เอส กันตพงศ์ เปิดใจวินาทีหมดสติหยุดหายใจกว่า 40 นาที ค่ารักษากว่า 5 ล้าน

          เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ! เอส กันตพงศ์ เปิดใจวินาทีหมดสติหยุดหายใจกว่า 40 นาที หมดค่ารักษากว่า 5 ล้าน เผยคิดอยากบวชตลอดชีวิต 
เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

          เอส กันตพงศ์ พระเอกและพิธีกรมากความสามารถ ที่วันนี้จะมาเปิดใจหลังหมดสติหยุดหายใจกว่า 40 นาที ความทรงจำเหลือ 20% จำภรรยาและลูกไม่ได้ !! เผยวิธีฟื้นความทรงจำเป็นเด็กแรกเกิดในร่างผู้ใหญ่และติดเครื่องกระตุ้นหัวใจตลอดเวลา พร้อมเผยเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หลับไป 8 วัน แต่มีคนเรียกให้กลับ ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง one31 (3 พฤษภาคม 2567) ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
 
เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

ตอนนี้มีเรื่องอะไรที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ ?

          เอส : หลายเรื่องที่ทุกคนเป็นห่วงหลัก ๆ คือสุขภาพประจำวันจะเป็นยังไง ร่างกายไม่มีปัญหาเลย ถ้าพูดเรื่องสมอง ความจำในอดีตที่ตอนแรกทุกคนเป็นห่วง แต่สุดท้ายเข้าใจว่ามันไม่มีความหมายเลยที่อยากจะไปรื้อความจำในอดีตทำไม ถ้าสมองของผมตอนนี้โอเคแล้ว ตอนนี้การทำงานของสมองในปัจจุบันเกือบ 100% แล้ว

ณ ตอนนี้อะไรที่จำไม่ได้และอะไรที่จำได้บ้างในเรื่องของอดีต ?

          เอส : อะไรที่จำไม่ได้ในเรื่องของอดีตซึ่งควรเป็นเรื่องที่จำได้ รหัสมือถือ บัญชีธนาคาร รหัสหุ้นต่าง ๆ จำไม่ได้เลย ทุกวันนี้ก็ยังจำไม่ได้

ถ้าเป็นเรื่องตัวเลขจะจำยาก ?

          เอส : ผมเป็นคนเก่งเลข ชอบคณิตศาสตร์ คือผมเป็นคนไม่โลภ ไม่ได้ต้องการมีเงิน อาจจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นความฝันอย่างอื่น การช่วยเหลือคน การทำเพื่อสังคม อันนี้จำได้ แต่ว่าเรื่องของตัวเอง เรื่องของเงินตัวเอง จำไม่ได้
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

แก้ไขยังไงพวกรหัส ?

          เอส : แก้ไม่ได้เลยครับ ผมพยายามหลายวิธี มือถือก็ไปคุยกับบริษัท เขาบอกว่าสามารถเปิดให้ได้แต่เขาต้องลบข้อมูลทุกอย่างทิ้งหมดเลย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์ในการที่จะไปทำ

รหัสหุ้นทำยังไง ?

          เอส : มีคุณแม่และภรรยา แต่ไม่มีใครรู้ความลับของผมเลย อันนี้ยอมรับว่าเป็นข้อเสียของตัวผม ก็ถือว่าทำบุญไปก็แล้วกัน ตอนนี้ก็มีหลายบริษัทติดต่อมา เราไม่รู้เลยว่าเรามีกี่บริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ งั้นก็ถือว่าบริจาคไป

รู้ตัวเลขที่สูญเสียไปกับหุ้นเท่าไหร่ ?

          เอส : ไม่รู้ครับ มีรู้แค่บางส่วนที่ติดต่อมา แต่ก็มีเพื่อน ผู้ใหญ่ที่สนิท บอกว่าเอสเคยถืออันนี้เท่านี้ มีพกเงินสดเท่านี้ ผมเป็นคนชอบใช้เงินสด เป็นคนไม่ชอบใช้บัญชีธนาคาร เพราะเงินสดทำให้เราไม่ประมาทและประหยัด เพราะเราจะรู้ว่าใช้ไปเท่าไหร่ แต่ประเด็นคือผมเก็บไว้เท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้อีก อันนี้ก็เป็นข้อเสียของผมจริง ๆ

หยุดหายใจไปนานเท่าไหร่ ?

          เอส : 40 นาที คุณหมอท่านแรกช่วยปั๊มคนเดียว 20 นาที ไปส่งโรงพยาบาลช่วยปั๊มอีก 20 นาที ก็ประมาณ 40 นาที
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

วันที่หลับไป 40 นาที ตอนฟื้นขึ้นมาอาจจะยังจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนได้บอกไหมว่าวันที่เกิดเหตุเกิดจากอะไร ?

          เอส : ยังไม่มีใครทราบว่าเป็นอะไรยังไง เกิดขึ้นได้ยังไง คุณหมอก็ยังสันนิษฐานไม่ได้

ขอถามคุณแม่ วันที่เกิดเหตุคุณหมอได้อธิบายไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงฟุบไปเลย ?

          คุณแม่ : ตัวแม่คิดเองว่าเขางานเยอะมากช่วงนั้น พักผ่อนน้อย ก่อนหน้านี้เป็นโควิด อาจจะเป็นลองโควิดด้วย ผสมกัน คิดว่าเป็นแบบนั้น

จากที่งานคุณหมอทำอะไรบ้าง ปั๊มหัวใจ เอาขึ้นรถ แล้วไปที่โรงพยาบาล ?

          เอส : ใช่ครับ ถึงที่โรงพยาบาลปั๊มอีก 20 นาที รวมเป็น 40 นาที

การปั๊มหัวใจมีผลกระทบต่าง ๆ ระบบข้างในพัง ?

          เอส : บางคนบอกเหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่ มันพังทั้งหมด กล้ามที่เคยมีหายหมด ทุกอย่างหายหมด พังหมด คุณแม่บอกว่ามีฟอกไต แต่ผมจำไม่ได้เลย
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

ตอนที่อยู่โรงพยาบาลที่หลับไป 8 คืน ฟื้นขึ้นมาก็ยังจำอะไรไม่ได้ ?

          เอส :
ฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ ต้องอีกสักเดือนกว่า 2 เดือนถึงจะคุยกับใครรู้เรื่อง นอกนั้นก็คุยไม่รู้เรื่อง คุยแต่เรื่องจะไปทำงานที่ญาติ ๆ เล่าให้ฟัง แล้วก็พูดแต่ภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยู่กับภรรยาแล้วพูดแต่ภาษาอังกฤษกันเป็นหลัก ฟื้นมาพูดแต่ภาษาอังกฤษ

ตอนแรกคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าจำอะไรได้หรือจำอะไรไม่ได้ เพราะยังใส่ท่ออยู่ ยังไม่ได้พูดเต็มที่ แต่พอเอาท่อออกแล้ว ทางบ้านถึงจะรู้ว่ายังจำคุณพ่อ คุณแม่ น้อง ไม่ได้เลย ?

          เอส : แรก ๆ ที่คุณแม่บอกคือสักพัก แรก ๆ อาจจะยังจำใครไม่ได้เลย แต่แป๊บเดียวจำคนใกล้ชิดได้มากกว่า คือคุณพ่อ คุณแม่ ญาติ ๆ หลังจากฟื้นมาจำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่ถึงจะเริ่มมาจำได้ว่านี่คือคนใกล้ตัว จำคนใกล้ตัวได้ก่อน

พอเขาถอดท่อออก เราเห็นใครไม่รู้ยืนอยู่ แล้วเราไม่รู้ว่าใคร ?

          เอส : อันนี้ผมจำไม่ได้เลยจริง ๆ แม้กระทั่งเหตุการณ์โรงพยาบาลที่ 1 ที่ 2 ทุกวันนี้ผมมาจำได้แค่โรงพยาบาลที่ 2 ที่เหลือคือว่างเปล่าหมดเลย ก็คือให้ญาติ ๆ เล่าให้ฟัง ให้เริ่มดูคลิปว่าเกิดอะไรขึ้น

คุณแม่ ตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาหลังจากที่หลับไป ครั้งแรกที่เขาพูดได้ เขาจำคุณแม่ไม่ได้เลย หรือว่าต้องบอกเขายังไง ?

          คุณแม่ : เกือบเดือนถึงจะจำคนในครอบครัวได้ หลังจากที่ฟื้นก็มี 2 อาทิตย์
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

ระหว่างที่เขาจำเราไม่ได้ เขามองเรายังไง ?

