เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกจับตามองมากที่สุด กรณีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป สำหรับพิธีกรดัง กันต์ กันตถาวร ที่ถูกเรียกว่า "บอสกันต์" กับตำแหน่ง CMO - Chief Marketing Officer ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่ทางบริษัทตกเป็นประเด็นร้อน ๆ ก็มีคนเรียกร้องให้เจ้าตัวออกมาชี้แจง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกันต์ได้ประกาศยุติบทบาทการเป็นพิธีกรทุกรายการ จนกว่าจะมีความกระจ่าง และได้นัดหมายสื่อมวลชนมางานแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ 12 ตุลาคม 2567
อ่านข่าว : กันต์ กันตถาวร เคลื่อนไหวล่าสุด ประกาศยุติบทบาททุกรายการ จนกว่าจะกระจ่าง !
โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้ กันต์ กันตถาวร ได้กล่าวขอแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตกใจมาก ๆ เพราะไม่เคยรับรู้ข้อมูลนี้มาก่อนเลย ตลอดเวลาที่ทำงานเป็นผู้รับจ้างให้กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป
- วันนี้มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ สิ่งที่ได้ยินกระแสสังคมและทุก ๆ คน ว่าตนเป็นผู้มีส่วนร่วมกับความเสียหายในครั้งนี้ ขอแจงว่าตนไม่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัท หรือลงทุน หรือออกนโยบายใด ๆ เป็นคนที่รับจ้างมาทำหน้าที่ทำสื่อประชาสัมพันธ์สินค้าทุกตัวของบริษัทและตัวบริษัท
- ตนเชื่อมั่นมาเสมอว่าสิ่งที่ทำจากการตรวจเช็กความถูกต้องมาตลอด ซึ่งเป็นมาตรฐานการทำงานของตน ข้อมูลของบริษัทที่ตรวจเช็ก ในเรื่องจดทะเบียนถูกต้อง สินค้าก็นำมาใช้ก่อน ก่อนจะออกจากปากว่าดีหรือไม่ดี ใช้ทั้งตัวเอง ภรรยา พ่อแม่ สินค้ามี อย. การันตีตั้งแต่โรงงาน
- รูปแบบการทำงานตรงกับสายของตนอยู่แล้ว คือเป็นโฆษกให้สินค้าและบริษัท แต่ก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าเป็นเพียงผู้รับจ้าง เป็นพิธีกรให้บริษัท โปรโมตสินค้า แต่ทั้งหมดมันอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง
- แต่วันนี้ผมไม่รู้อะไรแล้วว่าอันไหนเป็นความถูกต้องกันแน่ มันไม่มีความชัดเจนเลย ตนได้แสดงความรับผิดชอบ แม้จะน้อยนิดมาก ๆ ในการปิดอาชีพพิธีกรไปก่อนที่มันจะมีการชัดเจน และได้มีการยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
- มาวันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ พื้นฐานอยู่บนความถูกต้อง เท่าที่คนคนนึงจะเช็กได้ จากนี้จะขอเอาข้อมูลทุกอย่างที่รวบรวมให้กับหน่วยงานที่ถูกต้อง เพื่อหาข้อเท็จจริงและความชัดเจนให้ได้เร็วที่สุด
- ทางทนายความได้ส่งจดหมายยกเลิกสัญญาไปก่อนจะแถลงข่าว มีการแจ้งเลิกสัญญาไปทางบริษัทแล้ว
- สัญญาทั้งหมด 5 ปี ตนทำงานเป็นผู้รับจ้างให้บริษัทมาแล้ว 3 ปี เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2564 มีหน้าที่เป็นเหมือนแบรนด์แอมฯ โปรโมตทั้งสินค้าและบริษัทให้ทุกคนรู้จัก
- สื่อที่มีตนอยู่ในนั้น มีสคริปต์จากทางบริษัท ตนไม่ได้คิดเอง มีหน้าที่รับผิดชอบตามสัญญาที่ระบุไว้
- คำโปรโมตที่เน้นว่าเป็นพิธีกรอันดับ 1 ของประเทศไทย มีการลงเสียงตามสคริปต์ของบริษัท มองว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายอะไร ถามไปแล้วว่าต้องใช้คำนี้เหรอ เขาก็บอกตรวจสอบแล้วใช้ได้
- ในสัญญาที่ได้ระบุไว้ ตำแหน่งคือ ผู้บริหารสื่อสารมวลชนและสื่อสารสนเทศ มีไว้ให้รู้ว่าทำหน้าที่ในการผลิตสื่อ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว โดยบริษัทกำหนดนโยบายและส่งสคริปต์ให้ และเป็นพิธีกรงานที่บริษัทจัด
- คำว่า "บอส" ทนายบอกว่าเป็นคำที่ใช้เรียกกันในบริษัท บอสพอลเป็นผู้บริหารของบริษัท ส่วนกันต์ไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น เพียงปฏิบัติตามนโยบายของบริษัท
- กันต์บอกว่าตนได้รายได้จากการขายสินค้าของทางบริษัท ทางบริษัทจะส่งสรุปมาให้ตน ส่วนทนายบอกว่าในข้อสัญญา บริษัทจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายเดือน แต่กันต์ไม่ได้เป็นแม่ทีมในการขาย แต่ไม่ได้เปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้าในทีม ยืนยันว่ารายได้มีการยื่นภาษีทั้งหมด เป็นรายได้ตามสัญญา แต่ไม่ใช่เงินเดือน
- เรื่องการแบ่งจ่ายเป็นเดือน ๆ เป็นเงื่อนไขที่เขายื่นมา ส่วนเรื่องรถที่ได้เห็นกัน เป็นของขวัญที่ทางคุณพอลกับบรรดาบอสได้ร่วมสร้างกัน ให้ตนเป็นของขวัญวันเกิด ส่วนทำไมถึงให้ ทำไมใหญ่ ตนก็คิดว่าเพราะตนทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นมาตรฐานการทำงานของตน และยังคงเชื่อในความถูกต้องเสมอ สาเหตุที่ให้ตนคงตอบแทนเขาไม่ได้
- ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้บริหาร ไม่ได้มีอำนาจในการลงนามหรือออกนโยบายใด ๆ มีหน้าที่รับจ้างในการผลิตสื่อ และเป็นพิธีกรของงานบริษัท ที่บอกว่าเป็นหนึ่งในผู้บริหาร เป็นการให้เกิยรติกัน ส่วนเรื่องงาน ทำงานร่วมกับทีมโปรดักชั่นของบริษัท
- โพสต์บอกเป็นทุกอย่าง มองว่าตนเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว เป็นการแสดงความอารมณ์ ความรู้สึก ว่าตนทำงานเต็มที่กับสิ่งที่ได้รับนโยบาย ได้รับมอบหมายมา ทนายบอกว่าอย่าใช้คำว่าลวงให้คนเชื่อ แต่เป็นแง่ภาพลักษณ์องค์กรมากกว่า ซึ่งเนื้อความที่สื่อออกไป ผ่านการกลั่นกรองของคุณกันต์แล้วว่าเนื้อความเป็นความจริง
- รายละเอียดต่าง ๆ ทนายความบอกว่า ขอให้อยู่ในชั้นของพนัการสอบสวน เรื่องผิดไม่ผิดยังไง ขอให้เป็นเรื่องของคดี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมดีกว่า ซึ่งการแถลงนี้เป็นการยืนยันว่ากันต์พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่คิดหนีตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
- กันต์บอกว่า วันนี้มาแถลงข่าวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่ายืนอยู่กับความถูกต้องที่ตนเชื่อมาเสมอ กระบวนการยุติธรรมจะว่าอย่างไรก็ตามนั้น ตนจะร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน
- หลายข้อมูล หลายข่าวสารมาก ๆ ไม่รู้จะเชื่ออันไหนเลย แต่ถ้ามีคนเสียหาย ผู้เสียหายก็ควรถูกเยียวยา ตนจะยืนอยู่บนความถูกต้องเสมอ
- มีการพูดคุยว่าความเสียหายเกิดขึ้นยังไง ตนไม่เคยรับรู้ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน สินค้าก็ออกสู่ตลาดไปยังผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่าย ก็ถามว่าจะชี้แจงอย่างไร เขาก็บอกจะออกมาชี้แจง แถลง ตนก็รอ แต่มันไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องก็ส่งผลกระทบ ตนจึงต้องรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม ต้นสังกัด ผู้ร่วมงาน ตนทำให้สนุกไม่ได้ เพราะไม่สนุกหรอก จึงต้องยุติบทบาทพิธีกร และบทบาทอื่น ๆ และยุติสัญญากับบริษัทดังกล่าว
- ที่คนมองว่าทรัพย์สิน บ้าน นาฬิกา ว่าเกี่ยวกับดิไอคอนไหม ตนทำงานในวงการมาเป็น 20 ปี และก็ชอบนาฬิกามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วนเรื่องรายได้ ทนายบอกว่าต้องชี้แจงในส่วนพนักงานสอบสวน ขอพักเรื่องนี้ไว้ก่อน เนื้อหามากกว่านี้จะไปชี้แจงในกระบวนการสอบสวนต่อไป
- ประเด็นภรรยาเป็นแม่ข่ายจริงไหม ตนทำงานในหน้าที่ผลิตสื่อ หลังได้รับการติดต่อจากคุณพอล มีการตรวจเช็ก ทดลองใช้สินค้า ภรรยาก็ได้ใช้ด้วย ตนเองเชื่อว่ามันดี จนรับงานทำงานให้บริษัท ภรรยาก็ถามว่ามันดีไหม เราก็รู้สึกว่ามันดี ถ้าภรรยาอยากทำธุรกิจก็ทำเลย ตนได้เห็นข้อความแล้ว ยืนยันจะยืนอยู่กับความถูกต้อง ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก