จากกรณีที่อดีตนักแสดงสาว กบ พิมลรัตน์ ถูกโยงข่าวลืออักษรย่อว่าเป็น เจ้าหญิง ก.ไก่ สามีมี 2 บ้าน ล่าสุด (1 ตุลาคม 2567) กบ พิมลรัตน์ ถึงเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัวกับสามีนักธุรกิจ ประสพ พลากรกิตติ หลังถูกโยงถึงข่าวลือเรื่องชีวิตครอบครัว ในรายการคุยแซ่บshow
โดย กบ พิมลรัตน์ ได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ในส่วนของสามี กบเคยทราบว่าเคยมีครอบครัวมาก่อน แต่ตอนมาแต่งงานก็เคลียร์เรียบร้อย เราตัวติดกันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ยกเว้นเวลาเขาไปทำงาน เป็นแบบนี้ทุกวัน มันมีเหตุการณ์สะสมหลาย ๆ อย่าง ทั้งที่เราอดทน และเราทนไม่ไหวแล้ว ที่ผ่านมาเราดีลกับตัวเองได้ เรายอมรับ สิ่งที่เราทนไม่ได้คือ ชอบบอกเลิกตลอดเวลา เราคิดว่าเขาคงมีปม คงมีเหตุและผล ก็พยายามเข้าใจเขา แต่หาเหตุผลไม่เจอ เราได้บอกเขาไม่พูดได้ไหม มีการหยุดไปสักพัก แต่หลัง ๆ ก็มีการบอกให้ยกของออกไปจากบ้าน ให้กบยกของออกไป ปีที่แล้วจะบอกเลิกรายเดือน ไม่มีสาเหตุ เรายังเป็นเหมือนเดิมนะ เรื่องที่หาจุดลงตัวได้ก็กลับมาเป็นประเด็นอีก
อะไรเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ตัดสินใจเลิก ?
กบ พิมลรัตน์ : ก็เนี่ยแหละค่ะ เป็นประเด็นที่ชอบบอกเลิก และให้ยกของออกนั่นคือฟางเส้นสุดท้าย มันก็ยังมีหลายอย่างที่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็ให้เขามาคุยกัน
สาเหตุที่เลิกเพราะมีเพจข่าวที่ออกมาพูด ?
กบ พิมลรัตน์ : ที่หยุดเพราะมีเพื่อนเขาส่งรูปมาให้ ตอนนั้นอยู่ในขั้นต่อรอง หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจแล้วนิ่งเงียบ หลังจากนั้นก็ให้คนส่งรูปมาให้ว่าเขาไปเปิดตัวครอบครัวกับคนอื่นเรียบร้อยแล้ว
ทราบมาก่อนไหมเขาเคยมีครอบครัวมาก่อน ?
กบ พิมลรัตน์ : คือก่อนหน้านี้รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว ตอนมาแต่งงานก็เคลียร์เรียบร้อย เราตัวติดกันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ยกเว้นเวลาเขาไปทำงาน เป็นแบบนี้ทุกวัน เรารู้สึกปลดล็อกนะหลังได้เห็น (ร้องไห้) ไม่ได้ช็อก แต่ปลดล็อกตัวเอง เหมือนกับว่ามันหมดพันธการแล้ว เหมือนเราอยู่ด้วยความรักและประคับประครองให้ดีที่สุด นิสัยเราเป็นคนชอบทำงาน ทำงานตั้งแต่ 10 กว่า ทำงานตั้งแต่เด็ก เราไม่อยากเป็นภาระให้ใคร ชอบหาเงิน
ปลดล็อกหมายถึงอะไร ?
