ล่าสุด (24 กันยายน 2567) แพรว เฌอมาวีร์ ได้เดินทางมาร่วมงานศพ อ๋อม อรรคพันธ์ ก็ได้เปิดใจถึงการจากไปในครั้งนี้ด้วยว่า จริง ๆ เราเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่รู้เรื่องอาการป่วยของพี่อ๋อม ตอนนั้นถ่ายเรื่องเสือสั่งฟ้า ภาค 3 เป็นช่วงที่ใกล้ปิดกล้องแล้ว ละครเริ่มออนแอร์ไปตอนแรกแล้ว แต่ตอนนั้นเราแค่คุยกันภายในกอง ก็ตกลงกันว่าเราจะไม่มีใครพูดเรื่องนี้ออกไป ยอมรับว่าตกใจมาก ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดระบาดด้วย คู่หลักและคู่รอง 4 คนทำท่าจะเป็นโควิดกันหมดเลย และพวกแพรวก็คิดว่าทุกคนเป็นโควิด ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดอะไรที่ร้ายแรงกว่าโควิด
ตอนนั้นแพรวเป็นโควิดหยุดกองไปอาทิตย์กว่า เรากลับมาก็คิดว่าจะเจอพี่อ๋อม แล้วพี่ในกองเลยเอาเราไปนั่งคุยว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตอนนั้นตกใจและใจหายมาก พี่พีอาร์กองที่สนิทกับพี่อ๋อม เขามาคุยกับแพรวและนักแสดงในกองว่าจะไม่มีใครพูดเรื่องนี้ นักแสดงและทีมงานทุกคนก็น่ารักมาก ให้เกียรติ คืองานมันเพิ่มแต่ไม่มีใครปริปากเลยสักคน ตอนนั้นถึงจะฉุกละหุกหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ แพรวไม่กล้ากวนพี่อ๋อมเยอะ ก็มีการส่งของขวัญไปให้นิดหน่อยและส่งของเยี่ยมไปให้ และพี่พีอาร์ของกองจะรับหน้าที่คุยกับทีมละครเสือสั่งฟ้า แล้วก็ส่งผ่านไปให้พี่อ๋อม
แพรว ยังยอมรับว่าตัวเองเป็นแฟนคลับของ อ๋อม มาก่อนจะได้ร่วมงานกันด้วย ตอนที่ได้ร่วมงานกันดีมาก ๆ ซึ่งละครเรื่องแรกในชีวิตของแพรว พี่อ๋อมก็เป็นพระเอก ตอนนั้นเป็นเรื่องชิงนาง เราเป็นนางรอง ประกบพี่อ๋อมด้วย คือตอนนั้นแพรวยังประมาณ 19-20 เพิ่งจะปี 1 ยังเล่นละครไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายเลย แล้วแพรวต้องอยู่พี่อ๋อมเยอะมาก พอๆ กับที่พี่อ๋อมอยู่กับพี่รถเมล์เลย แต่พี่อ๋อมไม่เคยโมโหหรือทำท่าทางอารมณ์เสียใส่แพรวเลยเวลาแพรวเล่นไม่ได้ ตอนนั้นแพรวห่วยมาก ๆ เลย แต่พี่อ๋อมก็น่ารักคอยให้กำลังใจตลอด
และแพรวก็เขินพี่อ๋อมมาก เพราะชอบพี่อ๋อมจากพระจันทร์ลายพยัคฆ์ พอโพลีพลัสมีให้เวิร์กช้อปตัวละคร พี่อ๋อมผ่านมาก็มานั่งกินขนมดูแพรวเวิร์กช้อป แล้วก็ให้กำลังใจ เราก็เลยรู้สึกว่าพี่คนนี้เป็นพระเอกน่ารักมาก มีวินัย ทำงานเก่ง ไม่ถือตัวกับเด็กใหม่ เขาควรจะรำคาญด้วยซ้ำในวันนั้น เราก็เลยรู้สึกประทับใจมาก แล้วก็ไม่มีโอกาสร่วมงานกันเลย จนมาเสือสั่งฟ้า ซึ่งมาเป็นเรื่องสุดท้ายของพี่อ๋อมด้วย
หลังรู้เรื่องก็น้ำตาจะไหล เหมือนใจหาย เพราะเราโตมากับเขา ตอนที่เรายังไม่เข้าโพลีพลัส แพรวชอบพี่อ๋อมจากพระจันทร์ลายพยัคฆ์มาก กรี๊ดเป็นเอฟซีเลย แล้วพอเราได้มาร่วมงานกับเขาเราก็รู้สึกว่ามันเหมือนฝัน เราเคยชื่นชมเขาในจอทีวี แล้วเราได้ร่วมงานกับเขาจริง ๆ จนวันนี้ยังรู้สึกว่าเขายังหนุ่มยังแน่น ยังมีแรง ก็รู้สึกว่าเทวดาเอาตัวพี่เขาเร็วเกินไป
สิ่งที่จะเอาเป็นต้นแบบจากพี่เขาก็คือความอดทนกับคนที่เป็นมือใหม่อย่างเรานี่แหละ คือต้องใจเย็นมาก ๆ ซึ่งพี่เขาก็เคยบอกแพรวว่าเขาก็เคยผ่านมาเหมือนกัน เขาเข้าใจทุกอย่างเลย บางทีร้อน ๆ เหนื่อย ๆ คนเรามันมีหลุดกันได้ แต่พี่อ๋อมไม่เคยหลุดเลย นับถือน้ำใจพี่เขามาก ๆ พี่เขาเป็นลูกผู้ชายมาก ๆ เขาให้กำลังใจแพรวตลอดเวลา ยิ่งเขามาให้กำลังใจหนูยิ่งเขิน เพราะเราเป็นเอฟซีเขาไง ตอนเรื่องสุดท้ายเสือสั่งฟ้า แพรวทั้งร้อน ทั้งยม แต่พี่อ๋อมเหนื่อยกว่าแพรว 2 เท่า คือแพรวเล่นแค่พาร์ตดราม่า แต่พี่อ๋อมมีทั้งพาร์ตดราม่า ทั้งบู๊ แต่พี่เขาก็ยังหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตลอด แพรวรู้สึกว่าสปิริตในการทำงานของผู้ชายคนนี้สุดยอดมาก ๆ
สาวแพรว ยังเผยสิ่งที่อยากพูดกับ อ๋อม ด้วยว่า "พี่อ๋อมวันนั้นที่หนูส่งของกินไปให้ หนูขอโทษนะที่หนูสั่งเนื้อวัวไป หนูไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่ไม่กินเนื้อวัวค่ะ รู้สึกผิดมาก แล้วพี่พีอาร์มาบอกทีหลัง ถ้ารู้ว่าจะเป็นการส่งของกินให้ครั้งสุดท้าย หนูก็จะส่งของที่พี่ชอบไปให้ค่ะ ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนอย่างพี่ และยินดีที่ได้มีประสบการณ์ได้เป็นนางเอกของพี่ครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ"
ขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา