ชิน ชินวุฒ ขอควงว่าที่ภรรยานางเอกสาว ลิลลี่ ภัณฑิลา เปิดใจโมเมนต์ขอแต่งงานน้ำตาแตกที่แรก โดยทางสาวลิลลี่เผยว่าจับโป๊ะได้ตั้งแต่แรก พร้อมอัปเดตเรือนหอมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท และสาเหตุหลังปลดอดีตผู้จัดการคนดังออก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 (8 ตุลาคม 2567) ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เรื่องแรกที่เจอกันคือเรื่องอะไร ?
ลิลลี่ : ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย ค่ะ สิบปีแล้ว
10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคุณชินเล่นเป็นเพื่อนนางเอก ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าจีบกันในกอง แต่พอเริ่ม ๆ ไปสักกลางเรื่อง จำได้ว่าถ่ายแถวลาดพร้าว ทำไมลิลลี่กับชิน ต้องกินข้าวพร้อมกัน ทำไมรอกัน ทำไมไปนั่งกินด้วยกัน เริ่มมีความรักเกิดขึ้นในกองละคร ทำไมถึงปิ๊ง ?
ชิน : เราอยู่ในกองแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นธรรมชาติ เราชอบคนธรรมชาติ พอคุยกันไปมา ก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ารักมาก แล้วล่าสุดแม่มาเล่าให้ฟังว่ามีอยู่วันนึงผมกลับบ้านไป แล้วอยู่ดี ๆ ก็เล่าให้แม่ฟังว่า เราเจอคนนึงมา เขาธรรมชาติจังเลย ชอบ ก็จำไม่ได้ จนล่าสุดเหมือนไปสู่ขอ แม่เล่าให้ฟังว่าเธอจำได้มั้ย วันนั้นพูดอย่างนี้ แต่เราจำไม่ได้ ซึ่งก็น่าจะชอบเขามากจริง ๆ ก็เลยเริ่มคุยมากขึ้น เริ่มจีบ
รู้สึกว่าเขามีใจตอนไหน ?
ลิลลี่ : เล่าแบบรวบ ๆ มีคิวนึง น่าจะคิว 3-4 เราต้องอยู่ด้วยกันทั้งวัน ซึ่งแต่ละคิวมันนาน ถ้าไม่คุยกับเขาจะคุยกับใคร ก็คุยกันแบบเพื่อนปกติ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ก็รู้สึกเขาเป็นคนเรียล ๆ คนนึง โคตรผู้ชายแมน ๆ แล้วต้องย้ายโลเกชั่น แต่ชินเขาขอเรา ให้ส่งโลเกชั่นให้หน่อย ให้เอาไลน์มา หนูก็รู้สึกว่าเอ๊ะ แปลก ๆ ตอนนั้น ผ่านไปกองเลิกตอนตี 3 เขาไลน์มาเลย ถึงบ้านหรือยัง เราก็..ไม่จำเป็นต้องถามก็ได้ หนูก็รู้สึกว่าแปลก ๆ แล้ว จากนั้นเหมือนเขาทักมาเรื่อย ๆ แรก ๆ เราไม่ได้คุยกันเหมือนจีบหวานมากนะพี่ เขาหายไปเยอะมากด้วย
เริ่มในกองเรื่องนี้ มีคนปรามาสว่าไม่นานหรอก คือคุณพุฒ ?
