ก่อนหน้านี้แฟนไม่เคยพูดเรื่องแต่งงานมาก่อนเลย ?
มายด์ : ไม่เคย เขาไม่ชอบพูดเรื่องแต่งงานอยู่แล้วด้วย เหมือนเราคบกันมาสักพักประมาณ 5 ปี เราก็อยากถาม อยากรู้ว่าเขาจะยังไง เราจะยังอยู่ในอนาคตด้วยกันไหม เขาบอกอย่าพูดเรื่องแต่งงาน ไม่ชอบพูดเรื่องนี้ เราก็โอเคไม่ชอบพูด เข้าใจได้
ในที่สุดก็มีวันที่ขอแต่งงานเกิดขึ้น ?
มายด์ : ที่ชิลีค่ะ เดินทางเกือบ 36 ชั่วโมง แล้วตรงนั้นใช้เวลาเดินขึ้นไป 5 ชั่วโมงครึ่ง รวมทั้งขึ้นและลงเกือบ 24 กิโลเมตร
เขาก็มั่นใจว่าต้องไม่ใช่ทริปนี้แน่นอนที่จะขอแต่งงาน ?
มายด์ : ทริปนี้มีเซ้นส์ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นภูเขาลูกนี้
เห็นว่าวันนั้นถ้ามายด์มีเอ๊ะถอดใจหรือท้อสักนิด การขอแต่งงานจะไม่เกิดขึ้นด้วย ?
มายด์ : ใช่ค่ะ เรามาคุยกันตอนหลังจากขอเสร็จเรียบร้อยแล้วว่า ถ้าเราคนใดคนหนึ่งถอดใจไป ยูยังจะขอเราอยู่ไหม เขาบอกว่าก็คงอีกนานเลยกว่าจะได้ขอ เขาบอกยังไม่มีแพลน ถ้าไม่ใช่ทริปนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทริปไหนที่เป็นโอกาสที่ดีที่แบบขอ เขาพูดกับเราว่าอันนี้คือสิ่งที่ต้องการ เขาต้องการวันที่เราเตรียมตัวน้อยที่สุด ต้องการวันที่เราไม่ได้แต่งหน้า ทำผม ไม่ได้เตรียมอะไรเลย
เล่าบรรยากาศหน่อย ?
มายด์ : ขึ้นไปบนยอดเขาใช้เวลาไม่นานมาก เหมือนตอนระยะเวลาที่เดินขึ้นเขาไม่ให้พักเยอะด้วย เขาบอกว่ายิ่งพักเยอะ มันจะยิ่งเหนื่อย ก็เลยรีบ ๆ ขึ้นไป ไปใช้เวลาอยู่บนนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง คือพักกินข้าวอะไรให้เสร็จเรียบร้อย ใครอยากไปถ่ายรูปตรงไหนก็ไปเลยนะ ณ ตอนนั้นเขาคงหามุมอยู่ เขาบอกว่าไปอันนี้ ไปปีนหินอันนี้กันมันจะได้เห็นแบบสูง ๆ แต่จริง ๆ คือหลบคน เพราะเขาเป็นคนขี้อายมาก เขามาบอกหนูตอนหลังว่า มันขึ้นไปยาก คนน่าจะไม่ค่อยขึ้นไป สรุปขึ้นไปคนแบบเยอะอยู่ดี พี่ช่างภาพบอกว่ามาถ่ายรูปคู่กัน พอถ่ายเสร็จหนูจะเก็บวิว ถ่ายสตอรี่ ได้ยินเขาเรียกว่า ยู แล้วหยิบกล่องแหวนขึ้นมา หนูจำได้แค่นี้หลังจากนั้นจำอะไรไม่ได้
ตอนนั้นความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
มายด์ : โอ้โห..ช็อกมาก ไม่คิดว่ามันจะมาเป็นบนนี้ เพราะหนึ่ง คุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วย เพราะคิดว่าถ้ามันเป็นโมเมนต์สำคัญ ๆ น่าจะมีคุณแม่อยู่ด้วย
แล้วงอแงด้วย เพราะว่าสาเหตุหลัก ๆ ที่ไม่อยากให้เป็นที่นี่เลย เพราะว่าไม่สวย ?
มายด์ : ก็ตอนที่ขอไปแล้ว ยังร้องไห้ไม่จบ เอาแต่พูดว่าเราไม่สวยเลยยู ทำไมต้องขอตอนนี้
นี่คือพูดไปก่อนยังไม่ได้ตอบรับอะไรด้วย ?
มายด์ : ตอนที่เขาขอปุ๊บหนูยังไม่รับแหวน ไม่ตอบรับอะไรทั้งนั้น ยืนร้องไห้ สักพักจะเป็นลม ทรุดไปทีหนึ่ง รู้ว่าเขาขอเราแต่งงานกระโดดดีใจ ลุกเร็วหน้ามืดอีก มันเลยเป็นจังหวะ เขาเลยบอกว่ายูไม่รับแหวนสักที จะดึงมือเรามาแต่เขาดันมาจับมือขวาเราอีก ไม่ใช่ ๆ มันเลยอลหม่านนิดหนึ่งอยู่บนนั้น แต่ก็สนุกดีค่ะ
เราตอบตกลงตรงนั้นเลยไหม หรือหายมึนก่อนแล้วค่อยพูด ?
มายด์ : ตากล้องเขาทักมา ยังไม่ตอบตกลงเลยนะครับ แต่ง ๆ ตอนนั้นตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูกเลย
มันไม่เหมือนในละครเนอะ ?
มายด์ : มันไม่เหมือนเลยค่ะ เราเป็นผู้หญิงก็มีความฝันว่าแบบถ้าเราโดนขอแต่งงานจะประมาณไหน แต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ มันไม่มีเลยภาพนั้น ตอนลงรูป อยากลงรูปตอนที่เขาคุกเข่า แล้วรูปตอนที่คุกเข่าไม่มีหน้าดี ๆ เลย ก็เลยขอเขาขออีกรอบได้ไหมยู เราขอเอาไว้ลงรูปหน่อย เขาบอกไม่ได้คุกเข่าได้แค่รอบเดียว คุกเข่ารอบนี้ลุกขึ้นมันยังจะยากเลย เพราะขาทุกคนตอนนั้นมันล้าไปหมดแล้ว
พอลงมาเจอแม่แฟนเขาพูดอะไรบ้าง ?
มายด์ : คุณแม่เป็นคนเอาแหวนไปให้จากที่ไทย คุณแม่กับทุกคนรออยู่ที่โรงแรม พนักงานโรงแรมเขาก็รอเปิดแชมเปญ มีดอกไม้ เราก็เซอร์ไพรส์รอบสอง ทุกคนรออบอุ่นมาก
เห็นบอกว่ามีประโยคอบอุ่นด้วย ?
มายด์ : ใช่ค่ะ เขาบอกว่าดีใจนะได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ดีใจที่เป็นมายด์ดูแลพาย อยากให้ช่วยดูแลพายต่อไป
จริง ๆ คุณพายขอตั้งแต่เดือนกุมภาแล้ว แต่ทำไมเพิ่งประกาศลง ?
มายด์ : เขาขอเราไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งบอกใคร เพราะว่าเรายังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ยูเลย อยากให้ขอพ่อกับแม่ยูให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อน แล้วค่อยบอก
พอขอคุณพ่อคุณแม่โอเค ได้ลงรูปเลยไหม ?
มายด์ : ยังค่ะ ตอนนั้นประมาณวันศุกร์กลางคืน บอกว่าวันวันจันทร์ขอลงเลยนะ เขาบอกว่าแป๊บหนึ่ง ขอเวลาทำใจก่อน เขาก็ผลัดไปเรื่อย ๆ
ทำใจเรื่องอะไร ?
มายด์ : เขาไม่ค่อยอยู่บนสื่อ เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวนิดหนึ่ง เขารู้สึกว่าถ้าเขาไปอยู่ที่ที่มีคนเห็นเขาเยอะ เขาอาจจะไม่ชิน เลยขอเวลาทำใจก่อน
ตลอด 7 ปีที่คบกันไม่เคยเห็นรูปคู่เลย ?
มายด์ : ค่ะ
เขาขอเอาไว้หรือเราตั้งใจจะไม่ลง ?
มายด์ : เขาขอ คือเรื่องลงรูป ไม่ลงรูป มันเป็นเรื่องที่เราต้องคุยกันอยู่แล้ว บางทีเราก็มีโมเมนต์ วันเกิดเขาหรือเทศกาลสำคัญ ๆ ก็อยากลง ยูขอลงเบิร์ธเดย์ได้ไหม เขาบอกไม่เอา ๆ เดี๋ยวคนเห็นเยอะ คือเราใช้ชีวิตกันปกติมาก ตอนลงไปปุ๊บก็จะมีคนมาคอมเมนต์เห็นไปโผล่ช่องป๊อกกี้บ่อย คือแฟนมายด์เป็นเพื่อนสนิทพี่ป๊อก ก็จะมีคนสังเกต คือเราใช้ชีวิตปกติ แค่ไม่ได้ลงโซเชียลเท่านั้นเอง
พอลงรูปไปแล้วกระแสเป็นยังไงบ้าง ?
