- ชีวิตก่อนที่จะมาเจอเป็นแด๊ดดี้ของน้องโฮมส์ ชิล ๆ สบาย ๆ ยังไงก็ได้ แต่พอมีลูกเปลี่ยนเลย เรื่องเวลาต้องเป๊ะมาก ?
พอร์ช : ใช่ ตอนนี้ไม่ได้เลย ตอนนี้เป๊ะเรื่องเวลามาก กินข้าวกี่โมงเพราะเราทำอาหารเองด้วย ตี 5 ครึ่งตื่นพาลงมาข้างล่าง เล่นข้างล่างก่อน กินนมนิดหน่อย เริ่มทำกับข้าวประมาณ 7 โมง ให้เขานั่งเก้าอี้รอ ดูเราทำกับข้าว เป๊ะมาก เช้ากลางวันเย็นจะตรงเวลา
- บางสื่อบอกว่าพอร์ชไม่รับงานแล้วจะเลี้ยงลูก 24 ชั่วโมง อันนี้จริงมั้ย ?
พอร์ช : ไม่ใช่ไม่รับ รับ ๆ (หัวเราะ) ละครน่าจะรอลูกเข้าโรงเรียน
- แล้วจะทำใจออกไปทำงานได้ยังไง ?
พอร์ช : ก็มีเครียดนิดนึง เวลาออกไปทำงานบางทีกลัวไม่เต็มที่ ถ้ามันถึงเวลาที่ต้องทำอะไรรูทีนของน้องโฮมส์เราจะนึกละ เดี๋ยวเที่ยงโฮมส์กินอะไรดี เพราะทำกับข้าวเอง ไม่อยากให้ลูกเบื่อก็ต้องคิดเมนูทุกวัน เช้าเรากินไข่ยัดไส้ กลางวันสปาเก็ตตี้ ตอนเย็นเป็นข้าวหมูกระเทียม มันต้องวางแผนในทุก ๆ วัน
- แล้วเวลาไปทำงานล่ะ ?
พอร์ช : เวลาไปทำงานก็จะอยู่กับคุณย่า คุณย่าจัดการผมก็จะมอบหมายรูทีนไปให้ แต่เขาก็ทำไม่ตรงซักอย่าง(หัวเราะ)
- ถ้าเราไม่รับละครคลื่นลูกใหม่ก็มาเรื่อย ๆ นะ แล้วอีกหลายปี เราเคยกังวลมั้ยว่ากลับมาเราจะได้เป็นพระเอกมั้ย ?
พอร์ช : เราให้ความสำคัญกับลูกเป็นอันดับหนึ่ง ผมจะมองว่า ณ ตอนไหนเราให้ความสำคัญกับอะไร ณ ตอนนี้เขายังเล็กอยู่ ให้ความสำคัญกับเขาเต็มที่ เราจะได้เลี้ยงเขาได้เต็มที่ ไม่เสียใจที่โตมาเป็นเด็กแบบไหน ถ้าเกิดโตมาแล้วเขาเป็นเด็กไม่ดี เราจะได้ไม่ต้องโทษใคร เพราะสุดท้ายเราก็เป็นคนเลี้ยงเอง
- ยุคพี่ญ่าถ้าเป็นพระเอกดังมีลูกต้องปิด ทำไมคุณถึงไม่กลัว ปิดเป็นความลับดีกว่า ไม่บอกใคร ?
พอร์ช : เอาจริง ๆ ไม่ได้ปิดเลย มันเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากว่าแฟนคลับเราหรือคนที่ติดตามเราเขาก็ต้องรักลูกเราด้วย เพราะว่าเขาก็คือสายเลือดของผมคือลูกของผม
- มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นซิงเกิ้ลแด๊ดหรือเปล่า ?
