ทั้งนี้ ป๋อมแป๋ม นิติ เผยผ่านรายการ เจาะใจ ว่า ตนจบคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เอกบาลีสันสกฤต และได้มาทำงานเป็นครีเอทีฟ five live ของช่อง 5 ซึ่งป๋อมแป๋มก็ทำมาแล้วกว่า 10 ปี ก่อนจะได้เลื่อนมาเป็น executive producer ที่ gmm tv
ในช่วงปีแรก ๆ ของการทำงาน ป๋อมแป๋มได้มีเจ้านายคือ พี่ฉอด สายทิพย์ และพี่ฉอดจะให้ความสำคัญกับสคริปต์มาก ขนาดรายการเพลงยังต้องส่งสคริปต์ให้เขาตรวจ เวลาส่งงานพี่ฉอดก็จะมีคอมเมนต์กลับมา ป๋อมแป๋มซึ่งไม่เคยเรียนนิเทศศาสตร์มาเลย อาศัยลูกบ้าอย่างเดียว คิดอะไรก็ใส่ไป จนกระทั่งวันหนึ่งได้ฟีดแบ็กจากพี่ฉอดกลับมา ไม่มีคอมเมนต์ใด ๆ ใสสะอาด และเมื่อพลิกไปหน้าสุดท้าย ก็พบกับปากกาแดงที่มีน้ำหนักกดแรงมาก ด้วยข้อความว่า “ขอแก้ไขใหม่ทั้งหมด”
ตอนนั้น ควรจะเป็นโมเมนต์ที่ป๋อมแป๋มควรนอยด์ ท้อ หรือโกรธ ถ้ายุคนั้นมีเฟซบุ๊ก ป๋อมแป๋มคงโพสต์เหวี่ยงไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ป๋อมแป๋มไม่โกรธ ไม่เสียใจเลย เราก็ไปทำต่อ ส่วนหนึ่งก็เพราะมันคือหน้าที่ และที่เรารู้สึก คนที่มาคอมเมนต์คือ พี่ฉอด = คนเก่ง = คนเก่งมาคอมเมนต์เรา
ในโมเมนต์นั้น ทำให้เรารู้ว่า คนเราจะทำงานมี 2 ประเภท คือ งานสายทักษะ เช่นพนักงานธนาคารที่สามารถนับเงินได้ไว พิมพ์ได้ไว ยิ่งทำยิ่งคล่อง และงานสายครีเอทีฟคือ เรายิ่งทำยิ่งโง่ ยิ่งทำเรายิ่งไม่รู้ หากเราได้แต่งานง่าย แสดงว่าเราไม่ใช่คนเก่ง งานครีเอทีฟคืองานที่ต้องมีงานยาก ๆ เข้ามาตลอดเวลา เวลาเจอโจทย์ต้องมีคำถามว่า จะทำยังไง มันต้องมีโมเมนต์ที่เราไม่รู้ ก่อนที่เราจะรู้ และได้สร้างสิ่งใหม่
และจากนั้น เราทำงานครีเอทีฟ เราไม่เคยกลัวงานหนัก งานยาก งานด่วน คอมเมนต์ เพราะนี่คือสิ่งที่เราต้องเอาชนะมันให้ได้