มายด์ : แฟนช็อกนิดหนึ่ง เขายังไม่ชิน หนูมีรูปตลอด 7 ปี แต่ก็ไม่ได้โพสต์ที่ไหน ก็เก็บไว้ดูกันเอง
หลายคนคงจะรู้แล้วว่าคุณพายเป็นทายาทตระกูลเบียร์สิงห์ ?
มายด์ : ใช่ค่ะ
พอเปิดตัวก็มีข่าวเลย แต่งงานคบคนนี้เพราะหวังเงินหรือเปล่า ?
มายด์ : ต้องบอกว่า 7 ปีที่ผ่านมา มันพิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างของมายด์กับเขาเยอะมาก เขารู้ว่าเราเข้ามา เพราะเรารักเขาจริง ๆ เขาอยู่กับเรา เพราะเขารักเราจริง ๆ เพราะฉะนั้นมันไม่มีข้อกังขาอะไรแล้ว แล้วอีกอย่างที่บ้านแฟนน่ารักทุกคน ต่อให้หนูเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่บ้านก็ยังน่ารักกับหนูทุกคน
อยากบอกอะไรกับคอมเมนต์ทั้งหลายเหล่านั้นไหม ?
มายด์ : จริง ๆ ก็ไม่แปลกถ้าหลายๆ คนจะคิดแบบนั้น ให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะอะไรที่เป็นของจริงหรือว่าอะไรที่เป็นความรู้สึกจริง ๆ ทุกคนจะสัมผัสและเห็นได้เอง
แหวนกี่กะรัต ?
มายด์ : หนูไม่รู้ว่ากี่กระรัต หนูไม่ได้โฟกัสแหวนว่าจะต้องเป็นกี่กะรัต แต่คุณค่าทางใจและเป็นโมเมนต์ที่เราได้รับตอนที่เขาใส่ให้เรา มันประเมินค่าไม่ได้
แหวนมันมีประวัติและมีคุณค่ามาก ๆ ของบ้านนี้ ?
มายด์ : คือมันเป็นแหวนของฝั่งพ่อแฟน ซึ่งเป็นของคุณย่าที่ให้คุณพ่อแฟนมาหมั้นกับคุณแม่ แล้วแหวนหมั้นวงนี้เป็นแหวนหมั้นของหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ซึ่งท่านไม่ได้มีลูกก็เลยตกทอดมาถึงคุณย่า คุณย่าเลยให้คุณพ่อกับคุณแม่แต่งงานกัน คุณย่าแฟนมายด์เขาไปแต่งงานกับคนสกอตแลนด์
ย้อนเวลาหน่อยไปเริ่มต้นรู้จักกันได้ยังไง ?
มายด์ : น้องสาวพี่มาร์กี้จับแมตช์กันให้ เราเล่นละครเรื่องน้องใหม่ด้วยกัน ตอนนั้นมายด์โสด เหงา ตอนนั้นแฟนเก่าเป็นเพื่อนสนิทกับแฟนปัจจุบันของหนู ก็ชวนไปกินข้าวก็เจอเลย มีโอกาสได้คุย ได้แลกเปลี่ยนนู้นนี่นั่นกัน ก็ทำให้รู้ว่าเขาชอบฟังเพลงเหมือนกัน ดูคอนเสิร์ต ไลฟ์สไตล์ตรงกัน ตอนแรกไม่รู้จะคุยอะไรกัน มีคนใดคนหนึ่งเปิดเรื่องเพลงมาทีนี้เลยคุยได้ยาว
รู้มาว่าคุณพายมีสเปกอีกอย่าง คุณมายด์ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาชอบ ?
มายด์ : ก่อนที่จะมาเจอ เราก็ต้องเห็นก่อนว่าเขาหน้าตาประมาณไหน เขาเล่าให้เราฟังว่า เพื่อนเขาเอาไอจีเรามาเปิดให้เขาดู เขาตกใจมาก คนนี้เป็นใครทำไมยอดฟอลเยอะ เขาไม่ได้ดูละคร ไม่ได้ดูทีวีอะไรเลย คนนี้ไม่น่าใช่สไตล์เขา เพราะยังดูอินโนเซนต์ น่าจะไม่ใช่สไตล์เขา แต่ไปเจอก็ได้
แล้วเขาสไตล์เราไหม ?
มายด์ : สไตล์เรา เราชอบแบบหนุ่มลูกครึ่ง ๆ มีลักยิ้ม ตาโต ๆ
ตอนแรกที่คุยกัน เพื่อนบอกว่าชื่อพาย แต่ไม่ได้บอกว่าคือตระกูลไหน ?
