ก่อนหน้านี้มีภาพออกมา คุณแม่กับอดีตแฟนกอดกัน ?
น้ำหวาน : ถ้าเป็นรูปนั้นน่าจะเป็นรูปเก่า แต่ในความเป็นจริงเขาได้มีโอกาสได้เคลียร์กันแล้วในทริปที่หวานไปแข่งโป๊กเกอร์ที่เวียดนาม แล้วทริปเมื่อเดือนธันวาคมเป็นทริปที่เขาได้เจอกันครั้งแรกหลังจากที่มีปัญหา ซึ่งเขากอดกัน แต่ตอนกอดหวานไม่เห็น ผู้จัดการเล่าให้ฟัง
ในทริปคือชวนไปด้วยกัน ไปพร้อมกัน ?
น้ำหวาน : ค่ะ คือเรามีนักกีฬาโป๊กเกอร์ไปกันเยอะมาก ตัวแทนประเทศไทย
จริง ๆ คุณแม่กับอดีตแฟนเคลียร์ใจกันตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้เป็นข่าว ?
น้ำหวาน : ค่ะ มีช่วงหนึ่งก่อนเขาจะย้ายบ้าน คุณแม่ได้ถามหวานว่า เขาอยากกินอะไร คุณแม่จะทำเป็นของขวัญไปให้ก่อนย้ายบ้าน มีการฝากขอบคุณกันไปกันมา แต่ว่าที่มาเจอกันเลยคือที่เวียดนาม ซึ่งจบสวย อย่างที่หวานเคยบอกไป ทุกอย่างมันเคลียร์ก่อนปีใหม่ ต่างคนต่างมูฟออนไปในเวย์ของตัวเอง
หลังจากที่เลิกรากันไปจนถึงตอนนี้ สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง ?
น้ำหวาน : สำหรับตัวหวาน 100% โอเคแล้ว หวานว่าตั้งแต่เขาเคลียร์กันที่เวียดนาม มันทำให้หวานรู้สึกว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะมูฟออนจริง ๆ เราไม่มีอะไรคาใจอีกต่อไป ทุกอย่างมันจบ เรารู้สึกว่าโอเค เริ่มใหม่
ฝั่งอดีตแฟนเรามีการเปิดตัวเหมือนกับว่ากำลังคบกับคนคนหนึ่งอยู่ เห็นบอกว่าโทรศัพท์ไลน์แตกมาก ?
น้ำหวาน : หวานต้องบอกก่อนว่าหวานทราบมานานมากแล้ว แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเราในการที่จะพูด คนก็ไลน์มา โทร. มาถามความรู้สึก วันนั้นหวานไปกาญจนบุรีไปทำงาน มีคนเดินเข้ามาสอบถาม ก็ต้องขอบคุณ ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณที่ห่วงใยความรู้สึก แต่หวานทราบมานานมากแล้ว
คนที่เขาไลน์มาหรือโทร. มา ส่วนใหญ่เขาพูดอะไรกับเรา ?
น้ำหวาน : สู้ ๆ นะ เป็นกำลังใจให้ หรือว่าโอเคไหม ก็เป็นการเช็กความรู้สึกของเรา ซึ่งตัวเรารู้สึกซาบซึ้ง ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องหรือมีปัญหา คนรอบข้าง เพื่อนฝูง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ไม่เคยทิ้ง รู้สึกดีค่ะ
แล้วมีคนถามไหมว่ายังเจ็บอยู่ไหม ร้องไห้ไหม ?
น้ำหวาน : มีค่ะ ตอนที่หวานอัปรูปลงล่าสุดหวานใส่แว่นดำหมดเลย ก็จะมีคอมเมนต์มาในไอจีว่า ใส่แว่นดำเพราะว่าร้องไห้หรือเปล่า ตาบวมหรือเปล่า ก็จะมีคน DM เข้ามา ซึ่งหวานอยากจะบอกว่าแดดร้อนมาก มันไม่ได้เกี่ยวกัน มันเป็นเรื่องของทางฝั่งเขาไม่ได้เกี่ยวกับเรา เราก็ดำเนินชีวิตของเราไปตามปกติ
มีคนถามว่าเห็นแบบนี้ไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา ?
