กาย - ฮารุ สุประกอบ พ่อแม่สายลุย วันนี้หอบลูก ๆ สามยอดกุมาร น้องคิริน-น้องไนร่า-น้องเอเดน มาเปิดใจหลังย้ายลูก ๆ ไปโรงเรียนใหม่ ค่าเทอมคนละล้าน !! เปิดความแสบขั้นสุดของสามพี่น้อง หลังได้กระทบไหล่นักฟุตบอลระดับโลก เดวิด เบ็คแฮม พร้อมนาทีระทึก น้องคิริน โดนฟุตบอลเตะอัดร่วงกลางสนาม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 (21 พฤษภาคม 2567) ที่มี เบนซ์ พรชิตา, บูม สุภาพร และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เป็นบ้านที่เลี้ยงลูกเป็นธรรมชาติ ตอนนี้แต่ละคนอายุเท่าไหร่ ?
คิริน : อายุ 9 ขวบครับ
ไนร่า : อายุ 8 ขวบค่ะ
เอเดน : อายุ 7 ขวบครับ
ติดกันเลย แม่ได้นอนตอนไหน ?
ฮารุ : ช่วงแรก ๆ ไม่ค่อยได้นอน ได้นอนช่วงนี้แหละ ไม่ได้พักเลยค่ะ
กาย : คนจะเข้าใจว่าฮารุท้องลูกคนแรก 3 ปี (หัวเราะ) เจอหน้าทีก็ท้องอีกแล้ว เหมือนไม่คลอดสักที แต่จริง ๆ คลอดแล้วท้องใหม่
ตั้งใจ ?
กาย : ตั้งใจจะมีลูกเยอะ ๆ แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจให้มากันไวขนาดนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีศักยภาพเพียงพอทำให้มันต่อเนื่อง (หัวเราะ)
เพิ่งตัดสินใจย้ายน้อง ๆ ออกจากโรงเรียน ?
กาย : ย้ายออกจากโรงเรียนเหมือนไม่เรียนอีกต่อไป (หัวเราะ)
ฮารุ : ไม่ได้ดราม่าอะไรเลยทั้งสิ้น แค่ตัดสินใจว่าเราอยากย้ายโรงเรียนให้เหมาะกับพลังที่มันล้นของเขา ถ้าเปรียบเป็นปลา เหมือนปลาพลังเยอะมาก อยากให้เขามีพื้นที่โรงเรียนที่เหมาะกับพลังเขา มีกิจกรรมหลากหลายมากมาย เลยตัดสินใจย้าย
อะไรส่งสัญญาณว่าต้องย้ายน้อง ?
ฮารุ : เขาอยากลองหลาย ๆ อย่าง เขาอยากทำโน่นทำนี่ทำนั่น จริง ๆ ส่วนนึงเราอยู่บ้าน พ่อแม่ก็ต้องพาไปทำ แต่อีก 8 ชม. เขาต้องอยู่โรงเรียน ก็ต้องเอื้อกับความต้องการเขา
เป็นเรื่องใหญ่ ปรึกษาคุณพ่อมั้ยจะมีการย้าย ?
กาย : ก่อนปรึกษาพ่อ ต้องปรึกษาลูกก่อน เพราะมันต้องเป็นการตัดสินใจของเขา ว่าเขาแฮปปี้มั้ยที่จะย้ายโรงเรียน เราพาเขาไปโรงเรียนใหม่ ไปดูว่าอยู่ตรงนี้นะ หน้าตาโรงเรียนเป็นแบบนี้ มีกิจกรรมแบบนี้ ไปเจอคุณครูที่รับเข้าว่าเขาชอบมั้ย มีกิจกรรมอะไรบ้าง ให้เขาตัดสินใจเองว่าจะมาหรือไม่มา
ฮารุ : เราห่วง เพราะวัยนี้เขาจะติดเพื่อน กลัวว่าพ่อแม่อยากย้าย แต่ลูกไม่อยากย้าย แล้วจะกลายเป็นบังคับจิตใจเขา เลยต้องถามเขาเป็นหลักว่าโอเคหรือเปล่า
โอเคมั้ย ?
คิริน : โอเคครับ กับเพื่อนเก่าเรามีไลน์เพื่อน
คุยอะไรกับเพื่อน ?
ไนร่า : เล่นเกม เราชวนเพื่อน
กาย : โรงเรียนใหม่เป็นแบบไหน ทำไมโอเคกับการไปโรงเรียนใหม่
ไนร่า : มันใหญ่มาก ขับรถทีหลงทาง
วิ่งรอบโรงเรียนหรือยัง ?
