หลังจากที่ แม่ชี กิ๊ก มยุริญ ออกลาสิกขาบวชเมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดแม่ชีกิ๊ก ได้กลับมาเมืองไทย หลังห่างหายไปบวช 9 เดือนและเตรียมที่จะลาสิกขา พร้อมบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการบวชในเมียนมาให้ฟังกัน
ทั้งนี้ แม่ชี กิ๊ก มยุริญ ได้เผยกับ วันบันเทิง ว่า ตนเพิ่งกลับมาจากพม่าเพราะมีความจำเป็น หลังจากที่ไปบวชได้ 9 เดือน ตอนนี้ตนยังคงเป็นแม่ชีเหมือนเดิม แต่คาดว่าอีกไม่นานก็คงลาสิกขา เพราะมีงานที่รับไว้และต้องรับผิดชอบ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนกลับมาในสภาพแม่ชี เพราะครั้งก่อนตนลาสิกขาที่พม่าเลย
เรื่องของสถานที่ก็สัปปายะ มีแต่เรื่องไฟฟ้าที่ไม่มา หรือไฟฟ้าติด ๆ ดับ ๆ จนแม่ชีเกือบออกจากกรรมฐานกลางคันเพราะกลัว กุฏิก็ปิดทึบ และอยู่ได้ด้วยแสงสว่างจากไฟฟ้า บางที 24 ชั่วโมง ไฟมา 1 ชั่วโมง เลยเป็นความเครียด ไม่พอใจสะสม แต่เราก็ใช้กำลังกำหนดสติที่พระพุทธเจ้าสอน จนแม่ชีสามารถข้ามผ่านได้ อะไรที่เป็นทุกข์หรือเราไม่ชอบ หากเราใช้การกำหนดสติและขอทางสำนักว่าขอให้มีเพื่อนมานอน เราก็ข้ามผ่านมันได้ เราจะเห็นว่าวิชาของพระพุทธเจ้านั้นสุดยอด จนเราสามารถเอาชนะกิเลสในใจของเราได้จริง และต้องขอบคุณกัลยาณมิตรจากเมืองไทยที่ช่วยเหลือ ด้วยการรวบรวมเงินจากไทยไปซื้อเครื่องปั่นไฟ การให้ปัญญา คือการให้แสงสว่าง มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ตอนนั้นแม่ชีกำหนดสติว่า กลัว กลัว กลัว จนเห็นว่ามีธาตุลมห่อหุ้มจิตใจเรา เราก็กำหนดสติและสุดท้ายก็ข้ามผ่านความกลัวได้แล้ว แต่ขออยู่ไม่มืดดีกว่า
การบวชครั้งนี้ แม่ชีดีใจมากที่ตัดสินใจไปบวช แม้ว่าหลายคนบอกว่าอย่าเพิ่งไปเลย แต่แม่ชีตามหัวใจตัวเองเพราะแม่ชีรู้สึกว่ากำลังบุญหมดแล้ว เลยตัดสินใจไป พอไปแล้วเราก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมเต็มกำลัง และได้ธรรมะ สมควรกับความเพียรที่เราได้ลงทุนลงแรงไป ชีวิตนี้ขอบคุณพระพุทธเจ้ามาก ทำให้เรามีความสุขในชีวิตที่ไกลจากกิเลสได้จริง ๆ
ส่วนเรื่องงานในวงการ ตนก็ยังทำอยู่ การที่เราไปบวชทำให้เรารู้ว่าเรายึดมั่นถือมั่นกับอาชีพนี้มากแค่ไหน ตอนนี้อาจจะลดน้อยลงแล้ว ติดสวย แต่ตอนนี้ออกทีวีด้วยหน้าสดได้แล้ว เมื่อลาสิกขาก็ยินดีที่จะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงและทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา งานบางอย่างเราก็ทิ้งให้พาร์ทเนอร์ทำ ตอนนี้ก็จะกลับมาแล้ว แต่ขอคุยกับพาร์ทเนอร์ก่อน
ส่วนในรายการ รอบวัน แม่ชีกิ๊ก เผยว่า เหตุที่ตนไปบวชที่เมียนมานั้น เพราะครูบาอาจารย์ที่ตนปฏิบัติด้วย เป็นชาวเมียนมา ซึ่งจุดที่บวชอยู่แถวชานเมืองย่างกุ้งห่างประมาณ 1 ชั่วโมง และเหมือนเมืองไทยเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และเราก็ปิดวาจาด้วย การไปตรงนั้น วัฒนธรรมเป็นแบบนั้น ทำให้เราเหมือนคนทั่วไป ตอนแรกตนตั้งใจจะไปบวชปฏิบัติธรรม 1 ปี แต่ทางเมียนมามีสถานการณ์ความไม่สงบ ทางสำนักไม่สบายใจ และให้แม่ชีกลับ หากในอนาคต ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ แม่ชีก็อาจจะได้กลับไปปฏิบัติธรรมต่ออีก 3 เดือน
เมื่อ 4 ปีก่อน แม่ชีไปบวชพร้อมกับน้องสาว แต่ครั้งนี้ไปคนเดียว นอนคนเดียว ทำให้เรารู้ว่าการอยู่คนเดียว 9 เดือน ไม่ธรรมดา แต่ละวันจะตื่นตี 3-ตี 4 แล้วเดินจงกรม นั่งสมาธิ จากนั้นก็กินข้าว และเดินจงกรม นั่งสมาธิ และไปสอบอารมณ์