พอร์ช : ไม่ ๆ แต่ว่ารับหน้าที่เลี้ยงซะส่วนใหญ่ บางทีแม่เขาไม่ว่าง ที่สำคัญคืออยากเลี้ยงเองด้วย เราอยากทำให้เต็มที่จะได้ไม่ต้องเสียใจกลับมานั่งย้อนว่า ทำไมตอนเด็กไม่เลี้ยง เราเลี้ยงเต็มที่แล้วไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงเราทำหน้าที่พ่อของเราได้เต็มที
- ทำไมเลือกที่จะทำเองทุกอย่างมากกว่าที่จะมีพี่เลี้ยง ?
พอร์ช : ผมเป็นคนขี้แพนิกรู้สึกว่าชอบทำอะไรด้วยตัวเองดีกว่า
- วินาทีแรกที่เรารู้ว่าจะเป็นพ่อคนความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
พอร์ช : หลายอย่าง หลายอารมณ์มาก มันทั้งดีใจแล้วก็กลัว มันหลายอารมณ์แต่ความรู้สึกที่เด่นมาก ๆ เลยคือกลัว เรากลัวเราเลี้ยงเขาได้ไม่ดี พูดตามตรงเลยยอมรับว่าผมก็ไม่ใช่คนที่นิสัยดีซักเท่าไหร่ในบางมุม ไม่มีใครดี 100% ถูกมั้ย ก็เอาวะกูเลี้ยงเองเนี่ยแหละจะเป็นยังไงลูกเราก็ต้องเป็นตามที่เราเลี้ยง
- อะไรในตัวเราที่รู้สึกว่าเราไม่ดีพอไม่สามารถเป็นพ่อที่ดีได้แบบที่เราคิด ?
พอร์ช : ตอนแรก ๆ เลยที่มีลูก ผมว่าเป็นเรื่องอารมณ์ ผมเป็นคนอารมณ์ร้อนคือกลัวว่าจะไปลงกับลูกเวลาที่เราเหนื่อย เราไม่รู้อามรณ์ตัวเองหรอกเราบอกไม่ได้หรอกว่าเราจะไม่ใส่อารมณ์กับลูกนะ พอถึงวันที่เราเหนื่อยเราไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นยังไง
- ผ่านมาแล้วปีนึง เราคุมอารมณ์ได้ดีมั้ย ทำให้เราใจเย็นลงมั้ย ?
พอร์ช : ดีครับ ดีมาก ๆ เพราะผมศึกษาเยอะ ในช่วงของเด็กแต่ละเดือนเขาจะมีการพัฒนาการทางด้านอารมณ์และร่างกายยังไงบ้าง เราก็จะรู้ว่า 3 เดือนเขาจะเป็นยังงี้นะ เราก็จะเข้าใจเด็กเราก็จะไม่โมโห ถ้าโฮมส์โยนของเรารู้แล้วว่าเขาเริ่มมีการพัฒนาการมันคือความเข้าใจมากกว่า พอเราเข้าใจเราก็จะไม่โมโห เราก็จะรู้ว่าเขาเป็นยังไง
- แต่มันไม่ได้ง่ายนะในวงการบันเทิงยิ่งจะเก็บสถานะความเป็นพระเอกอยู่ไปนาน ๆ แล้วพอมันขาดตอนไปเรามีความกังวลมั้ยว่ากลับมาจะเป็นพระเอกได้อยู่มั้ยหรือไม่ได้ซีเรียส ?
พอร์ช : ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นแค่รู้สึกว่าตอนนี้ทำอะไรที่มันได้เงินแล้วมันสามารถเลี้ยงลูกได้และเขารู้สึกไม่ขาด ไม่อยากให้เขาขาดความรัก อยากให้เขาได้รับความรักจากเราเต็มที่ ไม่ว่างานอะไรก็ทำ ตอนนี้ก็มาทำยูทูบ ผมว่ารู้สึกดีด้วยนะ ทำยูทูบมันถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้
- ตอนมีข่าวเรื่องพระเอกดังปิดบังเรื่องมีลูก พอเราอ่านข่าวแล้วรู้สึกยังไง รู้สึกว่าเป็นเรามั้ย ?