พุฒ : อยากขอโทษมาก ๆ ตอนนั้นพอรู้ว่าเขามีความรักในกอง กับชินเรารู้จักกันอยู่แล้ว น้องผมคนนี้ไม่ใช่เสือธรรมดา มันเป็นเสือที่หากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน (หัวเราะ) เราคิดว่าไม่น่าคบกันนาน แต่ไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้นก็เจอชินอีก เล่นละครกัน 3 เรื่อง จน 10 ปีผ่านไป เขาขอแต่งงานกัน ผมแฮปปี้มาก ผมเคยพูดว่าถ้าใครก็แล้วแต่ เคยเป็นเสือมาก่อนแล้วเจอคนที่ใช่ เขาจะยอมทิ้งทุกอย่าง
ชิน : ทำไมคุณเชี่ยวชาญการเป็นเสือมาก (หัวเราะ)
พุฒสิ้นลายไปก่อนแล้ว ชินก็อยู่ในร่องในรอยมาตลอด จนการขอแต่งงานเกิดขึ้น แต่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เห็นว่าเป็นฤกษ์ตามหมอดูบอกไว้ว่าต้องเป็นวันนั้น ?
ลิลลี่ : เราดูดวงประจำปี หนูดูดวงไม่บ่อย ดูดวงปีละครั้งก็พอ เขาบอกว่าใกล้ ๆ นี้ต้องมีฤกษ์มีชัยแล้วแหละ เราก็คิดว่าปีนี้แน่ โดนขอแน่เลย หนูไม่รู้ว่าเขามีความคิดตรงนี้บ้างหรือเปล่า หรือเขาฟังแล้วผ่านไป
ชิน : เป็นช่วงที่พอดี อีกสองวันผมต้องบินไปไต้หวันด้วย คิวลี่ยุ่งมาก สิ้นเดือนที่แล้ว วันนั้นคือวันเดียวที่ว่างอยู่
ลิลลี่ : ตอนแรกคิดในใจว่าวันที่แอนนิเวอร์ซารี่นี่แหละ สิบปีแล้ว สักที คิดในใจ เพื่อนไลน์มาว่ามึง กูคิดว่าใช่ ทุกคนรอ เราก็กินข้าวกันปกติ จังหวะเขาขอมือหน่อย หนูคิดว่ามาแล้ว ๆ ก็บอกว่าจะขอก็ขอมาเลย หนูชิลแล้ว เขาจับมือปกติ อ้าว ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แล้วเขาถามว่าเธอมีคิวว่างเมื่อไหร่ สุดท้ายล็อกคิว 28 เลย ไม่ได้คิดว่าเขาจะขอแต่งงานนะ เพราะคิดว่าไปกินข้าวกับครอบครัว แค่นั้นเลย
ชิน : ผมกับเขาอยู่ด้วยกันจนรู้หมดแล้วว่าอะไรยังไง เขาก็ต้องมีสะกิดนิดนึง ปกติไม่ได้ขอเป็นคิว ปกติจะถามว่าว่างมั้ย แล้วไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร บอกแค่ว่าไปกินข้าว ปกติไม่ได้ขอคิวไปกินข้าว แต่จะให้ผมพูดว่าอะไร หาเหตุผลยากมาก แล้วลี่เป็นคนเซอร์ไพรส์ยากมาก
ลิลลี่ : หนูเป็นนักสืบ นาตาชาเข้าร่างตลอดเวลา จะสืบคนรอบข้างหมดเลย เราต้องแอ็กชั่นบ้างแล้ว
ชิน : เราก็เข้าใจ ผู้หญิงถูกขอแต่งงานก็อยากดูดี วันนั้นนางมาเต็ม พร้อมมาก
จับโป๊ะได้มั้ย ?
