โตโน่ ภาคิน พูดชัด ! บอก ณิชา ยังไม่คิดแต่งงาน-มีลูก ถ้า PM2.5 ยังไม่หมดจากไทย

          ถือเป็นอีกดาราคนดังที่ทุ่มเททำงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับนักร้อง-นักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ที่จัดทำโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมมานานหลายปี ล่าสุด (21 กรกฎาคม 2567) ก็ได้ออกมาประกาศว่าจะยังไม่สร้างครอบครัว หากประเทศไทยยังมีปัญหามลภาวะ PM2.5

          โดย โตโน่ ภาคิน เผยว่า "เรื่องของสิ่งแวดล้อมเราก็ทำมาหลายปีแล้วและมันก็ดีขึ้น แต่รู้สึกว่ายังไม่ได้ดีเท่าใจที่เราอยากให้เป็น เราอยากให้เวลาเดินออกมาแล้วท้องฟ้าสดใส อากาศบริสุทธิ์ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เวลา PM2.5 มาทีหนึ่ง เราก็ตื่นตัวกันทีหนึ่ง จริง ๆ แล้วผมอยากให้มันฝังอยู่ในจิตใจของพวกเราทุกคนว่าพวกเราทุกคนทำลายธรรมชาติ ทำลายโลกใบนี้มาหลายร้อยปีแล้ว การที่เราจะแก้ให้เขากลับมาดีได้ในระยะเวลาอันสั้น มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าเกิดเราไม่ทำอะไรเลย พังแน่"

          โตโน่ ภาคิน บอกต่อว่า "มองว่าผมทำให้ดูเลยดีกว่า เราก็เดินเก็บขยะเลย แล้วให้เขามาถามเอาว่าเก็บทำไม ก็ค่อยบอกเขาว่าเก็บเพราะแบบนี้แหละ ทำไมต้องเก็บ PM2.5 มันเกี่ยวกับขยะยังไง โลกร้อนมันเกี่ยวกับควันเสีย-ควันดำยังไง ซึ่งจากที่ทำมา ผลตอบรับมันก็ดีนะครับ แต่มันก็จะเหนื่อย สมมติเราเอาตัวเราไปทำ ตอนแรกเราทำเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่พอเราเห็นว่าเราต้องไปช่วยโรงพยาบาลเกี่ยวกับคนบ้าง มันก็จะไม่ต่อเนื่อง ต้องไปถ่ายละคร ไปถ่ายหนัง มันก็จะหายไป

          ผมก็เลยคิดว่าในช่วงเวลาที่เรามีโอกาสทำก็พยายามทำให้เต็มที่ แต่ก็ต้องโฟกัสเป็นงาน ๆ ไป ส่วนเรื่องที่ทุกคนจะเห็นว่ามันสำคัญไหม จะสานต่อไหม จะช่วยกันทำไหม อันนี้ก็อยู่ที่ใจของแต่ละคนครับ เราไม่มีสิทธิ์ไปกดดันใคร แต่ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์มากดดันเราเหมือนกันว่าห้ามเดินเก็บขยะ ห้ามพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำอะไรก็ทำครับ และเรื่องของสิ่งแวดล้อมมันไม่ใช่เรื่องของ กทม. เก็บขยะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของนักร้อง-นักแสดง แต่มันเป็นเรื่องของทุกคน เพราะเราทุกคนมีส่วนที่ทำให้โลกเป็นแบบนี้"

