วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 จากกรณีสุดช็อกที่ เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล น้องสาวของ นิชคุณ 2PM ได้ออกมาแจ้งความว่า ตลอดเวลาที่เธออยู่กับอดีตสามี บอส อัศม์กรณ์ สิงห์สีกรกุล เธอถูกทำร้ายมาตลอด จนต้องแจ้งความ
เชอรีน เผยรายละเอียด 4 ครั้ง โดนสามีทำร้าย รัวตบ 10 รอบไม่ยั้ง จนต้องวิ่งหนีไม่คิดชีวิต
ครั้งแรกเกิดขึ้นเดือนพฤษภาคม 2565 มีการทะเลาะกัน บอสมีอาการมึนเมา เชอรีนโดนตบเข้าที่หน้าจนปากแตก หลังจากนั้นเขาก็มากราบขอขมาคุณแม่ กราบขอขมาเชอรีน และบอกว่าจะไม่ทำอีก
ครั้งที่ 2 เกิดในเดือนกรกฎาคม 2565 เกิดจากอาการมึนเมา
ครั้งที่ 3 เกิดในเดือนเมษายน 2566 เกิดจากอาการมึนเมา
ครั้งสุดท้าย เกิดในเดือนกันยายน 2566 คือเชอรีนนอนอยู่บนเตียง อดีตสามีนั่งข้าง ๆ พยายามให้เชอรีนตอบคำถาม และเขาก็ตบเข้าที่หน้า แล้วเขาก็บอกว่า ตอบสิ ๆ แต่เชอรีนไม่ตอบ เพราะรู้ว่าหากตอบโต้ไปจะยิ่งทำให้เขาโมโห และเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้น เชอรีนเลยอยู่เฉย ๆ เขาเลยทำไปเรื่อย ๆ
ในวันนั้นเชอรีนรู้สึกว่าถูกคุกคามจนถึงขั้นที่ว่าไม่รู้ว่าจะถึงชีวิตไหม เลยยอมวิ่งเท้าเปล่าออกมาจากบ้าน ไม่เอาอะไรมาเลย มีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว และที่วิ่งเท้าเปล่าเพราะกลัวเขาจะได้ยินเสียง จากนั้นเชอรีนก็โทร. หาเพื่อนที่อยู่ใกล้ ๆ ส่วนลูกในตอนนั้นอยู่กับพี่เลี้ยง
เชอรีนสามารถเผยให้เห็นถึงรูปภาพการทำร้ายร่างกายได้ แต่คลิปและแชตนั้นขอสงวนไว้ เพราะเป็นรายละเอียดในทางคดี
เชอรีน เผยสาเหตุโดนทำร้ายร่างกาย ตอนเป็นแฟนแสนดีมาก หลังคลอดลูกผัวเป็นปีศาจ เพราะเมา+หึงหวง
เชอรีน ยอมรับว่า โดนทำร้ายร่างกายหลังจากที่คลอดลูกแล้ว เนื่องจากฝ่ายชายเมาสุราและอารมณ์ร้อน จึงมีการใช้กำลัง เมื่อสร่างเมาเขาก็มาขอโทษ และอ้างว่าขาดสติ สัญญาว่าจะไม่ทำอีก ในตอนนั้นเชอรีนยังให้อภัย เพราะอยากให้ครอบครัวเป็นครอบครัว เชอรีนพยายามอดทนเพื่อลูก เพื่อครอบครัว เชอรีนไม่อยากเป็นข่าวเพราะมันกระทบถึงลูก (เสียงสั่น) แต่เชอรีนและบอสยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทั้งสองคนมีลูกด้วยกันเท่านั้น และตอนนี้ลูกอยู่กับเชอรีน เชอรีนได้สิทธิ์ในตัวลูก 100%
สาเหตุส่วนใหญ่นั้นเกิดจากบอสหึงหวงและเขามีอารมณ์รุนแรง หึงหนัก และเมา ในเวลาอื่น ๆ ที่เขาไม่เมา เขาก็ใช้คำพูดรุนแรงอยู่แล้ว ยิ่งเมายิ่งทำให้เขาขาดสติ ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้หึงหวงนั้นก็มี เช่น รุ่นน้องทักมาหา เพื่อนของเขาทักมาหา และเขาไม่พอใจที่คุยกัน เชอรีนก็อธิบายและให้ดูแชตเพราะบริสุทธิ์ใจ
ทุกครั้งที่เกิดขึ้นก็จะวนไปที่ทำร้ายร่างกายและขอโทษทุกครั้ง มีการพูดคุยทุกครั้ง แต่เนื่องจากเชอรีนมีลูกก็ไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก และตอนที่ทำร้ายร่างกาย ลูกก็อยู่ในบ้านด้วย แต่อยู่คนละห้อง แต่น้องยังเด็กมากเลยอาจไม่รู้เรื่อง