น้ำหวาน : มันผ่านจุดนั้นมาแล้ว มันผ่านจุดเสียใจ ผ่านจุดร้องไห้ ผ่านจุดที่เป็นความรู้สึกแบบนั้น ณ วันนี้มันไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว พอเราตัดสินใจได้ว่าเราจะมูฟออน เราก็ไปข้างหน้าไม่ได้มองย้อนกลับไปเรื่องเดิม
แต่ก็มีคนแซวเปิดตัวมา เอ้า..หน้าเหมือนกันเลย ?
น้ำหวาน : ค่ะ หวานเห็นในข่าวนะ ถ้าความเห็นส่วนตัว หวานมองว่าไม่ได้เหมือน แต่อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของคนมากกว่า
ปัจจุบันนี้เราสามารถคุยโทรศัพท์กันได้ไหม หรือเป็นเพื่อนกันได้อย่างที่ข่าวออกไปไหม ?
น้ำหวาน : จริง ๆ ช่วงนี้หวานไม่ค่อยได้คุยกับเขา ก่อนหน้านี้ระหว่างที่เขามูฟออนไปแล้ว เราก็ยังคุยกันอยู่ เพราะเรามีเรื่องของน้องหมาที่จะต้องสื่อสารกัน มันไม่ได้เกี่ยวว่าช่วงนี้ไม่คุยเพราะเขามูฟออน อันนี้ไม่ใช่นะคะ แต่เรื่องของน้องหมามันลงตัว ก็เลยทำให้เราไม่ได้มีการติดต่อสื่อสารอะไรกันเพิ่มเติม
ถ้าเจอกันตามงาน หรือร่วมงานกัน สบายไหม ?
น้ำหวาน : ทักทายได้ค่ะ เราก็เป็นพี่เป็นน้องร่วมวงการ อย่างน้อยก็เป็นคนเคยรู้จักกัน ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมันมีทั้งดีและไม่ดี
ฝั่งเขา คิดว่ามูฟออนเร็วไปไหม ?
น้ำหวาน : เรื่องของเวลาอันนี้หวานไม่คอมเมนต์ เราก็ร่วมยินดีไปกับเขาด้วยที่วันนี้เขามีความสุข อันนี้ก็เป็นหน้าที่ของน้อง ของเพื่อนคนหนึ่งที่จะทำให้กัน แต่ยังไม่ได้มีโอกาสแสดงความยินดีด้วยตัวเอง ก็ขอแสดงความยินดีผ่านทางรายการเลย
[ อ่านเพิ่มเติม : กวาง เปิดตัวแล้วยิ่งหวาน ลงรูปคู่ เพลง กวิตา เมินคนมองรักใหม่หน้าคล้ายคนเก่า ]
เพจดังชี้เป้าคนนี้ก็ได้เปิดตัวชายหนุ่มเหมือนกัน ?
น้ำหวาน : อ่อที่เจ๊มอยลง เห็นแล้ว คนก็โทรศัพท์มาถามเยอะมากเหมือนกัน คุณอั้มเป็นเพื่อนกัน เขาเป็นเพื่อนที่ดีของหวาน
เขาเป็นนักบินใช่ไหม ?
น้ำหวาน : ค่ะ หวานเคยร่วมงานกับเขาอยู่แล้ว แต่นานแล้ว วันนั้นก็จบในตอน ไม่ได้มีการติดต่อสื่อสาร ก็เพิ่งวนมาทำความรู้จักกันใหม่เมื่อไม่นานมานี้
คนนี้เขาเป็นที่ปรึกษาหรือให้กำลังใจเรายังไงบ้าง ?