ลิลลี่ : จับโป๊ะได้หลาย ๆ อย่าง แม่หนูถามตั้งแต่เดือน 8 ว่าเดือนหน้ามีงานที่ต้องแต่งหน้ามั้ย หนูบอกว่ามีงานที่ต้องแต่งหน้าทั้งวันเลย เขาบอกดีแล้ว แต่งหน้าสวย ๆ นะ อ้าว งงมั้ย ร้อยวันพันปีแม่ไม่เคยถามไง คนขับรถหนู คุณลุงสุดที่รัก ปกติขึ้นรถปุ๊บ ลุง ไป เหยียบ แต่ลุงขับ 60 ช้ามาก หนูก็ถามว่าลุง ทำอะไร ขับเร็ว ๆ ลุงบอกว่าลุงมีธุระ ยางไม่ค่อยดี ฟังไม่ค่อยขึ้นแล้ว จังหวะที่โป๊ะที่สุด หนูหลับไปแล้วบนรถ พอตื่นขึ้นมา เฮ้ย จังหวะกำลังเลี้ยวเข้า รายงานใครเอ่ย พอเลี้ยวเข้าหมู่บ้านรู้เลย ก็ลิปก่อน ขาดไม่ได้เลย พอเข้าบ้าน ผู้ช่วยสุดที่รักเดินตัดผ่าน โป๊ะเชะ ใช่แน่ ๆ
ชินวางแผนเซอร์ไพรส์ยังไง ?
ชิน : ผมเลือกที่บ้าน เพราะผมรู้สึกว่าเป็นที่ที่เราจะสร้างอนาคตด้วยกัน เป็นกราวน์ของเรา เป็นที่ของเรา ที่หลังจากนี้เราจะสร้างทุกอย่างร่วมกัน ผมรู้ตัวว่าถ้าเตรียมการเยอะผมจะล่กมาก วันนั้นเลยซื้อร่มมา คืนนั้นผมนอนตีห้าตื่นมา 7 โมง ตัดสติ๊กเกอร์ยู วิล แมรี่ มี ผมตัดเองเลย นั่งทำกับคุณแม่
ลิลลี่ : หนูเซอร์ไพรส์มาก เพราะเขาเสร็จตีสี่ นอนตีห้า พี่ชินเขาตื่นเที่ยงแน่นอน หนูกะเลื่อนเวลาให้เขาเลย ถ้าเขานอนหนูจะไม่ยุ่งเลย แต่อยู่ดี ๆ กู๊ดมอร์นิ่งตอน 9 โมง มันโคตรแปลกอีกแล้ว
ชิน : ทำทุกอย่างเอง การใช้เงินกับการให้คนอื่นทำอะไรแบบนี้ให้ มันไม่เมคเซ้นส์สำหรับผม ผมเลยรู้สึกว่าความที่เราทำด้วยตัวเอง มันมีความสุขกว่า
ดีดกีต้าร์ด้วย วางแผนไว้ตอนไหน ?
ชิน : ตอนแรกเป็นเพลงของโดม น้องรักผมมาก ทักโดมไปว่าโดมว่างมั้ย แต่โดมติดสตูฯ ทั้งวัน มาไม่ได้ เป็นเพลงรักนาน ๆ ของโดม ที่ลี่ชอบมาก เราก็ซ้อม ๆ ๆ รันทูด้วย ซ้อมยันไปยืนอยู่ข้างหน้าเลย ซ้อมแล้วซ้อมอีก ยืนอยู่ตรงนั้น เดินเข้ามาเท่านั้นแหละ คอร์ดแรก คอร์ดไรวะ คอร์ดซีที่ง่ายที่สุดในบรรดาทุกคอร์ด กูเล่นผิดตั้งแต่คอร์ดแรกเลย
ลิลลี่ : เพลงก็ไม่ร้อง จนผู้ช่วยบอกว่าร้องสิเพลงอ่ะ
ชิน : ร้องไห้อยู่ (หัวเราะ) ร้องเพลงเสียงเพี้ยนเลย ตัวสั่น สักครั้งในชีวิตเนอะที่เราจะขอผู้หญิงคนนี้ให้มาอยู่กับเรา ดูแลกันไปตลอดชีวิต เป็นโมเมนต์ที่อธิบายยาก
ส่วนมากผู้หญิงมักร้องไห้ แต่อันนี้ชินร้องไห้ ลิลลี่ก็หูดับ ?
ลิลลี่ : เพื่อนหนูทุกคนดูคลิปแล้วบอกว่าไม่ใช่มึงเลย ถ้าหนูเจอพี่ชินร้องไห้ หนูจะโฮกับเขาแล้ว แต่ตอนนั้นหนูช็อกอยู่ หนูเข้าใจโมเมนต์ที่ทุกคนบอกว่าในหูมันวิ้งไปเลย หนูจำอะไรไม่ได้เลย เชื่อมั้ยแม่ ๆ หนูทุกคนถือยู วิล แมรี่ มี แต่หนูไม่เห็นนะคะ
ชิน : ที่อุตส่าห์ตัดให้ นางไม่เห็น
ลิลลี่ : ไม่เห็นจริง ๆ ตอนเขาคุกเข่า ในใจเราเยสตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่หัวรันไปเร็วมาก
ชิน : นางตอบช้า
ลิลลี่ : วันนั้นทั้งวันหนูก็ยังเอ๊อะอ๊ะ จนอีกวันหนูตื่นมา โอ้มายก๊อด เธอมีผัวแล้วลิลลี่ โอ้ยมายก๊อด เรื่องจริง (หัวเราะ)
ถ้าไม่มีคลิปก็ไม่ได้ยินอะไรเลย ?
ลิลลี่ : สารภาพเลยว่าเมื่อวานเพิ่งดูคลิปแล้วร้องไห้
แหวนใหญ่มาก กี่กะรัต ?
ลิลลี่ : ไม่อยากพูดเลย พี่ชินให้อะไรเราก็แฮปปี้มาก ๆ อยู่แล้ว ไม่อยากให้คนไปโฟกัสตรงนี้
เห็นว่าเห่อแหวน ต้องไปยกเวท ไม่งั้นไม่สามารถยกมือได้ ?
ลิลลี่ : (หัวเราะ) พี่เชื่อมั้ย หนูโดนแซวเรื่องนี้ จนทำคอนเทนต์ลงติ๊กต่อกไปเลย เรื่องเห่อความหวาน หนูว่าเราหวานกันอยู่แล้ว แต่มันมากขึ้นตอนที่เขาไปขอหนูกับพ่อ หนูรู้สึกว่าพี่ชินอัปเลเวลเยอะขึ้นมาก ๆ จากเดิม เขาเป็นคนที่ยอม อะลุ่มอล่วยกับลี่มาก ๆ อยู่แล้ว เข้าใจทุกอย่าง แต่เหมือนเขาเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ อยู่ดี ๆ ก็เหมือนซอฟต์ขึ้น เข้าใจมากกว่าเดิมอีก วันที่หนูมีประจำเดือน เหมือนเสือ นางก็เข้าใจเรามากกว่าเดิม เหมือนเราเห็นแล้วว่าเธอเปลี่ยนไปจริง ๆ ดีขึ้น
ชิน : โมเมนต์ผมไปขอคุณพ่อ มันเป็นโมเมนต์ที่ผมบอกป๊าว่า ผมขออนุญาตดูแลลูกสาวป๊าต่อ แล้วผมจะพยายามทำให้ได้เท่ากับหรือมากกว่าที่ป๊าดูแลลูกสาวคนนี้มา แล้วคำพูดนั้นเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์ไปเลย สำหรับผม เหมือนเป็นคำพูดที่กูพูดแล้ว แล้วกูพูดกับพ่อของคนนี้ ถ้าวันนึงเราเป็นพ่อแล้วมีคนมาพูดแบบนี้ ผมถือว่ามันเป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ
ป๊าลี่ตอบว่าไง ?
ชิน : ป๊าไม่พูดอะไรเลย พูดแค่คำว่า โน รีฟันด์ (หัวเราะ) ผมอย่างขำเลย
ลิลลี่ : หนูเซอร์ไพรส์มาก แม่หนูปกติพูดน้อย ป๊าหนูพูดอยู่นั่น แต่วันนั้นป๊าไม่พูดเลย หนูช็อกมาก ๆ ฟีลป๊าพูดเยอะอยู่แล้ว แล้วหนูกลัวเขาจะพูดอะไรออกไป แต่ไม่มีเลย แม้แต่คำเดียว
พุฒ : วางเงินไว้เลย วันแต่งงานร้องหนักแน่ ๆ
ลิลลี่ : ฤกษ์ออฟฟิเชียลจริง ๆ ก็ปีนี้ ก็น่าจะได้เห็นกัน แต่พวกสังสรรค์จะเป็นปีหน้าหมดเลย ยังไม่ได้วางแผนอะไรเลย ถ้าในเชิงครอบครัวกันเอง น่าจะเป็นปีนี้ หนูต้องสรุปกับครอบครัวก่อนด้วยค่ะ
ชิน : สิ้นปีก็ค่อนข้างแน่นกันทั้งคู่
เห็นว่าอยากแต่งริมทะเล ?
ชิน : เลือกกันอีกที มีแพลน ๆ ไว้อยู่แล้ว จริง ๆ เรื่องแต่ง เราคุยกันมาสักพักนึงแล้วว่าเราอยากได้ประมาณไหน แต่ที่ชอบกันทั้งคู่คือ อยากให้เป็นแฟมิลี่ แอนด์ เฟรนด์ เรารอสรุปกันอีกที
การแต่งงานควรมีลูกเลยมั้ย ?
พุฒ : ยุคปัจจุบันแนะนำว่ามีเลย ลองปล่อยไปก่อนก็ได้ขำ ๆ เผื่อติด ยกเคสผมที่อยากมีลูกเลย แต่ร่างกายเสื่อมถอย เราไม่มีทางรู้เลย
ลิลลี่ : จริง ๆ อยากมีเลย แต่เราสองคนบ้างานทั้งคู่ เราจะทำโปรเจกต์อีกเยอะแยะมากมาย สมองเราก็ไปโฟกัสกับตรงนั้น ถ้าอยากมีลูกก็อยากให้เวลากับตรงนี้ด้วย ต้องบาลานซ์
ชิน : ขอเซตอัปโปรเจกต์ที่ทั้งคู่กำลังทำกันอยู่ให้มัน stable ขึ้นกว่านี้ เอาจริง ๆ ไม่นานหรอก อยากมีทั้งคู่
ลิลลี่ : หนูรักเด็กมาก ๆ อยากมีมาก ๆ แม่เขาเองก็อยากเลี้ยงหลานแล้ว
ชิน : น้องสาวผม จากที่ไม่เคยพูดเรื่องเด็ก วันที่ขอแต่ง วันนั้นเขาหันมาถามเลยว่า มีลูกเมื่อไหร่ อยากเลี้ยงหลานแล้ว
ลิลลี่ : หนูรู้สึกว่าพี่ชิน เวลาสอนทีมงาน สอนเด็ก ๆ ความคิดหลายอย่างที่เราอยู่กับเขามาตลอด 10 ปี มีชอตนึงที่มองหน้าเขา วันนึงที่มีลูก หนูคิดว่าหนูจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากที่มีสามีและพ่อของลูกที่ดีแน่นอน เรารู้เลยว่าทุกอย่างออกมาจากความคิดและแววตาของเขา
เรือนหอ 200 ล้านจริงเหรอ ?
ชิน : เอามาจากไหน (หัวเราะ) เรือนหอไม่ถึง 100 ล้าน เท่ากับที่เราอยากมี และเท่ากับที่เราทำได้
ลิลลี่ : พอตัวค่ะ ตอนนี้ต่อเติมทั้งหน้าและหลัง ทุบหน้าทุบหลังออก เพื่อเพิ่มความต้องการของเราเข้าไปด้วย
ชิน : ช่วงนี้ทำต่อเติม ทำสองชั้น อยากได้ลานจอดแบบฝรั่ง ที่มีแบบประตูปิด ไม่ใช่รั้ว จุดประสงค์การทำหลังบ้าน ทำเพื่อมีวอล์กอินออกมาจากชั้น 2
งบบานปลายไปเยอะมากจากอะไร ?
ลิลลี่ : จากวัสดุด้วย
ชิน : ผมมองว่าการบานปลายหรือไม่ อยู่ที่เราตั้งเอาไว้ เรารู้อยู่แล้วว่าต้องเติมไปอีกอยู่แล้ว เราคิดไว้อยู่แล้ว เราตั้งไว้สุดเท่านี้นะ แต่ตั้งไว้เผื่อสุดนิดนึง ก็รื้อค่อนข้างเยอะ เพราะเราต่อเติมด้วย
ทำห้องลูกไว้แล้ว ?
ชิน : เราคิดไว้แล้ว ต้องมีห้องเผื่อลูกในอนาคต มีห้องของลี่ มีห้องของผม เพราะผมเป็นคนติดบ้าน ผมกับลี่คุยกันว่าอะไรก็แล้วแต่ ผมขออนุญาตที่เราจะมีห้องที่ชวนเพื่อนมาได้นะ ไม่ได้อยากออกไปข้างนอก แต่ชวนเพื่อนมานะ
ลิลลี่ : หนูแฮปปี้เลย เขาไม่ออก หนูออกบ่อย
ชิน : ผมไม่ออกเลย เหล้าก็ไม่ดื่ม ไม่ออกเลย ผมก็เลยคิดว่าไหน ๆ เราจะทำที่บ้านแล้ว ขอเป็นที่ที่บ้านแล้วกัน
ลี่ชอบรื้อ รื้ออะไรบ้าง ?
ชิน : รื้อห้องครัว ทำห้องครัวใหม่ หลังบ้านก็รื้อกำแพงไป
ลิลลี่ : ความต้องการเรามันสูงนิดนึง ฮวงจุ้ยด้วย ตอนแรกห้องทำคอนเทนต์ของหนู ตอนแรกพี่ชินขอทั้งบ้าน ขอห้องนี้ได้มั้ยแต่ลี่บอกว่าขอเป็นห้องลี่ดีกว่า ก็เรียกซินแสมาดูดีกว่า มุมไหนเหมาะกับหนู มุมไหนมุมให้เขาหาเงิน ก็กลายเป็นมุมที่ไม่มีอะไรเลย โล่ง ๆ มุมที่หนูต้องต่อเติม ก็เลยเอาเลย ทุบเลย
ตกลงตัวเลขเท่าไหร่บ้านที่เป็นเรือนหอของเรา ?
ชิน : ประมาณ 5-6
ลิลลี่ : หนูขอไม่บานแล้วนะ
มีข่าวปลดอดีตผู้จัดการ ทำให้งานสะดุด เป็นไงบ้าง ?
ลิลลี่ : อาจไม่ลงลึกแล้วกัน มันเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้น ถามว่าเสียศูนย์มั้ย แรก ๆ ก็เกือบเดือน ช็อกทุก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ พอเรารู้ก็ทำให้เราว้าว เหมือนมีเรื่องใหม่ มีเรื่องช็อกทุกวันเลย แต่หัวเราก็ต้องรันว่าจะทำยังไงต่อ เรามีผู้จัดการมาตลอด อยู่ดี ๆ มันทันทีจริง ๆ เราก็ต้องหาทีม หนูร้องไห้ทุกวัน นั่งมองเพดานน้ำตาไหลทุกวันจริง ๆ
ทำไมตัดสินใจปลด ?