ตั้งแต่ที่แต่งงานกัน เขามีปัญหาเรื่องอารมณ์รุนแรง ทะเลาะกันบ่อย จะทำอะไรก็ต้องตามใจเขา ก่อนที่จะมีลูก เขาก็ดูแลเราดีมาก ให้แต่งตัวได้ ให้ไปเจอเพื่อนได้ แต่พอแต่งงานกันแล้ว เชอรีนไปเจอเพื่อนไม่ได้ แต่งตัวไม่ได้ ไปทำงานไม่ได้ ต้องอยู่กับเขา ตอนแรกเชอรีนก็ทำใจ อยู่กับลูกให้มีความสุขที่สุด คิดว่าอยู่บ้านเลี้ยงลูกแล้วกัน
เชอรีน เผย เลิกกันไปอดีตสามียังไม่เลิกรังควาน ลั่นให้เลือกว่าจะเสียเงินหรือเสียลูก เชอรีนเลือกลูก
การที่เชอรีนออกมาแจ้งความในครั้งนี้ เพราะแม้ว่าทั้งสองคนจะเลิกกันไปแล้วแต่ยังไม่จบ บอสยังคงตามมาขู่และคุกคามเพิ่มเติม ทำให้เชอรีนรู้สึกไม่ปลอดภัย บอสทราบทุกความเคลื่อนไหวของเชอรีนทั้งหมด ทราบว่าเชอรีนไปไหน กลับบ้านกี่โมง ถ้าอยากรู้อะไรก็รู้ได้หมด ใครมารับมาส่ง ไปกับใคร และเขายังโทร. ไปบอกแม่ของเชอรีนด้วย ซึ่งเขาอ้างว่าที่ทำไปแบบนี้เพราะเป็นห่วงลูก เลยให้คนมาสืบว่าเชอรีนได้อยู่กับลูกไหม และเมื่อเช้าพี่สาวของบอสก็ขอมาคุยด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เลิกกันไป บอสก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเชอรีนเพิ่มเติม ตอนนี้ลูกอยู่กับเชอรีน และเขาก็ต้องการที่จะเอาลูกไปเลี้ยง โดยมีข้อตกลงคือ หากลูกอยู่กับเชอรีน เขาจะไม่ส่งเสียใด ๆ แต่หากลูกอยู่กับเขา เชอรีนก็ไม่ต้องเสียเงินใด ๆ เชอรีนจึงเลือกให้ลูกอยู่กับเชอรีน
ก่อนที่จะมา เชอรีนได้มีการพูดคุยกับพี่ชาย (นิชคุณ) และคุณแม่แล้ว และที่บ้านก็ซัพพอร์ต ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เชอรีนหวาดระแวง รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย ทำให้เชอรีนกลัวไปหมด ตอนเลิกกันแรก ๆ เราก็มาเจอกันบ้าง เพื่อให้ลูกอยู่กับพ่อ แต่เวลาไปเจอเราจะกลัวเขามาก ๆ กลัวว่าวันนี้เขาจะไม่พอใจอะไรอีกไหม วันนี้เขาจะไปถึงขั้นไหนอีก และทุกวันนี้ก็ถูกติดตาม ถูกพูดแบบนี้ใส่ เลยรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย และถ้าอดีตสามีจะคุยก็ให้คุยกับทนาย เชอรีนไม่คุยแล้ว สิ่งที่อยากได้คือ ขอให้เขาเลิกยุ่งกับเชอรีน เชอรีนไม่ต้องการอะไรจากเขาเลย และเชอรีนก็เคยเตือนเขาไปด้วยว่า ถ้าเขาไม่หยุด เชอรีนก็ต้องทำอะไรเพื่อตัวเองเหมือนกัน
ส่วนนิชคุณค่อนข้างเป็นห่วงมาก เขาก็กลัว เชอรีนตอนแรกแค่อยากลงบันทึกประจำวัน เพราะคิดว่าถ้าในอนาคตเกิดอะไรขึ้น เราจะได้มีหลักฐานว่าแจ้งความไว้แล้ว เมื่อเชอรีนเล่าถึงพฤติกรรม ทนายก็แนะนำว่าควรเป็นข่าว เพราะหากวันหนึ่งเชอรีนหายไปหรือเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเชอรีนและลูก
ตอนนี้เชอรีนพยายามใช้ชีวิตต่อ ก็ต้องทำงานหาเงินและเลี้ยงลูกไปด้วย แม้ว่าจะกลัวที่จะออกไปข้างนอก แต่เชอรีนยังต้องทำงาน หาคอนเน็กชั่น เพราะเชอรีนหยุดชีวิตตัวเองเพื่อครอบครัวไปนานแล้ว เราพยายามเป็นแม่ที่สุขภาพจิตที่ดี เลี้ยงลูกให้ดีเหมือนกัน