น้ำหวาน : ด้วยความที่เราอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เวลาคุยกันก็คุยแบบง่าย ๆ ไม่ต้องย่อย ก็จะถามเขาในเรื่องงานซะส่วนใหญ่ เพราะเขาก็ทำธุรกิจด้วย
ที่บอกว่าวนกลับมาเจออีกครั้ง คือบังเอิญเจอหรือมีใครแนะนำ ?
น้ำหวาน : มีรุ่นพี่แนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ
สถานะเขาเป็นยังไง หัวใจว่างไหม ?
น้ำหวาน : หวานไม่เคยถามเขาเรื่องนี้ เราเบสออนความเป็นเพื่อน เรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หวานก็ไม่เคยสอบถาม
ความน่ารักของเขาในมุมเรา เขาเป็นคนแบบไหนที่เรารู้สึกว่าคนนี้ก็น่ารักดีนะ ?
น้ำหวาน : เขาเป็นเพื่อนที่ดี ด้วยความที่เราคุยกันง่าย ๆ มันก็เลยทำให้เราเป็นเพื่อนกันได้
ตอนนี้ยังไม่ใช่สถานะแฟนถูกไหม ?
น้ำหวาน : ใช่ค่ะ หวานยังโสด 100%
เป็นเพื่อน แต่คุยกันทุกวัน ?
น้ำหวาน : ใช้คำว่าเราทักทายกันทุกวัน แล้วซัพพอร์ตกันดีกว่า
คุยกันส่วนใหญ่มีรอยยิ้มบ้างไหม ?
น้ำหวาน : ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องตลก ๆ แต่ในโหมดมีสาระเราก็คุยกัน เขาทำธุรกิจหลายอย่าง แล้วหวานเป็นคนมือใหม่ด้านธุรกิจ เพราะฉะนั้นเวลาที่เรามีคำถามอะไรที่มันสงสัยหรืออยากได้คำปรึกษา เขาก็สามารถให้เราได้
ผู้ชายคนนี้น่ารัก มีของติดไม้ติดมือตลอด ?
น้ำหวาน : เขารู้ว่าหวานชอบสิ่งนี้ ก็เคยแท็กขอบคุณเขา คนก็เลยเกิดคำถามแล้วมาแซว
ถ้านับระยะเวลาที่รู้จักกัน คุยกันแป๊บเดียวเนอะ ?
น้ำหวาน : หวานรู้จักเขาช่วงเดือนธันวาคม
เขาไม่คุยเรื่องอดีตของหวานเลย ?
น้ำหวาน : ใช่ค่ะ ไม่เคยถาม เป็นเรื่องที่ไม่ได้ปรึกษา หวานว่าด้วยความที่เรามาเป็นเพื่อนกันตอนโต บางสิ่งบางอย่างมันก็เป็นสเปซในเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน เหมือนเรื่องเขาหวานก็ไม่เคยถาม มันแล้วแต่เราจะพูดคุยยังไง หวานมองไปที่อนาคตมากกว่า ระหว่างทางจะบาดเจ็บขนาดไหนหวานไม่เคยสน แล้วมันก็จบอย่างที่เห็น ในช่วงที่เป็นโสดอยู่ตอนนี้ หวานก็คิดได้ว่า จริง ๆ เราก็ลืมมองว่าปัจจุบันนี่แหละเป็นสิ่งที่เราดีลได้ เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ เพราะฉะนั้นชีวิตหวาน ณ วันนี้ก็คืออยู่กับปัจจุบัน มีความสุข หวานว่ามันเป็นเรื่องของสุขนิยม แล้วก็อยู่กับปัจจุบันโดยที่ไม่คาดหวังเรื่องอนาคต เพราะว่าอนาคตมันยาก สิ่งที่แน่นอนมันคือสิ่งที่ไม่แน่นอน สิ่งที่ไม่แน่นอนมันอาจจะเป็นสิ่งที่แน่นอนก็ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในชีวิต เรามีประสบการณ์ แต่หวานไม่อยากให้ประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตทั้งหมด มันเป็นแค่ประสบการณ์ที่ผ่านไป ทุกอย่าง ทุกดราม่าที่เราเจอ มันต้องหล่อหลอมให้เรากลายเป็นคนที่โตขึ้น เป็นเวอร์ชั่นที่ดีมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ประสบการณ์ ไม่งั้นมันจะไม่มีประโยชน์เลย ผ่านมาก็ผ่านไป
ช่วงที่บาดเจ็บหนัก ๆ มุมของน้ำหวานใช้วิธีอะไรฮีลใจตัวเอง ?