เอเดน : เคยครับ
กาย : โรงเรียนอยู่ในหมู่บ้าน แล้วหมู่บ้านนั้น 6 พันไร่
ได้ข่าวว่าค่าเทอมปีละล้านต่อคน ?
ฮารุ : เกือบ ๆ ถ้าคิดเลขกลม ๆ ก็ 3 ล้านต่อปี
กาย : รวมทุกอย่างแล้วประมาณ 3 ล้าน ก็เอาเรื่องอยู่
ฮารุ : การเรียนเป็นอย่างหนึ่งที่เรายอมลงทุน เรายอมกัดฟัน เพราะไม่ว่าจะมีเงินมากมายก่ายกองในอนาคต แต่ถ้าไม่มีการศึกษาติดตัว ฮารุรู้สึกว่าเราซื้อความรู้ สังคมสนุก ๆ ใด ๆ ให้เขา วันนึงเราไม่อยู่ ก็คิดว่าสิ่งที่เราให้เขาได้คือการศึกษา
ดูจากโหงวเฮ้ง ขาดบาทเดียวพันล้าน ?
ฮารุ : ไม่ ๆ (หัวเราะ)
ค่าเทอมเป็นการลงทุนของพ่อแม่ เท่าไหร่ก็ให้ได้ แต่บางครอบครัวลูกต้องเกรด 4 นะ ให้คุ้มกับค่าเทอม ทางบ้านคาดหวังอะไรกับลูกบ้าง ?
กาย : ขอแค่สนุกกับการไปเรียน แค่นั้นเลยครับ สมมติมีการบ้าน ขอให้มีความตั้งใจ พยายามที่จะทำ ทำผิดทำถูก สอบได้-ไม่ได้ ขอให้พยายามและมีความสุขกับตรงนั้น
ฮารุ : เราคาดหวังกับเกรดยาก แต่เอาความพยายามดีกว่า บางคนไม่ได้เหมาะกับวิชานี้จริง ๆ ตั้งใจแค่ไหนก็คงไม่ได้ 4 แต่ถ้าลูกบอกว่านี่คือพยายามที่สุดแล้ว นี่คือสุดของความพยายาม มันก็ได้เท่านั้น เขาอาจไม่ได้เอ็กเซลด้านการเรียนอาจไปด้านอื่นก็ได้ ขอแค่ตั้งใจ พยายาม และมีความสุขแค่นั้นก็พอ
กาย : เกรดไม่ได้เท่ากับเด็กดี-ไม่ดี ผมเห็นบ่อยมาก เด็กคนนี้ดีมากเลยนะ เขาเป็นเด็กดี เรียนได้เกรด 4 ตอนเรียนผมก็เป็นเด็กดีนะ แต่ผมได้ 2 (หัวเราะ) ผมคิดว่าถ้าเขาเป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพ เป็นมนุษย์ที่ดี เป็นมิตรต่อคนอื่น ๆ ไม่เหยียบหัวคนอื่นเพื่อขึ้น ผมก็แฮปปี้มากแล้วครับ
พ่อแม่เคยมีประสบการณ์ตอนเรียน ส่งลูกครั้งนี้เลยไม่คาดหวัง ไม่กดดันเขา ?
กาย : อยากให้เขารู้สึกว่าอยากไปโรงเรียน เพราะไม่ว่าครูดีแค่ไหน แต่เด็กจะไม่เปิดรับถ้าไม่อยากไปโรงเรียน
ให้เลือกเรียนกับเล่นกีฬา เลือกอะไร ?
คิริน-ไนร่า-เอเดน : (ตอบพร้อมกัน) เล่นกีฬา ชอบเตะฟุตบอล
แต่บ้านนี้พ่อแม่เล่นฟุตบอลไม่เป็นนะ ไปค้นเจอได้ไงว่าลูกชอบฟุตบอล ?
ฮารุ : คิรินเป็นคนขอก่อน ขอเตะฟุตบอล ฮารุก็บอกว่าได้สิ คิดว่าไปซื้อลูกฟุตบอลมาเตะหน้าบ้าน ก็เลยไปซื้อ จำได้เลยลูกฟุตบอลที่ตลาดซื้อมา 400 ซื้อมาเขาก็เตะหน้าบ้าน พ่อแม่ก็เตะไม่เป็น เขาก็เตะกับคนขับรถ
กาย : เขาเตะกับคนขับรถจนพี่เขาไม่ไหวแล้ว เริ่มเตะอัดกำแพง ต้นโมกข์ในหมู่บ้านก็หักไปเรื่อย ๆ เขาก็ขอไปเรียนฟุตบอล ก็ให้ไปเรียน ไป ๆ มา ๆ เริ่มจริงจังขึ้น
ไปสามคนไม่ว่า พ่อแม่เปิดอะคาเดมี่ด้วย ?
กาย : ต้องบอกว่าลูก ๆ พวกเราไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรหรอก เขาชอบเล่น เขาต้องการอยากเก่งขึ้นเพื่อเล่นกับเพื่อนได้ เราก็หาโค้ชที่คิดว่าเหมาะสมกับลูกเราที่สุด พอเราศึกษาเรื่อย ๆ เราก็อยากให้ลูกทำร่างกาย ผมว่าการยืดหยุ่นข้อต่อและกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความเร็วของการประมวลในสมอง ต้องเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เราหาโค้ชมาเต็มไปหมดเลย รู้ตัวอีกทีโค้ชในบ้านมี 7-8 คน
ฮารุ : เหมือนเล่นออกกำลังกาย แล้วลูกก็บอกตึงบ้าง เราก็ไปหานักกายภาพ พอเสร็จปุ๊บ นักกายภาพบอกว่ากล้ามเนื้อเขาไม่แข็งแรงพอ ก็ต้องไปหาวิทยาศาสตร์การกีฬา ไป ๆ มา ๆ โค้ชเลยหลายแขนงมาก เพื่อดูแลเขา เรามีโค้ชขนาดนี้ แล้วมีหลายคนเขาอยากทำ บ่นว่าค่าใช้จ่ายมันสูง เราก็เลยคิดว่า ไหน ๆ เรามีโค้ชแล้ว เราชวนโค้ชมาทำมั้ย พอมาทำด้วยกัน ปรากฏว่าเด็ก ๆ ได้หารหัว มันก็เบาลง ทุกคนได้ออกกำลังกายดี ๆ เด็ก ๆ ได้เรียนและทำทุกอย่างเหมือนลูกเราเป๊ะ
กาย : ใช้โค้ชเดียวกันด้วย โค้ชระดับนักกีฬาทั้งทีมชาติ ทั้งติดเวิลด์ แรงกิง อาจารย์ภาคก็มาสอนที่อะคาเดมี่ด้วย เด็ก ๆ ได้ยืด เจอวิทยาศาสตร์การกีฬา นักกายภาพ
ฮารุ : เราไม่ได้วางเป้าหมายว่าลูกต้องเป็นนักกีฬา นักฟุตบอล เพราะรู้สึกว่าวันนี้เขาตั้งใจ อีก 3 5 10 ปี ไม่รู้เขาจะไปถึงเป้าหมายที่วางมั้ย หรือจะล้มเลิกกลางทาง แต่สิ่งที่เราทำ สิ่งที่ลูกทำ มันไม่มีผลเสีย เพราะกีฬาไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา มันคือวินัย ความอดทน ความมุ่งมั่น ฝึกหลายอย่าง เลยรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำวันนี้ไม่มีคำว่าเสียนะ ถึงแม้เขาไม่ได้ไปตามเป้าหมายที่สูงสุดก็ได้
กาย : เหตุผลที่ทำได้ เพราะกายกับฮารุ ถึงเป็นเจ้าของอะคาเดมี่เอง แต่เราไม่ได้ทำเพื่อเงิน คุณพ่อคุณแม่มาสมัครเรียน มีค่าใช้จ่ายนะ แต่กายกับฮารุ เอาทุกบาททุกสตางค์ที่มี เอามาปรับปรุง ทำให้อะคาเดมี่มันดียิ่งขึ้น เราเพิ่งเปิด 4 เดือน มีเด็ก 100 คนแล้ว ที่เรียนกับเราทุกเดือน ตั้งแต่รุ่น 4-5 ขวบ ยัน 13 กายคิดว่าเราทำงานที่อื่น ไม่ต้องหาเงินจากตรงนี้ เราอยากให้ลูก ๆ และเด็กคนอื่น ๆ ได้เต็มที่ เราเลยเปิด Opti One ฟุตบอล อะคาเดมี่ขึ้นมา
คนมองว่าจัดแบบนี้ เว่อร์หรือเปล่า ?
กาย : ทำมาเพื่อให้ลูกและเด็กคนอื่น กายกับฮารุไม่ได้ต้องการจากเด็ก เดี๋ยวดีมาก ๆ วันนึงจะขายสนับแข้งเอง ไปหากินจากทางอื่น
ทำไมถึงชอบเล่นฟุตบอล ?
