แก้มกี้ Gamgy ยูทูบเบอร์ดัง อัดคลิปแจง หายไปไหนมา ยันชัดไม่ได้ฟอกเงิน !

            ห่างหายไปจากโลกโซเชียลอยู่พักใหญ่ สำหรับยูทูบเบอร์ดัง แก้มกี้ เจ้าของช่อง "Gamgy channel" ท่ามกลางกระแสข่าวและประเด็นสงสัย ว่าเธอหายไปไหน หลังจากเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ออกมาประกาศถอยห่าง เว้นระยะกับแฟนหนุ่ม "รูบี้" ไปก่อนหน้านี้

             อ่านข่าว : แก้มกี้ Gamgy ยูทูบเบอร์ดัง ประกาศถอยห่างเว้นระยะ รูบี้ แฟนหนุ่ม

แจงแหล่งที่มารายได้ ยันไม่ได้ฟอกเงิน

             - เรื่องที่คนสงสัยว่าฟอกเงินจริงไหม เงินที่ลงทุนเอามาจากไหน ยืนยันว่าไม่จริง เงินทุกบาทได้มาจากน้ำพักน้ำแรงทั้งหมด

             - ตอนที่เรียนจบใหม่ ๆ ตนเป็นยูทูบเบอร์ บิวตี้บล็อกเกอร์ อินฟลูฯ ตั้งแต่สมัย 2016 เรตรายได้ต่อคลิป ต่อภาพ อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่น- 1 แสนบาท ในปีแรก ๆ

             - ตอนนั้นไม่ได้มีรายจ่ายอื่น เพราะไม่มีทีมงาน ทำเองทั้งหมด รายได้เยอะมาก ๆ แล้วเรตก็บวกขึ้นเรื่อย ๆ ตามยอดฟอล ตามความดัง จนปัจจุบันเรตอยู่ที่ 1.8 แสนบาท ต่อคลิป

             - ก่อนเปิดบริษัท รายได้เยอะจนสรรพากรเรียกไปพบ เพราะยอดเสียภาษีเยอะมาก ตอนนั้นเราไม่มีความรู้ เพราะรับเป็นนามบุคคล

             - ตอนนั้นรายได้เยอะ แต่ไม่อยากใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นเลย เพราะตอนนั้นมีเป้าหมายในการปลดหนี้ บ้านก็จะโดนยึด มันมีที่มาที่ไปที่เราขยัน ทำงานหนักมาก เป็นความพยายามของเราที่อยากให้ทุกคนไปดูจริง ๆ ก่อนจะว่าเราฟอกเงิน

             - หลังเปิดบริษัทก็เริ่มมีทีมงานเข้ามา แล้วก็เปิดแบรนด์ของตัวเอง จนมีทีมงานเพิ่มขึ้นเป็น 40 กว่าคน เราตั้งใจทำแบรนด์นี้มาก จนมีรายได้ 2 ทาง ทั้งงานอินฟลูฯ เดิม และรายได้จากยอดขายแบรนด์ ซึ่งยอดขายสูงขึ้นทุกปี ปีแรกยังไม่สูง ปีถัดมา 100 ล้าน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

             - เรื่องรายได้บริษัท ตนมีหลักฐานที่เช็กได้ตลอด โดยจะลงให้ดูกันในอินสตาแกรม ต่อมาตนก็ตั้งใจนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็๋มีออดิตเข้ามาตรวจสอบบัญชี เราจ่ายภาษีตรงตลอด ปีที่แล้วจ่ายไปเกือบ 10 ล้าน เช็กได้หมด ทุกอย่างเป็นความจริง

เรื่องรูบี้เคยเป็นตำรวจ

             - เรื่องรูบี้เป็นตำรวจ ตนไม่เคยปิด เขาเข้าได้เพราะมีโควต้านักกีฬารักบี้ แต่ตนไม่ได้สนับสนุนให้เขาเป็น เพราะมองว่ามันแย้งกับอาชีพของตน เป็นยูทูบเบอร์ ต้องมีคนถือกล้อง ถ้าเขาเป็นตำรวจจะไม่มีเวลาให้ เราทะเลาะกันบ่อยมาก อยากให้เขาออกจากตำรวจ จนในที่สุดเขาก็ลาออก ตนเลยลบรูปที่เคยลงยินดีที่เขาเป็นตำรวจออกไป เพราะไม่อยากให้คนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นตำรวจอยู่

สาเหตุที่ไม่ออกมาแก้ข่าวแต่แรก

             - เรื่องเกิดขึ้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนั้นตนตั้งท้องได้ประมาณเดือนกว่า เป็นการท้องที่เราไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้คิดจะท้อง ตอนนั้นทำคลิปว่าห่างกับรูบี้ เราทะเลาะกันหนักมาก และห่างกันจริง ๆ

             - ตอนเขารู้ว่าเราท้อง เขายังไม่มีความพร้อมจะเป็นพ่อ เขาติดเพื่อน ปาร์ตี้ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม จึงตัดสินใจจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะเราทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตลอด คิดว่าเราดูแลตัวเองได้

             - วันแรกที่ไปฝากครรภ์ก็ไปกับเพื่อน เขาไม่ได้ไป ช่วงนั้นไม่รู้จะออกมาพูดเรื่องไหนก่อน อย่างความรู้สึกที่กำลังจะเป็นแม่ เรายังรับความรู้สึกนั้นไม่ได้เลย ว่าเรากำลังท้อง แล้วเราก็ทะเลาะกับแฟน เราก็ตัดสินใจห่างกัน เรารับไม่ได้ที่เขาไม่มีความเป็นพ่อ

            - เมื่อเราท้อง ทางกายภาพเราต้องเป็นแม่อยู่แล้ว แต่พ่อยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ก็รู้สึกว่าไม่เอาจริง ๆ มันควรต้องมีความรับผิดชอบกว่านี้ และยังมีประเด็นข่าวเข้ามาอีก ทุกอย่างเข้ามาพร้อมกันหมด

เจอเรื่องหนักถาโถมในช่วงที่ท้อง

             - ตอนไปฝากท้อง หมอบอกถุงตั้งครรภ์อยู่ชิดขอบมดลูกมากเกิน ห่วงว่าเราจะท้องนอกมดลูก ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าต้องรู้สึกอะไร ไม่รู้จะออกมาพูดเรื่องไหนก่อน กลัวเราจะเข้มแข็งไม่พอ จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกไหม ถ้าเกิดเราคงไม่ให้อภัยตัวเอง

             - ตอนนั้นตัดสินใจโฟกัสลูกก่อน ข่าวไว้ก่อน งานไว้ก่อน รูบี้ไว้ก่อน เราขออยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียวจริง ๆ ไม่เสพสื่อ ไม่อ่านคอมเมนต์ เพราะตอนนั้นมันไม่ไหว ถ้าใครไม่อยู่จุดที่ลูกเสี่ยงอยู่ ในภาวะแบบนั้น จะไม่มีใครเข้าใจได้จริง ๆ ว่ามันหนักแค่ไหน

             - อยากมาบอกทุกคน อยากได้กำลังใจมาก ๆ แต่เราไม่รู้ว่าจะออกมายังไง ไม่รู้คำพูดว่าเราท้องจะเป็นข้ออ้างไหม คนจะว่าเรียกคะแนนสงสารหรือเปล่า เราจะมีชีวิตต่อได้ไหม ในแบบที่เราไม่ได้ผิดอะไร

ที่ออกมาคืออยากบอกความจริงกับทุกคน

             - วันนี้ตนพร้อมแล้ว อยากมาบอกทุกคนว่าความจริงคืออะไร ที่ผ่านมารู้สึกว่าความจริงไม่สามารถชนะทุกอย่างได้ ไม่รู้ว่าเราสู้กับอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยากให้ย้อนกลับไปดูสิ่งที่ตนทำ ตัวตนที่เราเป็น

             - มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกมาพูด โซเชียลมีเดียมันคือชีวิตของตน แต่พอมีอะไรเข้ามาแบบนี้เราตั้งตัวไม่ทันจริง ๆ อยากให้รู้ว่าคอมเมนต์หนึ่งมันมีผลมาก ๆ

             - ที่ผ่านมาตนก็ใช้ชีวิตปกติ ที่ไทย อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้หนีไปนอกประเทศ ไม่ได้ไปผับอย่างที่คนคอมเมนต์เลย เราไม่ได้ไป ไม่ได้ทำ เราอยู่บ้านของเรา เลี้ยงลูก ใช้ชีวิตปกติมาก ๆ

             - เราไม่รู้ว่าเรากำลังสู้กับอะไร ไม่รู้คลิปนี้ออกไปจะเป็นแบบไหน รู้แค่ว่าวันนี้เรามีความจริงอยากมาอธิบาย มาบอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ดูคลิปจนจบ และขอบคุณทุกคนที่คิดถึง