รายงานเผยว่า นักแสดงชายที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวก็คือ หลิวจิน (Liu Jin) โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เขาได้อัปโหลดคลิปบนเว่ยป๋อ เปิดเผยว่า เขามักจะเห็นเรื่องราวที่เพื่อนนักแสดง ทีมงาน รวมถึงผู้ช่วยผู้กำกับ ถูกค้างจ่ายค่าตอบแทนหลังการทำงาน ทำให้เขานึกถึงเรื่องของตัวเองที่เคยเจอประสบการณ์แบบเดียวกันเมื่อหลายปีก่อน
หลิวจิน เปิดเผยว่า เหมาเสี่ยวถง ซึ่งเป็นนักแสดงหญิงในเรื่องก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเธอยังคงไม่ได้รับเงินค่าจ้าง 12.5 ล้านหยวน จากซีรีส์เรื่องนั้น
ในตอนนั้นเพื่อจะเคลียร์ปัญหากับนักแสดงและทีมงาน โปรดิวเซอร์ได้มีการลงนามในข้อตกลงว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้ในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ มิเช่นนั้นสามารถไปฟ้องร้องต่อศาลได้ ซึ่ง หลิวจิน ทราบมาว่าต่อมา เหมาเสี่ยวถง ได้ยื่นฟ้องทางบริษัทผู้สร้างและเป็นฝ่ายชนะคดี อย่างไรก็ตามเนื่องจากทางบริษัทไม่มีทรัพย์สินมากพอ ต่อให้นักแสดงสาวจะชนะคดี ก็ยังคงไม่ได้เงินที่ติดค้างอยู่ดี
โดยมีคอมเมนต์ เช่น...
“ค่าตัวสูงขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่เป็นเมื่อ 7 ปีก่อน เธอยังไม่ใช่นักแสดงระดับท็อปด้วยซ้ำ ตอนนี้นึกไม่ออกเลยว่าจะสูงขนาดไหน”
“หาเงิน 10 ล้านได้ง่าย ๆ เป็นนักแสดงนี่ดีจัง”
“ไม่แปลกใจเลยที่ทุก ๆ คนอยากเป็นนักแสดง แค่ซีรีส์เรื่องเดียวก็ทำเงินได้มากขนาดนี้แล้ว”
“มีเงินอยู่มากมายในวงการบันเทิง คุณสามารถทำเงินได้ในไม่กี่นาที ขณะที่คนทั่วไปทั้งชีวิตจะสามารถหาเงินได้มากแค่ไหนเชียว”
อนึ่ง สำหรับ เหมาเสี่ยวถง วัย 35 ปี เป็นนักแสดงสาวที่อยู่ในวงการบันเทิงจีนมานานหลายปี เริ่มเป็นที่รู้จักจากบทบาทในซีรีส์ดังอย่าง เวยเวยยิ้มเธอโลกละลาย (Love O2O) และ องค์หญิงเว่ยหยาง (The Princess Weiyoung) อีกทั้งไม่นานมานี้ยังได้รับบทเป็นองค์หญิงในเรื่อง หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร 2 (Joy of Life 2)
ขณะที่ล่าสุด Epoch Times รายงานเพิ่มเติมว่า การฟ้องคดีของนักแสดงสาวที่ หลิวจิน กล่าวอ้างถึงนั้นเกิดขึ้นจริง ๆ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2564 มีคำตัดสินคดีจากศาลถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยพบว่าทางโจทก์ขอให้ศาล สั่งบริษัทที่เป็นจำเลยชำระค่าตอบแทนของ เหมาเสี่ยวถง สำหรับซีรีส์ตอนที่ 3 และ 4 เป็นจำนวนเงิน 12.5 ล้านหยวน และค่าเสียหายจากการชำระเกินกำหนดอีก 2.5 ล้านหยวน (ราว 12 ล้านบาท) รวมถึงมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, Epoch Times