          หนุ่มโตโน่ ยังบอกอีกว่า "อยากให้กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ไม่มี PM2.5 อยากเห็นบ้านเรามีอากาศที่ดี ๆ มีแม่น้ำสวย ๆ ให้เราใช้ชีวิตครับ ผมเชื่อว่า PM2.5 มันต้องหมดได้ถ้าพวกเราช่วยกัน แต่ถ้าเราต่างโยนว่าเป็นหน้าที่ของคนนั้นคนนี้ และไม่ช่วยกันเลย มันจะไม่เกิดอะไรสักอย่างเลยครับ ก็จะทะเลาะกันอยู่แบบนี้แหละ อย่างประชาชนคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ก็เช็กก่อนเลยว่ารถของเรามีควันดำไหม ก็ไปเช็กให้มันอยู่ในสภาพที่ดี หรือเรื่องขยะ สมมติเราไปซื้อผลไม้ แตงโม มะม่วง เรารวมเป็นถุงเดียวได้ไหม ไม่ต้องแยกเป็น 3-4 ถุง ถ้า 70 ล้านคนช่วยกัน ลองเอา 70 ล้านคูณแค่ 4 ชิ้นต่อวันดูครับ ก็วันละ 280 ล้านชิ้นแล้วที่มันจะลดลงไป"

          ส่วนกระแสคำวิจารณ์นั้น โตโน่ เผยว่า "ก็โดนมาตลอด ถามว่าเห็นไหมก็เห็น แต่ไม่ได้สนใจ เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ศูนย์หัวใจก็เพิ่งช่วยชีวิตไปได้ตั้ง 3 คน ผมแคร์ตรงนั้นดีกว่า ใครบ้างไม่โดนว่าครับ แต่มันอยู่ที่ว่าเราทำประโยชน์เพื่อใคร ถ้าประโยชน์เพื่อเราเอง เราไม่กล้าพูดเต็มปากหรอก แต่ถ้าเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แผ่นดิน ประเทศชาติ จริง ๆ จะพูดกี่ทีก็เหมือนเดิม ก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยครับ ทุกคนมีสิทธิ์คิด และผมเองก็ไม่เคยคิดไปตอบโต้ใครแม้สักครั้งเดียว"

          นักร้องดังยังยอมรับว่าเคยคุยเรื่องนี้กับแฟนสาว ณิชา ณัฏฐณิชา แบบพูดกันเล่น ๆ ว่าถ้าเกิดเรายังมี PM2.5 อยู่ และถ้าประเทศของเรายังติด 1 ใน 10 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลกอยู่ เราอย่าเพิ่งมีครอบครัว อย่าเพิ่งมีลูกเลย เพราะเราไม่อยากให้ลูกต้องสูดอากาศนั้นเข้าไป ก็อยากให้ทุกคนสนใจสิ่งแวดล้อม เพื่อที่เราจะได้วางแผนครอบครัวในรูปแบบใหม่ ซึ่งณิชาก็เห็นด้วย เขาบอกว่าก็จริงนะ และจริง ๆ แล้วน้องกำลังมีไฟในการทำงาน ตัวเราเองก็กำลังมีพลังมาก ๆ เลย ถ้าเกิดว่ามันมีเรื่องอยากให้โฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ยังไม่อยากให้มาคิดถึงเรื่องของเรามากนัก

          ถามว่าเคยคุยเรื่องแต่งงานไหม โตโน่ เผยว่า "ยังไม่ได้กำหนดว่าจะตอนไหน ทุกวันนี้ก็มีความสุขในทุกวันอยู่แล้ว ผมโชคดีมาก ๆ ที่มีณิชาในชีวิตครับ แต่แผนการแต่งงานยังไม่ได้คุยกันเลยครับ แต่เรื่องลูกคุยกันจริง ๆ ว่าถ้าเกิดแต่งงานแล้วมีลูก ถ้าเกิดว่าอากาศมลภาวะมันยังเป็นแบบนี้ก็ยังไม่อยากมี เราอยากทำให้เต็มที่ก่อน แต่ถ้าเกิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว เราแก้ไม่ได้ เราสู้ไม่ไหว ค่อยมาตัดสินใจตอนนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรครับ เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องเล็ก จะแต่งตอนไหน พวกเราจะได้มาร่วมงานแต่งไหม ผมว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องที่สำคัญคือ การที่เราจะทำยังไงให้กรุงเทพฯ ไม่ติด 1 ใน 10 ของ PM2.5 เชียงใหม่ไม่ติด ทะเลบ้านเราสะอาด ไม่ฟอกขาว ผมว่าอันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ส่วนเรื่องแต่งงานค่อยว่ากัน"