มายด์ : เขาบอกว่าชื่อพาย เป็นเพื่อนแฟนเขา ลองไปเจอคนนี้น่าจะเข้ากับมึงได้
แล้วไปเริ่มเอ๊ะตอนไหน น่าจะไม่ธรรมดาแล้ว ?
มายด์ : หลังจากที่กินข้าวเสร็จมื้อนั้น บ้านเขาอยู่ใกล้ ๆ ร้านอาหาร ก็เลยบอกว่าไปชิลกันต่อที่บ้านมีเครื่องดนตรีเยอะมาก ก็เลยโอเคไปกันทั้งหมด เปิดตู้เย็นทำไมน้ำสิงห์เรียง เบียร์เรียงไม่มียี่ห้ออื่นเลย มารีน่าเลยบอกว่าเขาเป็นลูกหลานบ้านนั้น
ตอนนั้นที่รู้ตกใจไหม ?
มายด์ : ก็ตกใจนิดหนึ่ง ถึงว่าเบียร์เต็มตู้เลย
เราชอบอะไรในตัวเขา ?
มายด์ : เขาเป็นคนดีมาก ทุกคนจะพูด โดยเฉพาะน้องสาวหนูเขาจะรู้ว่าหนูนิสัยยังไง เขาบอกว่าพี่พายเขาทำเวรทำกรรมอะไรถึงได้มาเจอคนอย่างมึง คือหนูไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย กุลสตรีคือศูนย์ ทุกคนที่รู้จักหนูจะรู้ว่าหนูเป็นยังไง เขาเป็นผู้ชายที่สุภาพ เรียบร้อย น่ารัก คำหยาบก็ไม่พูด รักสัตว์ อ่อนโยน
คุยกันนานไหมกว่าจะสรุปว่าเราสองคนอยู่ในสถานะอะไร ?
มายด์ : ไม่เคยระบุสถานะกันเลย คือหนูเวลามีแฟนเราจะไม่เคยบอกแบบเธอเราเป็นแฟนกันนะ หรือว่าเธอเราเป็นอะไรกัน เหมือนคบ ๆ คุยกันไปเรื่อย ๆ แล้วเหมือนรู้กันไปเองว่านี่คือแฟน เรื่องวันครบรอบไม่มีเลย ไม่ว่าจะเป็นแฟนคนไหน แต่จะรู้ว่าเดือนนี้ วันเดือนที่เราได้แบบกินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันมื้อแรก ครั้งแรก
7 ปีทะเลาะกันอยู่เรื่องเดียว ?
มายด์ : เรื่องของกิน ในความสัมพันธ์เราเรื่องกินเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยที่สุด มันมีครั้งหนึ่งที่เขาโกรธเราแบบจริงจัง โดยที่เรารู้สึกว่ามันเว่อร์เกินไปหน่อย คือตอนนั้นไปเดตกันที่อยุธยา เขาพาเราไปเดตที่ค่ายบางระจัน เขาเป็นคนชอบอะไรที่เป็นศิลปะแบบไทย ๆ ศรัทธาพระเจ้าตาก ได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร สั่งกุ้งเผาคนละตัว เราไม่รู้ว่าเขาชอบเก็บของอร่อยไว้กินทีหลัง แล้วเหมือนเขาหันไปถ่ายรูป เราก็ตักมันกุ้งเขามากิน เขาหันมามันกุ้งเขาหาย เขาถามเรากินมันกุ้งไปเหรอ ก็บอกว่าใช่ ก็ทะเลาะกันหนักมาก เลยบอกสั่งให้ใหม่ไหม เดี๋ยวเรากินเนื้อก็ได้ แล้วยูกินมันกุ้ง เขาบอกไม่ เราจะกินตัวนี้ เล็งไว้แล้ว
ไปมูที่ไหนมาถึงได้ผู้ ?
มายด์ : มูได้ผู้เพื่อนเป็นคนจัดให้ แต่มูโดนขอแต่งงาน หนูว่าหนูไปขอที่ฮ่องกงมาที่วัดด้ายแดง หนูระบุเรื่องเลยว่าขอให้เราโดนขอแต่งงานปีนี้ ไปขอมกราคม กุมภาพันธ์ขอเลย
หมอดูทักด้วย ?
มายด์ : ใช่ค่ะ เราไปดูหลาย ๆ หมอเหมือนกัน ทักเหมือนกันหมดเลย 3 หมอ ปีหน้าไม่เกินมีนาคมจะมีข่าวดี เราเลยเพิ่มความแม่นยำด้วยการไปขอที่ฮ่องกง