น้ำหวาน : หวานโชคดีมาก หวานมีคุณพ่อ คุณแม่ ที่ไม่เคยปล่อยมือหวานเลย ทั้งที่คุณแม่ก็เจอหนักมาก รวมถึงเพื่อน ๆ หวานด้วย อาจจะไม่ได้มีกันเยอะมาก ทุกวันนี้ 24 ชม. เพื่อนยังวนเวียนเฝ้าเวรยามกับหวาน หวานรู้สึกว่าถ้าไม่มีครอบครัวหรือเพื่อน ๆ หวานมาตรงนี้ไม่ได้เลย เพราะว่าเรื่องที่เจอมันหนักมาก
พอพูดถึงคุณแม่ กลัวว่าคุณแม่จะโอเคไหม จะมีปัญหาไหม ?
น้ำหวาน : อย่างในเรื่องของคุณแม่หวานเอง หวานค่อนข้างรู้สึกไม่ดี ช่วงนี้เป็นช่วงที่หวานแข็งแรงมากในการดำเนินชีวิต มันทำให้หวานมีโอกาสย้อนกลับไปดูพวกคลิปสัมภาษณ์ตัวเองที่ผ่านมา หวานจะชอบกดเข้าไปดู แล้วหวานก็ไม่แปลกใจที่ทัวร์จะลงบ้านหวานแล้วทัวร์มาลงคุณแม่อยู่เสมอ เพราะว่าหวานพูดไม่หมด ไม่ใช่หวานพูดไม่จริง แต่หวานพูดไม่หมด มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เราอยากพูด แต่เราพูดไม่ได้ เพราะว่าถ้าการพูดของเรามันไปทิ้งบอมบ์ให้คนอื่น หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อน มันเป็นเรื่องมารยาทในการพูด ถ้าสังเกตุหรือย้อนกลับไปดูคลิปสัมภาษณ์เก่า ๆ ก็จะเห็นว่าหวานเลือกที่จะตอบคำถามกลาง ๆ หมดเลย เพราะเราไม่ต้องการให้กระทบใคร อันนี้คุณแม่ก็กระชับมาเวลาสัมภาษณ์ให้พูดกลาง ๆ ทั้งหมด เพราะการทิ้งบอมบ์ให้คนอื่นมันไม่ดี เราอยากจะเลิกกันแบบผู้ดี มันเป็นเจตนาแบบนั้นตั้งแต่วันแรก แต่พอเรื่องมันผ่านไปเรื่อย ๆ มันก็ทำให้บานปลายใหญ่โต แล้วคนก็มาว่าคุณแม่เยอะมาก แต่แม่เองก็ชิล เรารู้แก่ใจ ความจริงมีหนึ่งเดียว แต่มันแล้วแต่วิจารณญาณและมุมมองของคนที่จะมองเข้ามา คอมเมนต์ส่วนใหญ่ว่าคุณแม่หมดเลย หวานเองก็เสียใจ เราเป็นลูกไม่สามารถพูดออกไปได้หมด เพราะการพูดของเราทำร้ายคนอื่น เราเลือกที่จะไม่ทำอยู่แล้ว
บางคนรู้แค่มุมเดียว แต่ก็ให้มันจบไป ?
