ดูท่าจะไม่จบง่ายแล้วจริง ๆ สำหรับมหากาพย์ของนางแบบสาว ลูกหมี รัศมี และนักแสดงรุ่นใหญ่ ปู มัณฑนา กับปมดราม่า เจ้าหนี้ - ลูกหนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทนายเดชา ทนายฝั่งลูกหมี ได้ออกมาจุดประเด็นว่า ลูกหนี้พูดทำนองว่าให้เจ้าหนี้กราบเท้าต่อหน้าสื่อก่อน หลังออกมาทวงหนี้แรงออกสื่อ ถึงจะยอมชดใช้หนี้ ซึ่ง ลูกหมี ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์แซ่บด้วย
(อ่านข่าว ทนายเดชา เปิดปมลูกหนี้ให้กราบเท้าต่อหน้าสื่อ หลังเจ้าหนี้ทวงออกสื่อ ถามเอาไงดี ?)
ล่าสุด (20 กรกฎาคม 2567) ลูกหมี รัศมี ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ในวันที่จะต้องนัดไกล่เกลี่ยรอบ 2 หลังจากที่แถลงข่าวช่อง 8 ก็ไปทานข้าวกับ ทนายกุ้ง และ ทนายเดชา ตามมา ลูกหมี เองยังนั่งคิดตัวเลขอยู่เลยว่าเราจะจบให้เขาตามสิ่งที่ถูกต้องได้เท่าไหร่ เช็คที่ลูกหมีได้มาคือ 2 ล้าน กับสัญญาเงินกู้ และหลังวันที่ 2 มีนาคม และทางฝั่งโน้นเขาโอนเงินกลับมาให้ลูกหมี 2.2 แสน แต่ลูกหมีก็คิดแล้วว่าเต็มที่ อยากจะให้เขาที่ 1.8 ล้าน เหมือนเดิม
ส่วนในเรื่องเงินในบัญชีที่เข้ามา ลูกหมีโอนให้เขาไป 4 ล้าน และเขาโอนกลับมา 2.6 ล้าน บวกลบกันมันเหลือ 1.4 ล้าน แล้วถ้าเกิดทนายประมาณพูดว่า มันจะมีดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายอยู่ในนั้น แล้วถามหน่อยว่า ลูกหมีจะไม่ได้ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมายบ้างเลยเหรอ ซึ่งมันก็ต้องมี แต่นี่กลายเป็นว่าเขาไม่ได้ให้อะไรเลย
กลายเป็นว่าตั้งแต่ที่ลูกหมีโอนเงินให้เขาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน จนถึงปัจจุบัน ได้กลับมาแค่ 1.4 ล้านเท่ากับว่าลูกหมีไม่ได้อะไรเลยเหรอ มันก็จบที่ตัวเลข 1.4 ล้าน บอกแล้วว่าจบเพื่อตัดความรำคาญ ตัดปัญหาให้มันจบไป แต่ก็ไม่ยอม
ลูกหมี ยังเผยอีกว่า ที่เขาบอกเองว่าตัวเองมีเงินสามารถไปกดเงินได้เลย ผมมีเงินพร้อมที่จะโอนตลอดเวลา แต่กลายเป็นวันไกล่เกลี่ยก็ไม่สำเร็จ เงินก็ไม่โอน แล้วก็มาฟ้องดำเนินคดี ลูกหมีมองว่าสิ่งที่เห็นเห็นเลยก็คือเขาก็น่าจะไม่มีเงินให้เรา หรือว่าจะบิดไปทางอื่น ดิ้นไปทางอื่น ถ้าคนมีเงินระดับนี้ 1.4 ล้านก็ต้องให้ได้ พูดทุกครั้งก็ทำไม่ได้สักครั้งเลย
ลูกหมีพูดเสมอว่า อย่างเคสของ ลิลลี่ เงินแค่ 70,000 เดือนหนึ่งยังไม่ให้เขาเลย แสดงว่าเส้นทางการเงินของคุณเป็นอย่างไร 70,000 คุณยังให้เขาไม่ได้เลย แล้ว ลิลลี่ 6 แสน คือ 2 ปี แล้วระยะเวลาที่เขาเอาเงินจากผู้เสียหายไปมันเป็น 2-3 ปีตลอดเลย แสดงว่าคุณเป็นคนอย่างไร ประชาชนก็คงรับทราบตามความเป็นจริงที่เห็น
ส่วนประเด็นเรื่องกราบเขา ลูกหมีชี้แจงว่า เขาไม่ได้บอกให้ลูกหมีไปกราบขอโทษเขาหรอก เขายกตัวอย่าง ถ้างั้นลูกหมีก็ขอยกตัวอย่างกลับไปเหมือนกันว่า ถ้าจะให้ลูกหมีไปกราบเนี่ย คิดอย่างไรคะ พี่น้องประชาชนจะไปกราบขอโทษลูกหนี้หรือเปล่า สำหรับลูกหมีคิดว่าคงไม่ทำแบบนั้น แล้วก็ไม่แลกกับคนประเภทนี้