กบ พิมลรัตน์ : ไม่ได้ไปยึดติดกับเขาแล้ว เหมือนได้กลับมาเป็นตัวเอง เหมือนก่อนหน้านี้ที่เขาเราหลาย ๆ อย่างที่เขาขอ มันเป็นความชอบของเราเลย ไม่อยากให้ทำงานในวงการ ไม่อยากให้แต่งตัวแบบนี้ ไม่ชอบให้คบเพื่อน และอื่นๆ อีกมากมาย ตอนแรกก็พยายามต่อรองมากที่สุด ว่าคนเราต้องมีสตางค์เป็นของตัวเอง เราเข้าใจว่าเขาดูแลเราได้ คือแต่เราก็ต้องมี ที่ยอมแกเพราะว่าช่วงที่คบยังมีการโปรโมตหนังเรื่องอื่นอยู่แต่พอกลับมาแล้วก็ทะเลาะ เขาเลยบอกอยากให้เราโฟกัสที่ธุรกิจเขาดีกว่า
ทำไมถึงยอมมาตลอด 9 ปี ?
กบ พิมลรัตน์ : จริง ๆ หลังโควิดเขาก็ให้เรากลับมาทำงานแล้ว แต่บทยังไม่พอใจ พอตอนที่เขาไม่ติดเราก็มองเป็นโอกาสเราก็เริ่มมาทำคอนเทนต์เรื่องความงามมากขึ้น แต่เขาก็มองว่าน่าเกลียดทำไมต้องมาชายหน้าชาตา ซึ่งมันก็เป็นรูปแบบการทำงานของเรา
ตลอดที่แต่งงานกัน 9 ปี มีความสุขจริง ๆ ใช่ไหม หรือแกล้งเอาใจสามี ?
กบ พิมลรัตน์ : ผ่านมา 9 ปีทั้งมีความสุขจริง ๆ และแกล้งมีความสุขเอาใจสามี (ร้องไห้) อย่างนึงก็คือเรารู้ว่าเรามีใคร อย่างที่สองคือตั้งใจจะประคับประครองให้ดีที่สุด การตัวติดกันมันก็อบอุ่น หรือเวลาเราทะเลาะกันแค่นอนที่อกมันก็รู้สึกอบอุ่น บุคลิคเขาเราก็มองว่ามันน่ารัก ด้วยอายุที่ห่างกันมันก็จะมีความน่าเอ็นดู น่ารัก
เขาเข้าใจเราบ้างไหม ?
กบ พิมลรัตน์ : คิดว่าเขาไม่เข้าใจเรานะ บอกว่าเข้าใจ แต่เวลาคุยทุกอย่างที่คุยกันจะเป็นไปในทิศทางเขาเสมอ ถ้าคุยไม่ลงตัวก็จะปรับไปทางจิตแพทย์ บอกเราคิดไปเอง บ้าหรือเปล่า ไปหาหมอไหม เจอมาก ๆ เข้า เราก็เลยสงสัยในตัวเอง ไม่ชอบในตัวเอง วันที่เขามาคุยกันเราเขามีการมาปรับทุกข์ว่าเขามีความผิดพลาดในการมีครอบครัวมา และคุยกับเราว่าอยากจะมีครอบครัวที่ดี
อายุห่างกัน 19 ปีมีส่วนผรับจูนยากไหม ?
กบ พิมลรัตน์ : ยากค่ะ ก็ไม่มีประสบการณ์คบคนที่โตกว่า คนนี้คนแรก เขามาจากครอบครัวคนจีนจัด ๆ เราก็ไทยจัด ๆ ก็เลยต้องปรับกันทุกเรื่องเลย
ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า ?
กบ พิมลรัตน์ : ก็ต้องแต่เราสงสัยว่าเราไม่ดีพอ
เป็นซึมเศร้าแล้วไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เลย ?
กบ พิมลรัตน์ : อาการไม่อยากตื่น ไม่อยากให้ฟ้าสว่าง ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่มีคุณค่า เพราะเกิดจากที่เราไม่ได้ทำงาน งานที่เรารักนะ งานของเขาเราก็ดูแลในส่วนของพีอาร์ มาเก็ตติ้ง และซัพพอร์ตเขามากกว่า
ความรู้สึกตอนนี้ยังมีไหม ?
กบ พิมลรัตน์ : ไม่มีนะ ตั้งแต่รู้สึกปลดล็อก 24 ชั่วโมงยังไม่เคยพอเลย ได้ทำนั่นทำนี่แล้วไม่มีใครมาว่า โลกซึมเศร้าก็ดีขึ้นยาลดลง ก็คุมอาการ ช่วงที่บอกเลิกกันก็เดอะแบก แบกไว้กับตัวเอง มีช่วงนึงหยุดแล้วหายไปแล้ว พอทำตามเขาปัญหาก็ไม่มี เราก็แลก ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากเขา
ตอนนี้ใช้คำว่าเลิกแล้ว แต่เคลียร์กันไม่ลงตัว ?
กบ พิมลรัตน์ : ใช่ค่ะ คือหลังเลิกแล้วก็ยังเคลียร์ไม่ลงตัว เพราะเราบอกให้เขามาคุย เขาก็ส่งคนมาคุยก็ยังไม่ลงตัว มีการต่อรองแบบที่ข่าวออกไป อย่างขอไปอยู่กับลูก 2 วัน ก็เพิ่มเลเวลแบบที่ข่าวออก 50/50 เราก็เข้าใจไม่ใช่ไม่เข้าใจ เลยคิดว่าพอดีกว่า
ใช้ชีวิตอยู่กับเขา 9 ปีทำไมไม่มีการจดทะเบียนสมรส ?
กบ พิมลรัตน์ : เราคุยกันตั้งแต่แรก แต่ก็ยังไม่มีการทำ เป็นส่วนนึงที่เราฟ้องด้วย คือมันมีการคุย เขาทำเกี่ยวกับธุรกิจไม่ขอลงดีเทล 5 ปีจะจดทะเบียน อีก5 ปีเราก็ถามอีกก็มีเหตุผลอีก เราก็ทวงถามก็กลายว่าเราเป็นคนไม่ดี ในกรณีของเรามันมีการตกแต่ง ถึงไม่มีลายลักษณ์อักษรตามที่ตกลงไว้แต่มันมีภาพออกไปแล้ว
ทนาย : เป็นเรื่องของผิดสัญญาหมั้น เพราะฉะนั้นการหมั้นคือการให้สัญญาว่าจะสมรส และไม่สมรสสิ่งที่เรียกได้คือค่าชดเชย สามารถเรียกร้องได้
หลังจากที่ฟ้องเขาติดต่อมาบ้าไหม ?
กบ พิมลรัตน์ : หลังจากที่ฟ้องไปก็มีติดต่อให้ไปเจอ แต่ไม่ให้เอาทนายไป ให้คุยกันเพื่อปรับให้ลงตัว เขาก็ยืนยันอยากจะเจอส่วนตัว ที่ยื่นโนติสเพราะเรารู้สึกว่าถูกริดรอนสิทธิ์และไม่ถูกทำตามสัญญา
อยากให้จบลงยังไงเรื่องนี้ ?
กบ พิมลรัตน์ : ก็อยากให้มีความเป็นธรรมที่สุด
ถ้าเขาเปลี่ยนใจ และกลับมาคุยสามารถปรับเปลี่ยนได้ไหม ?
กบ พิมลรัตน์ : คิดว่ามันสายเกินไปแล้วค่ะ
ยังรักเขาอยู่ไหม ?
กบ พิมลรัตน์ : ต้องตัดใจค่ะ คนเรามันรักกันอยู่แล้วคบกันมาขนาดนี้
เรื่องที่เกิดขึ้นสอนอะไรบ้าง ?
กบ พิมลรัตน์ : ควรจะรักตัวเองมากกว่าคนอื่น เราดีกับคนได้มีเมตตากับคนได้ แต่ต้องเลือกให้ถูกคน
เห็นว่าจะบริจาคร่างกายด้วย ?
กบ พิมลรัตน์ : ไหน ๆ ก็ได้ชีวิตใหม่กลับมาแล้ว ก็จะส่งต่อตัวเราให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น ก็หลังจากนี้ก็จะไป