น้ำหวาน : จริง ๆ มันควรจะจบ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องในบ้าน มันไม่ควรที่จะถูกเผยแพร่ออกไป แต่ ณ วันนี้เรื่องในบ้านมันถูกกระจัดกระจาย ไม่ว่าหวานจะทำอะไร อย่างหวานสัมภาษณ์ หวานมีคนคุยบ้าง คนก็ว่าคุณแม่ มันมาได้ยังไง หวานก็งง เลิกกับแฟนก็ว่าคุณแม่ว่าคุณแม่เป็นต้นเหตุ พอหวานอ่านแล้วมันไม่ใช่ อะไรที่คุณแม่ผิดหวานยอมรับผิดมาตลอด เราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาลที่ทำทุกอย่างได้ถูกต้องเสมอไป ทุกคนมันต้องมีส่วนผิด จากนี้จะคอมเมนต์อะไรอยากให้พูดถึงกันในแง่ดีนิดนึง เพราะคุณแม่เริ่มส่งทนายไปพูดคุย แล้วมีหลายคนวนกลับมา
ตอนนี้คนที่คอมเมนต์ด้านลบ ก็คือไหว้สวยรวยกระเช้า ?
น้ำหวาน : เราไม่ได้อะไรกับเขา แต่เป็นวิธีการสอนวิธีการเล่นโซเซียลให้กับเขา ถ้าไม่รู้จริง อย่าเมนต์ แต่ถ้าขอโทษกลับมา คุณแม่ก็ให้อภัย ถือว่าผู้ใหญ่ให้อภัยเด็ก ซึ่งก็เยอะ เพราะคำพูดแรง ๆ เยอะมาก คิดได้ยังไง บางอย่างมันไม่ถูก หวานถึงได้บอกว่ามีคนคิดแบบนี้ เราพูดอะไรไม่ได้มาก
คอมเมนต์ไหนอ่านแล้วไม่โอเค ?
น้ำหวาน : ก็อย่างที่ทุกคนเห็นแหละ แต่ไม่แปลกใจจากเรื่องที่เกิดขึ้น หวานพูดไม่หมด ทำไมรถทัวร์มาลงบ้านหลายคัน คันแล้วคันเล่า ส่วนใหญ่ก็โทษคุณแม่ว่าทำลายชีวิตคู่หวานให้พัง
บางคำ "ตกลงแฟนลูกหรือแฟนแม่" ?
น้ำหวาน : แต่ไม่ได้คำว่าแฟน ใช้คำแรงกว่านั้น อ่านแล้วได้แต่ส่ายหัว ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แต่หนึ่งเดียวนั่นคืออะไร มันก็แค่นั้นแหละ มันก็โทษตัวเองแหละ พูดไม่หมดเพราะเรื่องบางเรื่องมันไม่สามารถพูดได้
อยากบอกอะไรกับชาวเน็ต ?
น้ำหวาน : ก็อยากให้เมนต์กันแบบน่าเอ็นดูนิดหนึ่ง คือหวานทำงานมา 20 ปี เราตั้งใจสร้างความสุขให้ทุกคน ในวันที่หวานล้ม ก็อยากเมนต์แบบเป็นกำลังใจกันนิดหนึ่ง เห็นเรามาตั้งแต่เด็ก ก็อยากให้เปิดใจ เอ็นดูในการคอมเมนต์ เปิดใจดูว่ามันมีหลากหลายมุม และเรื่องชีวิตคู่ ถ้าจะว่า ไม่ว่าเราก็ว่าเขา อันนี้หวานว่าแฟร์ แต่ถ้าลากคนอื่นเข้ามา มันไม่แฟร์ โทษคนอื่นมันไม่ดี
สภาพจิตใจคุณแม่ ?
