- การที่เราอยู่มาหลายยุค ได้เห็นตั้งแต่ทีวียันโซเชียลมีเดีย คนที่ดูทีวีวันนี้ก็มามือถือแล้ว ผมว่าสุดท้ายแล้วคอนเทนต์คือที่สุด ?
ไก่ วรายุฑ : เคยคิดนะ พี่ไก่ทำไมไม่ทำละครแนวตั้งแนวนอน 3 นาที 5 นาที บอกฉันทำไม่เป็น ยังคิดไม่ได้แบบเขา ซึ่งเราก็ดูของเขานะ ลองให้ลูกน้องไปทำ หนูก็ทำไม่ได้พี่ไก่ ซึ่งเราเคยคุยกันที่ออฟฟิศ แล้วใครจะเป็นคนทำก่อนใน 3-4 บริษัทที่อยู่ด้วยกัน สรุปก็ไม่มีใครทำให้เราเห็นได้ เรายังทำไม่ได้เลย เราต้องกล้ากว่านี้ไหม
- เคยแต่งงานแต่ไม่มีใครรู้ แล้วผมไม่เคยรู้ว่าอาไก่เคยแต่งงาน ?
ไก่ วรายุฑ : ไม่มีใครรู้เลยวู้ดดี้ จริง แล้วไปแต่งที่ญี่ปุ่นด้วย แต่งกับผู้ชาย แต่งกับคนดังด้วย
- ในวันนั้นเขาดังมาก ?
ไก่ วรายุฑ : เขาดังมาก พอ ๆ กับพี่น้องเขาเลย ดังระดับเท่ากันเลย แล้วก็ไปด้วยความรักกัน คือเราคบกันมานานแล้วนะ คบกันมาหลายปีจนถึงวันตรงนั้น ซึ่งเราจะมาบอกใครก็ไม่ได้นอกจากในกลุ่มเพื่อนเรา 10 กว่าคนที่ไปด้วยกัน แล้วทุกคนก็จริงเหรอพี่ไก่ เขายอมเหรอ ไม่รู้นะเขาเป็นคนบอกเราเองนะ ว่าเขาอยากเป็นแบบนี้ ซึ่งเขาทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ได้แค่ตรงนี้ที่เขาจะทำให้รู้ว่าเขารักพี่
- คบกันกี่ปีกว่าจะแต่ง ?
ไก่ วรายุฑ : ประมาณ 4-5 ปี ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่มีใคร ก็คบเขา ไปดูบอลโลกด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ไปอะไรด้วยกันต่าง ๆ นานา จนมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราอยู่ด้วยกัน เราสามารถอยู่ด้วยกัน 2 คนได้ ไม่เบื่อกัน รักกันไม่ทะเลาะไม่งอนกัน ทำให้เรารู้สึกว่าความรักหรือเปล่าหรือเป็นสิ่งที่เราโหยหาไหม แต่ในยุคนั้นเราก็โหยหานะ แล้วเราก็ได้ในสิ่งนี้มา รู้สึกว่าเป็นความภูมิใจของอาไก่ ที่มีผู้ชายแท้ ๆ คนหนึ่งอยากจะรู้สึกว่ารดน้ำกัน แล้วเพื่อนทั้งหลายที่ไปก็รดน้ำ เอาน้ำในวัดมารด พูดแล้วอยากร้องไห้ มีความสุขมาก แล้วเขาก็น่ารักกันเราจนถึงทุกวันนี้นะ
- เขาน่ารักมาก เป็นคนใสซื่อ อ่อนไหว ผมลืมไปเลยนะว่าเขาเคยอยู่ในวงการประมาณหนึ่ง แต่วันนั้นผมไม่ทราบว่าเขากับอาไก่คบกัน พอแต่งงานกันแล้วยังไงต่อ ?
ไก่ วรายุฑ : แต่งงานกันก็ยังคบกันเหมือนเดิม ไปมาหาสู่กัน เราไปบ้านเขา แม่เขาก็รู้นะ แม่เขาเอารูปคู่ตั้งไว้บนไซด์บอร์ดที่บ้านเลย เราก็ถามว่าเป็นแบบนี้เลยเหรอ เขาก็บอกแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แล้วก่อนที่ผมจะไปแต่งงานกับพี่ไก่ ผมก็บอก แม่ก็บอกว่าผมว่าลูกไม่ต้องแต่งงาน ลูกอยู่อย่างนี้แล้วกัน อยู่เป็นเพื่อนแม่ ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าจะมีใครสักคนหนึ่งที่อยู่เป็นเพื่อนแม่ได้โดยที่แม่รักคนคนนั้นด้วย ก็มีพี่ไก่นี่แหละ ซึ่งเรากับแม่เขาก็สนิทกัน เขาก็ยอมรับได้
- วันนี้ที่เราคุยกันได้มีโอกาสบอกเขาไหม ?