คิริน : ไม่รู้ มันเด้งขึ้นมาเอง อยากเล่นฟุตบอล
ชอบใครมาก่อนหรือเปล่า ?
เอเดน : เห็นเมสซี่เขาเล่นกัน
คิริน : เล่นแล้วสนุกมาก ไม่กลัวเจ็บ
เจ็บสุดตอนไหน ?
ไนร่า : ตาตุ่มแตก โดนเตะค่ะ
กาย : ได้ข่าวว่าขี่หลังเพื่อนแล้วร่วงลงมาไม่ใช่เหรอ คอนเทนต์อีกแล้ว
ไนร่า : (ยิ้มหวาน)
ร้องมั้ย ?
ไนร่า : ไม่ร้อง ขำ
กาย : ยืนเต้นอยู่หน้าห้องเอกซเรย์
มีกายภาพฉีกขา เจ็บมั้ย ?
เอเดน : เจ็บมาก
ไนร่า : ไม่เจ็บ
คิริน : ไนร่าเป็นคนเดียวที่ไม่เจ็บ (ฉีกขาโชว์)
กาย : เอเดนไม่เก่งเรื่องตึง แต่เรื่องกล้ามจะเก่ง (เอเดนโชว์กล้ามท้อง วิดพื้น ก่อนจะทำกันทั้งสามคน)
ตั้งแต่เล่นกีฬา มีเหตุการณ์อะไรที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่เล่นฟุตบอล ?
เอเดน : เดวิด เบ็คแฮม ผูกเชือกรองเท้าให้ครับ
กาย : เป็นบุญมากของเดวิด เบ็คแฮม ได้มาผูกเชือกรองเท้าให้เอเดน จะมีสักกี่คนบนโลกได้ผูกเชือกรองเท้าลูกกาย
สลับกัน จะมีกี่คนที่เขามาผูกให้ก่อน ?
กาย : (หัวเราะ)
ตอนเขาผูก เอเดนรู้มั้ยเขาคือเดวิด เบ็คแฮม ?
เอเดน : รู้ครับ
ได้ Thank you มั้ย ?
เอเดน : ไม่ ก็ดีใจที่เขามาผูกให้ ไม่รู้อะไร
กาย : มันงง ๆ อยู่ รองเท้าไปไหน
เอเดน : เก็บไว้ครับ
ไนร่า : ต้องซื้อรองเท้าใหม่ ต้องเก็บอันนั้นไว้
กาย : ขายมั้ยรองเท้า
เอเดน : ไม่
เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง ?
กาย : เดวิด เบ็คแฮม เขามาเมืองไทย เขาจัดซ้อมบอลและมีมีตแอนด์กรี๊ด เราก็ส่งคลิปสมัครเข้าไป เขาเป็นคนเลือกว่าเอาใครมา เขาเลือก 30 คน คิริน ไนร่า เอเดน ก็ส่งคลิป
ฮารุ : ตอนผูกเชือกรองเท้า เห็นแค่เดวิด เบ็คแฮม กวักมือเฉย ๆ แล้วเห็นเดนทำหน้างง ๆ เขาก็ก้มลงไปผูกเชือก แค่นั้นเลยค่
พ่อแม่พยายามสะกดจิต บอกให้ลูกที่เหลือแกะเชือกรองเท้า ?
กาย : เราก็ไนร่า คิริน ๆ ดึงเชือกรองเท้าออก ๆ (หัวเราะ)
ฮารุ : หล่อมาก เห็นแล้วกรี๊ดมาก
มีเหตุการณ์ที่พ่อแม่เกือบช็อก คิรินถูกลูกบอลปึ้งใส่หัว สลบไปเลย ?
ฮารุ : ถ้านักมวยก็เหมือนถูกน็อกเอาต์
คิริน : เขาคัตแบ็กโดนหน้า ปึ้ง ๆ ก็สลบเลย
ไนร่า : คิรินบอกยายว่าเหมือนตกหมอน
กาย : ประมาณตีสี่เขาก็ลุกขึ้นมา น่าจะเริ่มอักเสบ เขาก็ร้องไห้ จะให้นอน เขาลงไม่ได้ ก็ลากเก้าอี้มา เขานั่งหลับบนเก้าอี้นั่นแหละ ให้เขาเอาเท้าขึ้นเตียง ตอนเช้ามาก็พาไป รพ. เขาค้างอยู่ท่านี้ แล้วต้องตัดเสื้อทิ้งไปเลย
หมอบอกว่าเป็นอะไร ?