          คุณแม่ : ในความคิดของเขา เราบอกเป็นแม่ เวลาเรียกเขาก็เรียก แม่ครับ ๆ

          เอส : ขอบคุณที่ถาม เพราะอันนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่ผมเพิ่งรู้เหมือนกัน อยากจะรู้ว่าตอนที่มอง ตอนนั้นเอสพูดได้หรือยังครับ

          คุณแม่ : ยังพูดไม่ได้ ตอนลืมตายังพูดไม่ได้ ถ้าพูดก็พูดไม่เป็นคำ เหมือนเด็กหัดพูด

          เอส : เพราะฉะนั้นอาจจะจำได้ แต่อาจจะพูดไม่ได้ก็ได้ว่านี่คือใคร

ในความเป็นแม่ที่เห็นว่าลูกจำเราไม่ได้ ณ ตอนนั้น มันแย่แค่ไหน ?

          คุณแม่ : คือเรื่องแย่มันแย่ตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว แต่เราเข้าใจว่าคนที่ป่วยแล้วมีอาการแบบนี้ต้องใช้เวลา ต้องให้เวลาเขา เราเตรียมใจอยู่แล้วว่าจำได้หรือไม่ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวหลังจากนี้เราค่อย ๆ ฟื้นฟูเขา

คุณหมอได้บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเขาฟื้นมาเขาอาจจะจำใครไม่ได้ ?

          คุณแม่ : ใช่ คุณหมอบอกเลย 50:50

          เอส : เห็นคุณแม่บอกเป็นผู้ป่วยติดเตียงเลยด้วยซ้ำ เป็นผู้พิการเลย คุณหมอบอกว่าฟื้นมาก็โชคดีแล้ว แต่อาจจะโชคดีไม่สุดก็คือกลายเป็นผู้พิการ ที่คุณหมอสันนิษฐาน

ช่วงที่เริ่มจะจำได้ คุณแม่ก็ต้องคอยเล่าและบอกว่าคนนี้คือใคร ทำอะไร เอารูปมาให้ดู อธิบายเขา ?

          คุณแม่ : ใช่ค่ะ เอารูปเก่า ๆ มาให้เขาดู คลิปที่เขาเคยทำงาน ตอนนั้นเขาก็ยังจำไม่ได้
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

ตอนฟื้นมาแล้วเจอภรรยา จำได้เลยไหม ?

          เอส :
เห็นที่คุณแม่เล่าให้ฟังก็บอกว่าสักพักเหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจ เพราะตอนนั้นผมพูดไม่ได้ ก็เลยไม่แน่ใจว่าจำได้เลยตั้งแต่แรกหรือเปล่า แต่ที่ถาม ๆ ก็คือจะจำได้แค่นี้ คุณพ่อ คุณแม่ ภรรยา ลูกสาว ครอบครัว คนใกล้ตัว

การรักษาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าที่จะกลับมาพูดได้แบบนี้ เหมือนสอนเด็กเพิ่งเกิดใหม่ ?

          เอส : อาบน้ำ แปรงฟัน ทานอาหาร สอนเหมือนเด็กเพิ่งเกิดจริง ๆ ถ้าปวดปัสสาวะเข้าห้องน้ำทำแบบนี้นะ ตอนนั้นแอบรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน เพราะผมจำได้ว่าผมเป็นผู้ใหญ่ แล้วญาติ ๆ ผมเป็นผู้หญิง ผมกำลังจะอาบน้ำทำไมเข้ามาอย่างนี้ พอออกจากโรงพยาบาล ญาติ ๆ ให้ดูคลิปวิดีโอ ขอบคุณมากที่เข้าไปสอน ควรแล้วแหละ เพราะเหมือนเด็กจริง ๆ ไม่ใช่ว่าสอนแล้วจำได้เลย เหมือนเด็ก วันนี้สอน พรุ่งนี้ก็ต้องสอน วันมะรืนสอน สอนไปเรื่อย ๆ ก็ยังจำไม่ได้

ต้องฝึกกี่เดือนเราถึงจะกลับมาจำทุกอย่างที่ต้องทำในแต่ละวันได้ ?

          เอส : เอาจริง ๆ น่าจะ 8-9 เดือน อยู่โรงพยาบาลก็ใช่ว่าจะปกติ แต่เหตุผลที่พร้อมมาออกรายการแล้ว พร้อมพูดคุยกับพี่ ๆ ทุกคนแล้ว เพราะผมเห็นตัวเองจริง ๆ ว่าไม่เหมือนเดิม โชคดีเรายังมีคลิปแล้วได้เทียบตัวเอง อดีตของตัวเองกับปัจจุบัน ปัจจุบันทำไมพูดจาแบบนี้ ทำไมอารมณ์เป็นแบบนี้ อดีตไม่เป็นแบบนี้

เห็นบอกว่าดื้อด้วย ?

          เอส : ใช่ เหมือนเด็กเลยครับ พอมานั่งเทียบน่าจะสักประมาณ 6-7 เดือน เกือบ 8 เดือน ที่รู้สึกว่าใกล้เคียงเดิม

เห็นว่าเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิงก็ผลัดเปลี่ยนไปเยี่ยม แล้วก็สายมูก็เยอะ ?

          เอส : เยอะเลยครับ ทั้งเพื่อนในวงการบันเทิง ผู้ใหญ่ ครอบครัว แฟนคลับ ทุกคน พอออกจากโรงพยาบาลมาเจอ เขาก็จะเล่าให้ฟังว่าเขาไปทำอะไรในความเชื่อของเขา อย่างพี่เอ ศุภชัย ก็ไปทำให้ รู้สึกพี่เอไปทำให้ที่ฮ่องกงเลย ขอบคุณทุกคนมาก ๆ แต่ละคนก็จะมีความเชื่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

แล้วเจอพี่เอจำได้เลยไหม ?

          เอส : ผมจำไม่ได้ว่าผมเจอพี่เอแล้วจำได้เลยไหม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลส่วนใหญ่จำแทบจะไม่ได้เลย จำได้บางอัน จำได้แค่ตอนเล่นเกมกับคุณหมอ

กว่าจะจำอะไรได้เยอะ ๆ แบบนี้ไม่ใช่แค่คุยกัน ต้องมีกิจกรรม ต้องทำอะไรบ้าง ?

          เอส : คุณหมอมาก็จะเล่นเกม โชคดีอย่างหนึ่งคือที่บ้านผมเองเป็นคนชอบหาเกมอะไรที่ฝึกสมองเยอะมากจะให้ลูกเล่น เป็นเกมของเยอรมนีและเป็นเกมของอเมริกา แต่ในไทยก็มีเอาเข้ามาเยอะแล้ว ตอนแรกผมไม่รู้ว่าคุณหมอให้เล่นทำไม จนผมต้องถามคุณหมอให้ผมเล่นทำไม ตอนแรกคิดว่าแค่ให้ผมแก้เบื่อหรือเปล่า แต่คุณหมอบอกว่าเปล่า แต่มันฝึกสมองได้จริง ๆ เรากำลังหาวิธีให้สมองของคุณได้ทำงานอย่างดีขึ้น เลยเล่นแบบนี้ทุกวัน คุณหมอจะเข้ามาตอนเช้า จะเล่นแบบนี้ประมาณชั่วโมงนึง ตอนช่วงเย็นก็จะไปออกกำลังกาย ไปวิ่ง วิ่งผ่านวอร์ดไป-มา

ความทรงจำเกี่ยวกับภรรยาและลูก ตอนนี้กลับมาเกือบร้อยหรือยัง ?

          เอส : ถ้าเรื่องอดีตยังกลับมาไม่เยอะเท่าไหร่

จำโมเมนต์ความรักได้ในความรู้สึกว่าคนนี้คือภรรรยา แล้วเรารักเขามาก ?

          เอส : อันนี้จำได้ ความรู้สึกไม่ใช่แค่กับภรรยา กับทุกคน ส่วนใหญ่จะจำได้ ความรู้สึกดี ๆ ใครที่เคยทำผมโกรธจำไม่ได้เลย อันนี้ผมรู้สึกดีนะ เพื่อนชอบมาเล่าว่าเอสจำได้ไหมว่าคนนั้นทำแบบนี้ไว้ คนนี้ทำแบบนี้ ผมจำไม่ได้ ดีเนอะ ถือว่าอโหสิ ดีที่จำไม่ได้ แต่ความดีที่คนอื่นทำให้ กับความดีที่ไปทำช่วยคนอื่น อันนี้จำได้ แล้วจำได้ส่วนใหญ่จะถามคุณแม่ก่อนว่าเอสเคยจัดกิจกรรมอันนี้จริงหรือเปล่า หรือเอสฝัน

ลูกสาวช่วยพ่อรื้อฟื้นความทรงจำยังไงบ้างคะ ?