พอร์ช : รู้สึกว่าเป็นเราแหละ แต่รู้สึกว่าเราไม่ได้ปิดเลยเราตั้งใจ คือคิดไว้แล้วตอนมีลูกว่าควรจะแถลงข่าวปะ พี่ผู้จัดการก็บอกว่าไม่ต้องหรอกเดี๋ยวทำตัวคนก็เห็นเอง ตอนมีลูกก็พาลูกออกไปข้างนอก ออกไปเที่ยวบ่อยมาก แต่ไม่มีคนทักเลยว่าลูกผม ก็ไปด้วยกัน ไม่รู้เลย เพิ่งรู้ตอนโฮมส์ 9 เดือน 10 เดือน
- เห็นว่า 3 เดือนแรก หนักหนาเลยใช่มั้ย ?
พอร์ช : ตื่นทุก 2 ชั่วโมงกินนม ช่วงนั้นเหมือนยังถ่ายอะไรอยู่ด้วย ไม่ได้นอน อุ้มประมาณครึ่งชั่วโมงหลับ พอหลับกะว่าจะนอน นอนไม่หลับ กำลังจะเคลิ้มๆร้อง เคยมีเทนมใส่หน้าโฮมส์ด้วยนะ ประมาณตี 3 ตี 4 ปกติใส่นมไว้ในขวด เปิดฝาก็เปิดเลย แต่บิดแล้วเทเลย ดีไม่เข้าจมูก
- การทำทุกอย่างที่คุณพูดมา คุณเครียดถึงขั้นร้องไห้ ?
พอร์ช : ใช่ เครียดร้องไห้เลย มันเป็นอารมณ์เหมือนที่เรารู้ว่าเรามีลูก แต่อันนี้มันเป็นอารมณ์แบบทำยังไงดีวะเนี่ย ทำอะไรไม่ถูก บางทีมีบางช่วง เครียดมากๆเข้าไปโพสต์ในกลุ่มแม่และเด็ก ส่วนใหญ่จะโพสต์ถามช่วงเครียด ๆ มีช่วงนึงที่เขาเริ่มหัด BLW ตอน 6 เดือน แต่ช่วง 8 เดือน ถึง 9 เดือนเขาไม่กิน พอเขาไม่กินเราก็นอยด์
- เมื่อก่อน ก่อนที่มีลูกความนิสัยไม่ดีของเรามีอะไรบ้างที่ทำให้เราเปลี่ยนไปหลังจากมีลูก ?
พอร์ช : หลัก ๆ เลยเรื่องอารมณ์ร้อนแล้วก็เรื่องผู้หญิง (หัวเราะ)
- เรื่องผู้หญิงในที่นี้หมายถึงอะไร ?
พอร์ช : ในมุมผมนะแค่รู้สึกว่า
ธัญญ่า : ก็สร้างเรื่องไว้เยอะอยู่
ได๋ : พี่ญ่าได้ยินอะไรมาหรอคะ
ธัญญ่า : ไม่ได้ยินค่ะ อยู่ในเหตุการณ์
พอร์ช : สมัยก่อนก็มี สมัยนี้ไม่มีเลย ไม่ได้จีบไปเรื่อยถ้ามีเจอที่เที่ยวทักก็คุยด้วย ถ้ามีแฟนก็ไม่ยุ่งกับคนอื่น แต่ถ้าไม่มีก็เต็มที่ แต่เขาทำให้เราเปลี่ยนจริง ๆ หลาย ๆ อย่าง
- สิ่งไหนที่มีความรู้สึกว่าโฮมส์เปลี่ยนเรามากที่สุด ?
พอร์ช : เลิกดื่มแอลกอฮอล์เลย ตอนนี้ไม่ดื่มเลยมาเกือบ 4 เดือนแล้ว แบบไม่กินเลยแม้แต่นิดเดียว แรก ๆ มีกินนิดหน่อย แต่เคยกินแล้วตื่นมาตี 5 แล้วแฮงค์ รู้สึกว่าอารมณ์เราไม่พร้อมจะเอนจอยกับลูก เคยครั้งนึงครั้งเดียวเลย ตื่นมาแล้วรู้สึก เหมือนลูกเป็นอะไรแล้วเราจะอารมณ์ไม่ดี รู้สึกว่าต้องเตือนตัวเองตลอดว่าใจเย็น ๆ พอหลังจากตอนนั้นลดลงเรื่อย ๆ จนตอนนี้ไม่กินเลย แต่ก็ยังไปได้ ไปแต่ไม่กิน
- เราก็ซิ่งมาประมาณนึงลูกเราก็ถอดแบบเรามา ?
พอร์ช : กลัวลูกเหมือนตัวเอง
- ถ้าลูกเหมือนเรา เราวางแผนไว้หรือยังว่าทำยังไงไม่ให้ลูกเดินเกมผิด ?
พอร์ช : ผมซ้อมไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลย ซ้อมเรื่องการเลี้ยงอย่างเช่นเรื่องอารมณ์ ถ้าเขางอแงถ้าเราโอ๋เขาก็จะงอแงไม่หยุด ทุกวันนี้โฮมส์เป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้องไห้ ไม่ค่อยงอแง ถึงเวลาโตไปถ้าเขาจะต้องไปเจอปัญหาอะไรไม่ดุ ไม่ตี แต่น่าจะใช้วิธีคุย แต่เราก็ฝึกเขามาแต่เล็กให้เขาเป็นเด็กที่อยู่ง่ายกับทุกที่
- ถ้าโตมานิสัยเหมือนพ่อโอเคมั้ย ?
พอร์ช : ก็คงต้องดุบ้าง ก็คงต้องคุยกับเขา
- สมัยก่อนเป็นคนผาดโผนประมาณนึง แต่ตอนนี้พูดได้เลยว่ากลัวตาย ?
พอร์ช : กลัว ๆ มันไม่ห้าวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอมันมีอีกหนึ่งชีวิตต้องดูแล ไม่ได้กลัวตายอย่างเดียว กลัวเจ็บด้วย บางทีเล่นอะไรเสี่ยงที่จะเจ็บเรากลัวเพราะเราเลี้ยงเขา เดี๋ยวอุ้มเขาไม่ได้
- อาชีพใหม่ยูทูบเบอร์เป็นยังไงบ้าง ?
พอร์ช : สนุกมาก ทุกคนต้องรอคิวจากเราไง คอนเท้นท์กับโฮมส์เราคิดเองแต่ก็มีทีมช่วยคิดคอนเทนต์
- ต่อจากนี้ไปวางคอนเทนต์ช่องยูทูปไว้ยังไงบ้าง ?
พอร์ช : ช่องยูทูปผมส่วนใหญ่จะเป็นไลฟ์สไตล์ มีรายการท่องเที่ยว OKGO NOWHERE อันนี้ไปต่างจังหวัด แล้วก็ SARAN One Day อันนี้กว้างๆ 1 วันทำอะไรบ้าง แล้วก็มีกินข้าวกับน้องโฮมส์ มี UNBOX ของ ส่วนใหญ่จะเป็นคอนเท้นท์ที่ไม่ได้ยากมาก ที่เรามีเวลาเลี้ยงลูกได้ด้วย
- ถ้าวันนึงน้องโฮมส์โตขึ้นแล้วเขาได้ดูรายการนี้มีอะไรอยากจะบอกเขามั้ย ?
พอร์ช : อยากจะบอกก่อนเลยว่าเหนื่อยมาก ๆ เลยนะลูก แต่ก็ทำด้วยความเต็มใจ อยากให้เขาโตมาเป็นเด็กที่ดี ไม่ต้องเป็นเด็กที่เก่งหรอกแค่พูดรู้เรื่องและเป็นคนดีมีเหตุผลก็โอเคแล้ว ไม่ต้องเก่งหรอกเราอยู่ด้วยกันได้ โตไปด้วยกันได้
- รักเขาขนาดไหน ?
พอร์ช : รักมาก ๆ บางทีมันเป็นความเหนื่อยหรืออะไรก็ไม่รู้ บางทีเขาไม่กินข้าวที่ผมทำให้ผมจะร้องไห้แล้ว มันนอยด์ กลับไปทำกับข้าวอุตส่าห์ตั้งใจทำเขาไม่กิน