ฮารุ : กล้ามเนื้อคอกับตรงไหล่อักเสบ ตอนแรกคิดว่าจะหนักมาก ๆ แต่ก็โอเค กายภาพทุกอย่าง
กาย : กินยา กายภาพคอ แป๊บเดียว 2-3 วัน ก็กลับมาเตะบอลแล้ว ถ้าเป็นเราคง 3 เดือน
ตอนเห็นลูกล้มหลับหมดสติไปที่พื้นสนาม พ่อแม่รู้สึกยังไง ?
ฮารุ : เหมือนแบล็กเอาต์ไปแป๊บนึง
กาย : ถ้ารุ่นเดียวกันเตะจะไม่เป็นแบบนี้ แต่อันนั้นซ้อมเล่น ๆ กัน น้องเขาอายุ 14 แล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาเล่นกันมันก็มั่วซั่ว แต่พอร่วงไปแล้ว เราก็คิดว่าลูกเราจะลุกเมื่อไหร่ว้า แต่อันนี้นาน
ฮารุ : ส่วนมากถ้าเขาล้มแล้วเขาไหวเราก็จะบอกให้เขาลุก แต่รอบนี้ไม่ลุก ก็เลยคิดว่าไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ)
ถ้าเจอแบบนี้อาจเข็ด ไม่กล้ากลับไปเล่น คิรินเข็ดมั้ย ?
คิริน : ไม่ ไม่กลัว เจ็บเดี๋ยวก็หาย
ไนร่า-เอเดน ห่วงพี่มั้ย ?
เอเดน : ไม่ !
ไนร่า : ตอนนั้นเอเดนอยู่บ้าน
กาย : เห็นพี่เป็นแบบนี้เป็นห่วง สงสารมั้ย
ไนร่า-เอเดน : ไม่ ! เดี๋ยวก็หาย ตอนนั้นมีแข่งบอล พี่คิรินเขาอยากแข่งบอล
รู้สถานการณ์ว่าพี่ต้องฟื้นเร็วเลย เราไม่สงสารเหรอ ?
ไนร่า : ไม่
เอเดน : มันตลก ตอนคอพับก็ขำ พี่คิรินเคยเตะหัวเย็บมาแล้ว 53 เข็ม
ไนร่า : 25
เอเดน : ห๊ะ 53
ล่าสุดไนร่าขอแม่ทำอะไร ?
ไนร่า : แต่งหน้าอโศกา เมคอัพ ทำไปวันนึง
ฮารุ : 4 ชม. นานมาก เขาบอกฮารุก่อนว่าอยากทำ เขาอยากแต่งหน้าอินเดีย ฮารุเห็นเทรนด์มันเยอะ ก็บอกว่ามันยากนะ บางคนทำหลาย ชม. เลย ก็บอกเขาว่าถ้าอยากทำจริง ๆ ต้องร้องได้ เต้นได้ แล้วเดี๋ยวมาคุยกัน สามวันกลับมา มาเต้นมาร้องให้ดู
เป็นผู้หญิงคนเดียว แต่เป็นสายไฝว้นะ เป็นตัวแม่ ผู้ควบคุมในบ้าน เวลาทะเลาะใครจัดการใคร ?
คิริน : ไนร่าจัดการเอเดน
เวลาทะเลาะกันสามคน ใครไฝว้ใคร ?
คิริน : คิรินกับเอเดน
เอเดน : ไนร่ากับคิริน ไนร่ากับเอเดน
ไนร่าจะชนะตลอดจริงมั้ย ?
ไนร่า : ไม่จริงค่ะ
ทะเลาะสิบครั้ง ไนร่าชนะกี่ครั้ง ?
ไนร่า : 6
คิรินกับเอเดนยอม ?
ฮารุ : เขาเป็นเจ๊ พี่ชายก็แพ้น้องสาว แต่เวลาทะเลาะกับน้องชายกันเองจะไม่มียอมกัน แต่กับไนร่าจะน่ากลัว ไม่ใช่เกรงใจนะ กลัว (หัวเราะ)
กาย : เราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น กลายเป็นว่าพี่น้องต้องเสมอกันหมด ไม่จำเป็นต้องมีกรรมการ การทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติของการเจริญเติบโตอยู่แล้ว เขาก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาของเขากันเอง ว่าจะแก้ยังไง
ถ้าพ่อแม่สวีตกัน เด็ก ๆ ทำยังไง ?
คิริน : ปล่อยเขาไว้ครับ
ไม่เขินเหรอ ?
คิริน : ไม่เขินครับ
เข้าใจว่าพ่อแม่เป็นแฟนกัน ?
คิริน : เข้าใจครับ
ฮารุ : คิรินเป็นคนขี้อ้อนที่สุด