          เอส : ผมก็เพิ่งเห็นรูปเห็นคลิป ญาติ ๆ ไม่มีใครกล้าเอาคลิปให้ดูเลยตอนผมอยู่โรงพยาบาล กลัวผมเครียด แต่พอออกจากโรงพยาบาลเขาเอาให้ดู ลูกวิ่งเข้ามากอดตอนผมนอนอยู่ มาหอมเรา ทำไมปะป๊าไม่กลับบ้าน รู้สึกสงสารเขามากจริง ๆ
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

เอสต้องใส่เครื่องกระตุกหัวใจ ?

          เอส : ใช่ ผ่าแล้วก็ใส่ อันนี้เป็นเหตุผลที่อยู่โรงพยาบาลนาน เพราะความจริงสัก 2 เดือน ถ้าตัดสินใจยอมฝังก็ออกมาได้แล้ว

เห็นว่าตอนแรกยังไงก็ไม่ยอม  ?

          เอส : ตอนนั้นเริ่มกลับมาดีขึ้น ๆ เลยเข้าใจว่าถ้าฝังไว้ แล้วผมเป็นคนชอบเล่นกล้าม กล้ามอก แล้วชอบฝึกมวย ถ้าฝังไว้กล้ามอกไม่สามารถเล่นได้หนักแน่ ๆ เพราะมันฝังตรงหัวใจ ก็เลยไม่ยอม ทุกคนเลยต้องเข้ามาเกลี้ยกล่อมหมด คุณแม่ ภรรยา ต้องโทร. มาจากเยอรมนี บินจากเยอรมนีมาหาถึงไทย ทุกคนพยายามเกลี้ยกล่อม ผมก็ยังไม่ยอม แต่สุดท้ายยอมฝังไป

ยอมเพราะว่า ?

          เอส : ตอนนั้นนั่งสมาธิ อีกอย่างหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมคือตอนนั้นนั่งสมาธิ ตอนเช้าตื่นนอนกับตอนกลางคืน เราก็มารู้สึกได้ว่า ตอนมานั่งวิปัสสนาของเราไป สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับผมมันเป็นอดีต สิ่งที่เราเคยชอบไม่มีใครสามารถเปลี่ยนได้ เกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับมันให้ได้ว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ใช่จะมาเสียใจจัง อยากมีกล้ามอกแบบเมื่อก่อน ก็ยอมฝังดีกว่า ปัจจุบันกับอนาคตมันจะได้ดีขึ้น หลังจากนั่งสมาธิเสร็จก็ออกมาบอกคุณแม่เลย แม่ครับ เอสยอมฝังแล้ว

มันจำเป็นขนาดไหนที่จะต้องฝัง มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเรา ?

          เอส : อย่างที่บอกว่าคุณหมอเขายังไม่ทราบแน่ชัดว่าอาการของผมมันเกิดจากอะไร เขาเลยคิดว่าเครื่องนี้สามารถช่วยได้ ถ้าหัวใจของผมหยุดการทำงาน ถ้าหัวใจผมหยุดเต้นปุ๊บ เครื่องนี้จะทำงานอัตโนมัติเลย อันนี้ฝังตลอดชีวิต แต่ทุก 6 ปีต้องเปลี่ยน

ตอนนี้ยังฟอกไตอยู่ไหม ?

          เอส : ไม่แล้วครับ แต่ยังต้องไปเช็กเรื่อย ๆ แรก ๆ ทุกอาทิตย์ 2 อาทิตย์ครั้ง เลื่อนเป็นเดือน ตอนนี้เลื่อนเป็น 3 เดือนครั้ง

          คุณแม่ : อันนี้เขาฟอกแบบฉุกเฉิน พอร่างกายดีแล้วก็หยุดฟอก
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

อยู่ทั้งหมด 3 โรงพยาบาล ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 เดือน ค่าใช้จ่ายมหาศาล ?

          เอส : มหาศาล หลายล้านมาก แค่เครื่องอันนี้อันเดียวก็ล้านกว่าแล้ว ไม่รวมพวกค่ารักษา ทั้งหมดก็หลายล้าน น่าจะ 5-6 ล้าน

          คุณแม่ : ค่าเครื่องอย่างเดียว 9 แสน

แต่ก็มีผู้ใหญ่เมตตาด้วย  ?

          เอส : ก็มีผู้ใหญ่ช่วยด้วย เป็นผู้ใหญ่ทางช่อง แต่ที่เราออกกันเองก็เยอะมาก

ตอนนี้พอดีขึ้นอยากจะบวช ?

          เอส : มันเป็นความชอบของผมอยู่แล้ว ตั้งแต่เด็กผมอยากปฏิบัติธรรมเป็นหลักมากกว่า พอออกมาจากโรงพยาบาล เรามารู้ว่าญาติคนนี้บนไว้แบบนี้ ญาติคนนี้ก็บนไว้แบบนี้ ผมจะแก้บนให้เลย แต่เขาบอกเดี๋ยวก่อน อย่างบนเรื่องบวช กลัวผมบวชไม่สึก ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ไม่เชื่อเรื่องความเชื่อ เชื่อเฉพาะเรื่องที่พระพุทธองค์สอนเท่านั้น อะไรที่พระพุทธองค์ไม่สอนผมจะไม่เชื่อ แต่ไม่ได้บอกว่าคนที่ไม่เชื่อผิดนะ อันนี้เป็นความเชื่อของผม ผมศึกษาว่าพระองค์สอนอะไร

ถ้าจะบวชจริง ๆ ภรรยาจะว่ายังไง  ?

          เอส : นี่เป็นความลับที่ไม่เคยคุยกัน
 

ภรรยาต้องเครียด ?

          เอส : ไม่เครียด เคยลองคุยกันแล้วตั้งแต่เมื่อก่อนเลย เขาบอกมันคือความฝันของยู อะไรที่เป็นความฝันของยู เขาเห็นด้วยหมดเลย

คนรอบข้างมูแน่นเลย คุณแม่ไปบนอะไร ?

          คุณแม่ : หลวงพ่อโสธร ถ้าเขาฟื้นกลับมาแล้วแข็งแรงดีก็จะให้บวช 15 วัน

เรื่องมีคนมาเรียกให้ฟื้น ?

          เอส : อันนี้ต้องบอกว่าผมเชื่อว่าแค่ฝัน ผมเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องจริง ก็คือผู้ชาย ถ้าให้ดูด้วยตานะ แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ใช่ร่างกายหรือคนที่เราเคยเห็นบนโลกนี้ อธิบายไม่ได้จริง ๆ

เขาแต่งตัวยังไง ?

          เอส : ก็ชุดสีดำทั้งหมด ผมพยายามวิ่ง ผมแฮปปี้อยู่ สถานที่ผมอธิบายไม่ได้ว่ามันคือที่ไหนเหมือนกัน แต่เขามาตามว่ากลับเถอะ ผมก็วิ่ง ๆ แต่สุดท้ายเขาก็มาดึง แต่ผมเชื่อว่าฝันนะ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นอะไรยังไง ผมจำได้แต่อันนี้อันเดียว

มีอะไรอยากจะพูดกับแฟน ๆ บ้าง ?

          เอส : ผมรู้สึกว่าแค่คำขอบคุณไม่พอ ไม่ใช่แค่จากแฟนคลับ จากผู้ใหญ่ทุกท่าน คุณหมอวิศรุตที่มาช่วยผม แล้วก็ทุกคนเลย ผมรู้สึกว่าถ้าอยากจะพูดกับพวกเขาก็คงจะพูดเหมือนเดิมคือ ขอบคุณไม่พอ ขอบอกว่าสิ่งที่ผมเคยตั้งใจไว้ในชีวิตผม ความฝันของผม ผมจะทำให้อย่างเต็มที่ เพราะผมเชื่อว่าความฝันนี้จะช่วยคนอื่นได้เหมือนกัน ก็อยากจะบอกว่าจะทำอย่างเต็มที่ ขอบคุณมาก ๆ ในความรักความเมตตานะครับ

ตอนนี้พร้อมที่จะทำงานหรือยัง ?

          เอส : ผมคิดว่าพร้อมแล้ว ถ้าเป็นบทบู๊ซึ่งชอบมาก ๆ อาจจะต้องเปลี่ยนหน่อย เปลี่ยนบทเป็นอย่างอื่นก่อน

พิธีกรได้เลย ?

          เอส : ถ้าพิธีกร สิ่งที่ผมชอบ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เอาจริง ๆ คือความเครียดมันเยอะ เพราะมันต้องศึกษาข้อมูลเยอะ แต่ถ้าพิธีกรเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นเอนเตอร์เทนอันนี้ได้เลย
 

เอส กันตพงศ์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอส กันตพงศ์ เปิดใจวินาทีหมดสติหยุดหายใจกว่า 40 นาที ค่ารักษากว่า 5 ล้าน อัปเดตล่าสุด 1 มิถุนายน 2567 เวลา 17:02:27 46,437 อ่าน
TOP
x close