ไก่ วรายุฑ : บอก ก่อนเข้าเมื่อกี้ว่าถ้าคุยเรื่องเธอ แล้วเกิดขึ้นมาบอกไม่ใช่ ฉันต้องหน้าแตก ต้องอาย ก็เลย โทร. หาเขา แล้วบอกเขาว่าจะขอเอารูปลงได้ไหม รูปที่เราแต่งงานกัน (หัวเราะ) คืออาจจะบังหน้านิดหนึ่ง อาจจะให้คนเห็นว่าเป็นใครบาง ๆ เขาก็บอกเอาสิครับไม่เป็นไร แล้วเมื่อกี้ยังบอกเขาว่าถ้าพี่เข้ามาในรายการแล้วจะโฟนอินหาคุณนะ แล้วคุณจะว่ายังไงไหม เขาบอกถ้ามีเวลาก็ โทร. มาสิครับ
- ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน เขาเก่งนะตั้งใจทำงานเบื้องหลัง เป็นคนจิตใจดี นั่นคือสิ่งที่อาไก่หลงรักในตัวเขา ?
ไก่ วรายุฑ : ใช่ คือความซื่อ ความบริสุทธิ์ของเขา ทำให้เรารู้สึกว่าน้องคนนี้มันน่ารัก ไม่มีอะไรที่เสแสร้งเลยในตัว
- ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับระดับหนึ่งก็มีการแยกทางกันไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีใครในใจอย่างจริงจัง ?
ไก่ วรายุฑ : ไม่ได้มีเลย จนสุดท้ายก็ได้มาเจอเด็กเกาหลีที่เป็นข่าว เขาก็น่าเอ็นดูนะ เขาเป็นคนที่ไว้ตัวมาก ถ้าเผื่อคุยกันแบบเพื่อนฝูงก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าเผื่อมีความรู้สึกว่าคิดอะไรกับเขาแบบนั้น เขาจะถือตัว จะถูกตัว จะกอด เขาไม่ให้ ไม่ยอม อยู่ ๆ จะไปบุ่มบ่ามเลยไม่ได้ ต้องให้เขายอมรับเราก่อน สุดท้ายก็ตกลงคบกัน
- รู้จักกันนานหรือยัง ความสัมพันธ์เป็นยังไง ?
ไก่ วรายุฑ : คบกันประมาณปีกว่า ความสัมพันธ์คติของอาไก่คือ อยู่กับเราก็เป็นของเรา ไม่ได้อยู่กับเราก็ไม่ใช่ของเรา คิดแบบนี้คือเขาจะไปอะไรยังไงเขาเป็นผู้ชาย จะไปยังไงเราก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดหึงหวงโดยที่เราไม่เห็นดีกว่าก็ปล่อยเขาไป เพราะเดี๋ยวกลางเดือนนี้ก็จะไปหาเขาแล้ว ไลน์ไปบอกแล้ว เขาก็บอกว่าฉันจะรอเธออยู่ที่นี่ (หัวเราะ) คิดดูสิ คุยกันผ่านมือถือแชตกันทุกวัน
- ความสุขที่ได้มีใจกับคนคนนี้ ?
ไก่ วรายุฑ : ความชุ่มฉ่ำ ความสดชื่น เราก็กลัวว่าถ้าวันหนึ่งเขากลับไปที่นั่นแล้วพ่อแม่สังคมจะว่ายังไง เพราะเกาหลีมันปิดอยู่ไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งเขาไม่เป็นห่วงเลยแต่เราเป็นห่วงแทนเขา เขาบอกคุณไม่ต้องกลัวเดี๋ยวเราจัดการเองตรงนี้ เรามีความสุขเวลาอยู่กับคุณแค่นี้ก็จบ เขาก็ต้องมีใจให้เราบ้างน่ะ ถ้าไม่มีใจก็คงไม่ติดต่อกันถึงวันนี้