น้ำหวาน : แรก ๆ เลยคุณแม่เป็นคนโดนเยอะสุด แต่หวานเป็นคนร้องไห้เยอะสุด แต่คุณแม่ปลอบใจเรา ทั้งที่เราหัวอกเดียวกัน บางวันขับรถไปกับแม่ หวานร้องไห้กลางสี่แยก แม่ก็มาขับแทน บางวันเราแย่มาก เราผ่านไปได้เพราะครอบครัวและเพื่อน
แล้วนักบินล่ะ คุณแม่ว่าไง ?
น้ำหวาน : คุณแม่ไม่ได้เมนต์ เขาไม่เคยมายุ่งเรื่องเรา แม่เจอตอนที่เขาแวะมารับที่บ้าน แม่ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน เดี๋ยวฉันโดนทัวร์ลง (ยิ้ม) เขาแค่เป็นห่วงเรื่องขับรถ ช่วงที่เกิดปัญหาหวานขับรถชน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ถอยรถชนยุบไปเลย ตอนนั้นมันไร้สติ
หนุ่มนักบิน ไปขอจากพระแม่ลักษมี ?
น้ำหวาน : หวานเป็นเพื่อนกับเขา ตอนไปไหว้ก็ขอพระแม่ ขอให้เจอคนดีที่พอดีกับหวาน มันหายากคนที่พอดีกับเรา ทุกคนมีด้านดีและไม่ดี เพราะฉะนั้นถ้าเราจะมีแฟน มันต้องพอดีกัน และเรามีแฟนมาน้อย ฉะนั้นหวานต้องหาคนที่พอดีกับเรา
โสด 100% ถ้าคนจะมาขายขนมจีบล่ะ ?
น้ำหวาน : หวานโสด (ยิ้ม) แต่จริง ๆ หวานมีความสุขกับตัวเองนะ จะมีแฟนหรือไม่มีแฟน มันไม่ใช่ประเด็น ถ้ามีแล้วปวดหัว ไม่มีดีกว่า แต่ก็มีหมอดูทักว่าจะเจอคนที่ใช่ก่อน 30 เม.ย. บางคนก็บอกก่อน บางคนก็บอกหลัง เริ่มสับสน แต่หมอดูทักว่าจะมีคู่ก็สบายใจ จะได้เริ่มวางแผน ตอนนี้ใช้ชีวิตโสด สวย ๆ ไปก่อนได้
และคุณนักบินคนนี้ ตรงตามที่คุณหมอทักไหม ?
น้ำหวาน : หวานไม่ทราบจริง ๆ เขาเป็นเพื่อน
เราคาดหวังกับรักครั้งต่อไปยังไง ?
น้ำหวาน : หวานไม่คาดหวังแล้วกับความรักครั้งต่อไป หวานฝากชีวิต ความสุข ไว้กับปัจจุบันเท่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่เราดีลได้ และอะไรที่เกินวันพรุ่งนี้ หวานไม่คิด หวานคิดแค่วันนี้ วันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่
เราจะกลายเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนไหม ?
น้ำหวาน : จริง ๆ เราไม่เคยแต่งงานนะ เราก็ไม่รู้ภาพนั้นเป็นยังไง แต่ถามว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ เรามีความสุขกับตัวเองมากพอ พยายามบิลด์ความสุขให้ตัวเอง เพื่อจะกระจายไปให้คนอื่นได้
สเปกของเรา ?
น้ำหวาน : สเปกเหรอ อย่างแรกชอบคนที่หน้าตา หน้าตาถูกใจ นิสัยค่อย ๆ ดูไป ชอบคนที่พอดีกับเรา ตลกได้ (ร้องเพลงไหม ?) ไม่เอาดีกว่า (ยิ้ม) หวานชอบคนเก่ง มีความสามารถ มันต้องเจอ อายุไม่ห่างกันมาก ซึ่งคนในวงการเป็นพี่เป็นน้องกัน (ต่างชาติล่ะ ?) หวานชอบจองกุก หวานเป็นอาร์มี่
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama