มิน พีชญา แถลงยันเป็น "บอส" แค่คำใช้เรียก ทำหน้าที่พีอาร์-ได้เงินเท่าพรีเซ็นเตอร์

          มิน พีชญา แถลงยันเป็น "บอส" แค่คำใช้เรียกในบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ชี้ทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์และพีอาร์ ได้เงินเท่าพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น พร้อมยกเลิกสัญญา
มิน พีชญา แถลงเรื่อง บอส The iCon Group

ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส

          เป็นอีกหนึ่งดาราคนดังที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ในดราม่าเกี่ยวกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) เนื่องจากมีชื่อถูกเรียกเป็น "บอส" กับตำแหน่ง CCO (Chief Communication Officer) หรือ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดออนไลน์ (สื่อสารองค์กร) สำหรับนางเอกสาว มิน พีชญา ที่ก่อนหน้านี้ทาง ดิไอคอนกรุ๊ป ได้ออกมาแถลงว่าทางมิน กันต์ กันต์ถาวร และ แซม ยุรนันท์ ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจลงนาม และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ช่วยทำการตลาดสินค้าของบริษัท

          อ่านข่าว : The iCon Group แจงแล้ว ! กันต์-แซม-มิน โดนโยงเป็นบอส สถานะจริง คืออะไร ?

          ก่อนที่ล่าสุด (11 ตุลาคม 2567) มิน พีชญา จะออกมาแถลงเปิดใจแบบชัด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านสื่อว่า อยากแสดงความเสียใจกับผู้เสียหาย ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเกิดเรื่องก็อยากมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และพูดในส่วนของตนเอง

มิน พีชญา แถลง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส

          - ตนเองเป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์ และผู้รับจ้างในฐานะผู้บริหารฝ่ายสื่อสารองค์กร หรือเป็น PR ตามสัญญา แต่ในบริษัทจะเรียกตนว่า "บอส" เป็นคำที่เขาเรียกกันเองและให้เกียรติตนเอง

          - จะได้ค่าตัวคือค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ปกติทั่วไป มีสัญญาชัดเจน คือค่าตัวรวมกัน ไม่ได้เข้าบริษัททุกวัน หน้าที่คือพรีเซ็นต์โปรดักส์ และ PR คือเข้าไปอยู่ในงานของบริษัท ตนเพิ่งร่วมงานกับบริษัทปีกว่า ๆ เซ็นสัญญาปีต่อปี ส่วนบริษัทเปิดมา 6 ปีแล้ว

          - วันที่เข้ามาในบริษัท ได้รับข้อมูลเหมือนที่ทุกคนได้รับ ว่าจดทะเบียนถูกต้องไหม มีการทดลองผลิตภัณฑ์ ตนเองไม่ใช่ดาราคนแรกที่เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีคนดังที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ก่อนมากมาย ก่อนเข้ามาก็ตรวจสอบเท่าที่ตรวจสอบได้แล้ว แต่อาจจะดีไม่พอ ก็เสียใจที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่ตนรัก

          - เข้ามาไม่เคยมีเรื่องเสียหาย ไม่เคยรู้เรื่องเลย จนมีประเด็นขึ้นมา ว่ามีผู้เสียหาย ก็ตกใจ มินอยากจะอยู่เคียงข้างประชาชน อยากเจอเขา อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

          - เรื่องแผนการขายใด ๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเอง แม้จะตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุม ตรงนี้ก็รู้สึกโทษตัวเอง ตนอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี ไม่เคยมีเสียหายเรื่องพรีเซ็นเตอร์ ทำให้ประชาชนเสียหาย ตนเองก็มีธุรกิจ เงินที่ได้ก็เท่าสัญญาพรีเซ็นเตอร์ปกติ ตนเองไม่ได้ได้เงินเป็น 100 ล้านอะไร ตนเองก็มีทางเลือก มีธุรกิจของตนเองอยู่แล้ว

          - ตอนแรกทางผู้จัดการได้รับการติดต่อให้เป็นพรีเซ็นเตอร์เซรั่ม จนกระทั่งเขาอยากเจอตัว ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอตัวคุณพอล เมื่อต้นปีที่แล้ว ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน เขาบอกอยากให้เป็นมากกว่าพรีเซ็นเตอร์ คือเป็น PR

          - ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ได้เข้าใจ ก็กลับไปคิด 2-3 เดือน ระหว่างนั้นเขาก็ โทร. ตามเรื่อย ๆ ตนก็บอกว่าไม่เข้าใจ ช่วยอธิบายหน่อย จน 3 เดือน ผจก. ก็ถามว่าตกลงรับไหม ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งหมด ก็ยังไม่แน่ใจ เลยตัดสินใจร่วมงาน 1 ปีก่อน ก็ได้เป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์และผู้รับจ้าง คือ PR

          - ยืนยันว่าเป็นแค่ลูกจ้าง ไม่ได้เป็นหุ้นส่วน ได้รับค่าจ้างแค่ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้มีโบนัสพิเศษแต่อย่างใด ไม่ได้มีค่าคอมมิชชัน

          - ตนได้รับข้อมูลจากบริษัทในด้านดี เราก็ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์จริง ตอนที่เราโปรโมตเราก็พูดตามที่เราใช้จริง รู้สึกจริง ๆ

          - ทางทนายยืนยันว่า มิน พีชญา ไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นผู้รับจ้าง ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ และเป็นผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร สัญญาเริ่มเมื่อเดือนมีนาคม 2566

          - มินรู้สึกเสียใจ และขอยุติสัญญากับดิไอคอน ต่อให้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบว่าถูกหรือผิด แต่ขอเลือกอยู่ข้างประชาชน พร้อมส่งเอกสารหลักฐาน ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อยากให้รีบตรวจสอบด้วยซ้ำ เพราะตนเองก็อยากรู้ความจริงเหมือนกับประชาชนทั้งหมด

          - ก่อนหน้านี้ทางบริษัทเงียบ แล้วกระแสก็ถาโถมมาที่ตน ตนจึงเลือกมาแถลงข่าว เพื่อชี้แจงในส่วนของตนเอง

          - คำว่าบอส เป็นชื่อที่เขาใช้ให้เกียรติเรียกเรากันเอง ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้ถือหุ้น

          - ตั้งแต่อยู่บริษัทมา ไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้ก่อนหน้านี้เลย ไม่เคยได้ยินว่ามีคนรับของแล้วขายไม่ออก มีความเสียหาย ถ้ารู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น จะไม่ร่วมงานกับบริษัทนี้แต่แรก

The iCon Group

ภาพจาก Instagram the.icon.group

          - วันนี้ตนโทษตัวเอง แม้ตรวจสอบเท่าที่จะตรวจสอบได้แล้ว แต่ก็รู้สึกผิดกับผู้เสียหาย ที่ตรวจสอบไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดความเสียหาย จึงขอยุติสัญญา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

          - คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ลงเกี่ยวกับบริษัท เขามีสคริปต์ให้ ส่วนงานวันเกิดตนไปเอง เพราะมองว่าเขาไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยหรือทำร้ายใคร ถ้ารู้ว่าสร้างความเสียหาย ก็จะไม่ไป และไม่ร่วมงานแต่แรก

          - บางครั้งบางสถานการณ์ก็มีแฟนไปด้วย แต่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

          - ก่อนหน้านี้ทางบริษัทเงียบ แล้วกระแสก็ถาโถมมาที่ตน ตนจึงเลือกมาแถลงข่าว เพื่อชี้แจงในส่วนของตนเอง จากนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย

          - เรื่องนี้กระทบหลายอย่าง ทั้งชื่อเสียง การงาน ตนเองก็มีงานละครออนแอร์อยู่ ชื่อเสียงธุรกิจทางบ้านที่ทำมา 30 กว่าปี ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นับไม่ได้เลยว่าเสียหายแค่ไหน

          - ตนคงไม่โทษใคร สิ่งเดียวตอนนี้ที่เสียใจ ที่มีประชาชนเดือดร้อน มินโทษตัวเอง ที่ทำให้มีผู้เสียหายขนาดนี้ อยากขอโทษประชาชนด้วยความจริงใจ หลังจากนี้ก็ขอยืนเคียงข้างประชาชน ไม่หนีไปไหน ยินดีรวบรวมหลักฐาน ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด

          - ความเสียหายตอนนี้ มินเป็นถึงนางเอกระดับประเทศ มีงานเยอะมาก ละครก็มีอยู่ งานว่าจ้าง พรีเซ็นต์สินค้าอื่น ๆ ไม่ได้มีพรีเซ็นเตอร์แค่ตัวนี้ เขาก็โดนกับตนเหมือนกัน

          - วันนี้อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้ทราบข้อมูลจริง ๆ ถ้าทราบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแม้แต่คนเดียว คงไม่ร่วมมือตั้งแต่แรก

          - บ้านมินมีธุรกิจ มีอสังหาริมทรัพย์ ตัวมินเองมีทางเลือก ที่บ้านมินก็มีธุรกิจรองรับอยู่แล้ว ตนมีทางเลือก ไม่จำเป็นต้องเอาชื่อเสียงที่สร้างมาทำอะไรที่หมิ่นเหม่ เอาตัวเองไปแลกมันคุ้มไหม

มิน พีชญา แถลงข่าว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มิน พีชญา แถลงยันเป็น "บอส" แค่คำใช้เรียก ทำหน้าที่พีอาร์-ได้เงินเท่าพรีเซ็นเตอร์ อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2567 เวลา 16:02:05 19,743 อ่าน
TOP
x close