ความเป็นไปของ ดิไอคอนกรุ๊ป ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสังคมในทุกมิติ โดยเฉพาะวงการบันเทิงที่มี 3 บอสดารา ถูกจับกุมตัวในคดีดังกล่าวด้วย กลายเป็นบทเรียนสำคัญในการรับงานของเหล่าศิลปินดาราเลยก็ว่าได้
ล่าสุด (20 ตุลาคม 2567) บทสัมภาษณ์ของนักร้องหนุ่มสุดติสต์ โตโน่ ภาคิน ก็ได้รับความสนใจและมีกระแสชื่นชมจากชาวเน็ต หลังเจ้าตัวถูกนักข่าวถามถึงกรณีธุรกิจเครือข่ายที่กำลังเป็นข่าวดัง รวมถึงการเลือกรับงาน ซึ่งทางโตโน่ บอกว่า ไม่ต้องถามผมเรื่องนี้หรอกครับ เขาโดนหนักกันแล้ว ผมลองนึกถึงหัวอกพ่อแม่เขาตอนนี้ ญาติเขา ลูกเขา ทุก ๆ คนเราก็เคยเห็นหน้าเห็นตากันมาหมดแล้ว อย่าให้ผมต้องพูดถึงเลย ผมไม่ชอบ ต่อยมวยผมก็ไม่ซ้ำคนล้ม ตอนนี้ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก จะให้ผมมาพูดเอาหล่อ ผมไม่อยากไปพูดถึง เราทำอะไรเรารู้ดีอยู่แก่ใจ เราอยู่วงการนี้มากี่ปีแล้ว เราทำอะไรไปบ้าง เราทำให้คนเห็นดีกว่า เรื่องนี้ก็ให้กฎหมายจัดการ
โตโน่ บอกด้วยว่า ในการเลือกรับงาน ถ้าไม่ได้ใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นจริง ๆ ก็จะไม่รับ เพราะถ้าจะทำอะไรแต่ละอย่าง ลองนึกง่าย ๆ ว่า ถ้าเป็นของกิน-ของใช้ เรากล้าทำให้พ่อแม่เรากิน พ่อแม่เราใช้ไหม ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเงิน แต่เราทำในสิ่งที่เราเชื่อ เราเชื่อในความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความมุ่งมั่น เราโตมาแบบนั้น ถูกปลูกฝังมาแบบนั้น
"ปฏิเสธงานไปเยอะมาก เราดูที่คุณภาพของสินค้าก่อน ผมมาตรงนี้ได้เพราะประชาชน ไม่ได้มาเพราะแมวมอง ผมมาเพราะแรงโหวตเขา คนละ 5 บาท 10 บาท แล้วถ้าผมไม่ได้ใช้ แล้วมาโกหกเขา ถึงเค้าไม่รู้แต่ผมรู้ ถ้าเราจะรวย ผมว่าเราจะควรได้เงินมาจากความทุ่มเท เราถึงจะมีความสุขนะ"