาว ใครอยากมีผิวกลับมาสม่ำเสมอ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปพิจารณากันดู เผื่อจะช่วยให้หน้าเป็นด่างขาวดีขึ้นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : nakornthon.com, phyathai.com, si.mahidol.ac.th, pobpad.com, rcskinclinic.com