ลิลลี่ : น่าจะคล้าย ๆ กับทุกคน เหตุผลเดียวกันกับหลายคน น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เราทุกคนรับไม่ได้แหละ ถึงปลดออก พวกเรารักเขามาก เขาเหมือนคนในครอบครัวเราคนนึงเลย พี่ชิน แม่หนู ทุกคนไว้ใจเขามาก เหมือนวันนึงใจแตกสลายมาก ๆ เป็นชิ้นส่วนที่ไม่มีวันต่อติดได้อีกแล้ว จะเป็นเหตุการณ์ที่หนูจะจำไปจนวันตาย ไม่มีวันลืม
ชิน : เราโดนทั้งคู่ เพราะผู้จัดการคนเดียวกัน แต่ผมป้องกันตัวเองมาในระดับหนึ่งพอสมควร เราอยู่วงการมานาน ผมบอกลี่ก่อนหน้านี้ไว้แล้วบ้าง แต่ไม่เป็นไร เราก็เรียนรู้กันไป ผมคิดว่าสำหรับผม เรื่องใหญ่ในมุมที่ว่าเราต้องเรียนรู้ในการมองคน และเรียนรู้ที่จะไว้ใจคนมากขึ้น ต่อให้ไว้ใจใคร เราต้องปกป้องและป้องกันตัวเองให้ได้มากที่สุด ที่เราจะไม่โดนเอาเปรียบ ไม่ทางไหนก็ทางหนึ่ง ก็เป็นบทเรียนที่ลี่ต้องเรียนรู้ แต่อยากชมว่าลี่ปรับตัวและไปต่อได้ดีกว่าเดิมได้เร็วมากด้วย หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ลี่เป็นอีกคนนึงเลย ลี่จำเป็นต้องโตขึ้น เหมือนกระโดดลงไปในน้ำ แล้วจำเป็นต้องว่ายน้ำเป็นแล้ว ลี่ก็ปรับตัว ทีมงานทุกคน ลี่เติบโตเร็วมาก ภูมิใจในตัวลี่ ที่เจอเหตุการณ์หนักขนาดนี้ แล้วสามารถไปต่อได้เร็วขนาดนี้ ลี่เติบโตได้อย่างสวยงามครับ จากนี้เป็นต้นไปจะมีแต่ดีขึ้นและดีขึ้น เราได้ปลดบางอย่างที่ไม่ดีออกไปแล้ว
จะเป็นคุณแม่บ้านเต็มตัว จะเบรกงานในวงการหรือเปล่า ?
ลิลลี่ : ยากมาก
ชิน : เขาชอบทำงาน สนุกกับการทำงาน เอ็นจอยกับการเติบโตมาก ยากมากที่อยู่ดี ๆ จะเป็นแม่บ้าน
ลิลลี่ : หนูแพลนไว้แล้วว่าจะทำงานและเลี้ยงลูกยังไง หนูคงไม่หยุดทำงานแน่นอน
อยากให้พูดความในใจต่อกัน ?
ลิลลี่ : อยากบอกว่ารู้สึกโชคดีในทุก ๆ วัน เป็นผู้หญิงที่โชคดีมากเลยที่ในชีวิตนี้ได้เจอเขา เหมือนเขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาภูมิใจทุกวันที่มีเรา เรารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ ที่ทำทุกอย่างให้ลี่จริง ๆ ไม่เคยเซย์โนตั้งแต่เดย์วันจนถึงวันนี้ มีคนที่รักเราด้วยใจบริสุทธิ์เต็มดวงจริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ นะ
ชิน : ผมโชคดีมากที่เจอลี่ ในชีวิตผม เราก็ผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างมามาก ๆ จริง ๆ เรา 35 ก็จริง แต่ด้วยชีวิตเราตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยทิ้งเราเลย อยู่กับเราทุกโมเมนต์ ซัพพอร์ตเราทุกอย่าง หวังดีกับเรา ทั้งที่บางครั้งการหวังดีของเขา อาจออกมาในมุมโน่นนี่นั่น แต่เขาก็เต็มที่กับเราตลอด ก็ขอบคุณที่รักและอยู่กับเรามาถึงทุกวันนี้ และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป (จุ๊บกัน)