เราก็คงอยู่เฉย ๆ ของเราเป็นเจ้าหนี้ของเราต่อไป ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของกฎหมายค่ะ วันที่ 15 ตอน 16.00 น. ฝั่งโน้นเขาไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกหมี คดีที่ 1 คือหมิ่นประมาททางสื่อโฆษณา คดีที่ 2 คือคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางร้อยเวรก็โทร. มาบอก พอทราบข่าวก็ตกใจ ดิฉันเป็นเจ้าหนี้คนแรกในโลกที่โดนลูกหนี้ฟ้องกลับ เราก็อึ้งมากว่าคนแบบนี้มีวิธีคิดแบบนี้ เพราะลูกหมีพูดเสมอว่าวิธีคิดของเขาทัศนคติของเขากับการเป็นลูกหนี้ที่แย่มาก และไม่ประเมินตัวเอง ยังคิดว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถ สามารถทำอะไรก็ได้พลิกคดีก็ได้ ลูกหมีเชื่อว่ามันไม่มีใครเก่งที่สุดหรอกค่ะ เดี๋ยวมันก็จะตายน้ำตื้นค่ะ
ในขั้นตอนต่อไป ลูกหมีก็จะให้ทางทนายกุ้งเป็นคนดูแลในเรื่องของรูปคดี ส่วนทนายเดชาท่านก็ช่วยลูกหมีมาโดยตลอดเพราะว่าเราอยู่ทีมเดียวกันเราปรึกษากันตั้งแต่ต้น ท่านก็ให้ความเมตตาลูกหมีทุกอย่างก็ให้ทางทีมทนายเป็นคนช่วยตัดสินค่ะ เขาฟ้องเรา เริ่มต้นมันเป็นเรื่องของคดีเช็คเด้ง จริง ๆ เราสามารถแจ้งความเป็นคดีอาญาก็ได้ แต่เราเลือกที่จะทำให้เบาที่สุด เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้มันร้ายแรง แต่สิ่งที่มันร้ายแรงมันเกิดขึ้นจากตัวของเขาเอง และทางฝั่งโน้นก็พูดเสมอว่าเอาเงินลูกหมีไปลงทุนถูกต้องไหมคะ เขาพูดน่าจะเป็น 10 ครั้ง ถ้าเขาคิดว่าเป็นการลงทุนเราก็อาจจะทำตามเขาก็ได้ เราก็ดูจากรูปคดีเขาว่าเราจะเปลี่ยนจากคดีเช็ค ว่าเป็นคดีฉ้อโกงหรือเปล่า
ตอนนี้เรื่องไปศาลเดี๋ยวต้องปรึกษาทางทนายกุ้งว่า ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะเราเองทางตำรวจก็ยังไม่ได้มีการให้เราไปเซ็นอะไร เราทำเอกสารเรื่องยื่นฟ้องเสร็จตั้งนานแล้ว แต่เราประนีประนอมจนถึงที่สุด เพราะเราไม่เคยอยากจะทำร้ายใคร แต่ถ้าใครอยากจะให้เราทำร้าย ไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ เราก็ต้องปกป้องตัวเองและดำเนินตามคดีตามกฏหมายเรื่องจริง
เมื่อถูกถามว่าเชื่อไหมว่าเขาไม่ได้ถังแตกจริง ๆ ลูกหมีตอบว่า ก็เท่าที่ทราบและลูกหมีรู้มามันแตกมานานแล้วนะ เพราะว่าถ้าลูกหมีไม่มีข้อมูล ตั้งแต่มกราคม - มีนาคม ลูกหมีก็ไม่ถึงขั้นขนาดจะต้องมาแถลงข่าวหรอก
ที่แถลงข่าวเพราะมันเป็นเงินของลูกหมีที่ต้องใช้และต้องการ และเพราะการกระทำแบบนี้มันเป็นภัยต่อสังคม ลูกหมีเห็นว่าผู้เสียหายมันมากพอแล้ว 4 คน วันแถลงข่าวเสร็จผู้เสียหายเพิ่มมาอีก 6 คน ทุกวันนี้ลูกหมีไปไหนยังมีคนพูดออกมาเรื่อย ๆ ว่าฉันก็โดน ๆ แต่คนพวกนี้เขาไม่ได้ออกมา เพราะอาจจะเป็นคนในสังคม ตัวเงินมันก็แค่หลักแสน หรือว่าผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็ไม่อยากออกมาพูด
ลูกหมีก็ยอมรับว่าลูกหมีขอเป็นตัวแทน เป็นตัวแทนที่อยากให้เขาหยุดพฤติกรรมแบบนี้ เกิดมาชาติหนึ่งก็ขอให้ทำเพื่อสังคม และเป็นตัวอย่างและเป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าให้ใครยืมเงิน คนที่คิดว่าหน้าตาดีบุคลิกดี ภาพลักษณ์ดี มีหน้าที่การงานดีพูดจาหวาน ปากหวาน ต้องมีสติ เพราะตอนนั้น ลูกหมีไม่มีสติ และลูกหมีก็บอกแล้วว่าเป็นบทเรียนที่เราพลาด