เป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง กรณีของ เม เมรี คำภีร์ ลูกสาวของ ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ที่ได้ออกมาประกาศข่าวตั้งท้องได้ 3 เดือน และขอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ภายหลังจากเลิกกับแอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ บอตทอมบลูส์ ทั้งยังได้เผยว่า เคยคุยกับแอมมี่แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่เชื่อ จนเมื่อผลตรวจออกมาว่าท้องจริง ฝ่ายชายก็บล็อกและหายไป
ล่าสุด (7 มกราคม 2567) ทางแอมมี่ บอตทอมบลูส์ ได้ออกมาชี้แจงโต้กลับเรื่องราวจากทางฝ่ายหญิงผ่านทางอินสตาแกรม โดยระบุว่า ตนเลิกกับเมรี ก่อนที่จะรู้ข่าวเรื่องตั้งท้อง หรือก่อนที่จะไปตรวจการตั้งครรภ์ ตอนแรกที่ทราบผลก็แสดงความรับผิดชอบและมีการวางแผนการฝากครรภ์ทันที พร้อมทั้งได้ขอคุยเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง
โดยแอมมี่ได้เผยภาพข้อความสนทนาระหว่างตนกับฝ่ายหญิง ในส่วนที่มีการพูดคุยกันเรื่องรับผิดชอบเด็กในครรภ์ พร้อมทั้งเหตุผลที่เขายืนยันว่าจะเลิกกับเธอ ไม่สามารถทนอยู่กับคนที่ขู่ทำร้ายตนและลูกสาวได้ แต่เรื่องลูกยืนยันว่าจะรับผิดชอบตลอด และตอนที่คุยเรื่องการจัดการเด็กและฝากครรภ์อยู่ ๆ ฝ่ายหญิงก็เท
แอมมี่ ระบุว่า ครั้งสุดท้ายที่เจอกับเมรี เขาได้ขอให้เธอไปตรวจ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมไป บอกว่าไม่กล้าไปคนเดียว เมื่อตนบอกว่าจะไปด้วย พอฝ่ายหญิงมาก็มีเรื่องโมโหและกลับไป ในขณะที่หญิงสาวโต้ว่าเธอรออยู่หน้าบ้านเกือบชั่วโมง ส่วนเรื่องลูกก็คุยกันมานานแล้วว่าเธอประจำเดือนไม่มา แต่ไม่ตรวจ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะไม่คิดว่าจะเลิกกันหากท้องจริง ๆ
อย่างไรก็ดี ทางแอมมี่ได้ชี้แจงเหตุผลที่ขอเลิกกับเมรีตั้งแต่ก่อนหน้านั้น โดยระบุว่า มี 3 ข้อ ได้แก่ ฝ่ายหญิงขู่ทำร้ายลูกสาว ใส่ความตนกับทางค่ายต้นสังกัด และสร้างข่าวแฉตนให้ได้รับความเสื่อมเสีย โดยเข้าใจว่าเธอรู้จักกับนักข่าวและเพจที่ออกมาเผยข้อมูล
ทั้งนี้ ในข้อความสนทนาดังกล่าว ทางฝ่ายเมรี ก็ได้ตอบโต้ว่าเธอไม่ได้รู้จักนักข่าวมาก่อน ตามที่ฝ่ายชายได้กล่าวอ้าง ส่วนเรื่องที่เธอเข้าไปด่าแอมมี่ในกลุ่มค่าย เป็นเพราะฝ่ายชายดึงเธอเข้าไปในกลุ่มนั้นเอง ส่วนเรื่องที่ขู่ทำร้ายลูกสาวของเขา เธอยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของเธอ และสุดท้ายเธอเลือกที่จะไม่ขอยุ่งกับฝ่ายชายต่อหลังจากหมดช่วงการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นอาจมีให้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่ตั้งใจให้เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกให้น้อยที่สุด
ในขณะที่แอมมี่ ยืนยันกับเมรีว่าเรื่องความสัมพันธ์จบแล้วแน่นอน แต่จะรับผิดชอบเรื่องเด็กในท้องทุกอย่าง โดยขอให้ฝ่ายหญิงเอาเรื่องสุขภาพของเด็กเป็นหลัก เลิกใช้อารมณ์ และให้ติดต่อกับตนโดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง ทั้งยังบอกว่าเธอมีอาการป่วยบางอย่าง ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอเคยร้องไห้และยอมรับว่าหยุดไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้นทุกครั้งเวลาโกรธ
สำหรับเรื่องราวจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป