- ที่สังคมมองว่าทำไมไม่จ่ายให้มันจบ ๆ เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้ว แล้วเขาไม่ยอมมาคุยกับเรา จนในที่สุดเขาออกข่าวทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่มันเป็นการประจาน มันไม่สมควรทำแบบนี้ จะรับได้ไหม เราก็พยายามเต็มที่แล้ว ก็ต้องกอบกู้ชื่อเสียงเรากลับคืนมา แน่นอนว่าเรื่องเงินเดี๋ยวค่อยว่ากัน แล้วก็ดำเนินการตรงนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายดีกว่า
- ที่ผ่านมาภรรยาก็เข้าโรงพยาบาลมาตั้ง 7 ครั้ง น้ำหนักลงมา 5-6 กก. แต่ตอนนี้จิตใจดีขึ้นมาค่อนข้างเยอะแล้ว เราก็จะเอาความจริงมาสู้กับสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามเขากล่าวหาและกล่าวอ้าง
- ไม่กังวลอะไร เท่าที่เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมด ถึงบอกทางทีมทนายความว่าเราก็ต้องเดินหน้าแล้ว เราจะไม่ไกล่เกลี่ย ประนีประนอมอะไรทั้งนั้นแล้ว เพราะว่าคุยไปคุยมายังไงก็ไม่จบ เลยขอให้เป็นไปตมกฎหมาย ให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการวินิจฉัย
- มีการฟ้องหมิ่นคู่กรณีด้วย เพราะมีหลายกรณี หลายกรรมเหลือเกิน เขาก็ออกโซเชียลมีเดียทุกวัน หัวเราะเยาะปูบ้าง ทำเป็นเรื่องสนุกสนานบนชีวิตของคนอื่น บนความทุกข์ของคนอื่น ตนมีลูก 3 คน ครอบครัวหิมะทองคำก็เป็นครอบครัวใหญ่ มันกระทบถึงทุกคน คุณทำแบบนี้คุณคิดว่ามันสนุกสนาน ก็เดี๋ยวรอดูวันที่ 1 แล้วกัน อาจจะมีอะไรที่พลิก ที่เห็นได้ชัด
- เรื่องที่คนมองว่า ปู มัณฑนา เบี้ยวหนี้ ติดหนี้ ไม่ยอมใช้ หาญส์ ก็บอกว่า เดี๋ยววันที่ 1 ถ้าจบวันนั้นได้ ก็จะเห็นข้อเท็จจริงชัดเจนเลย อย่างที่บอกว่าให้ศาลท่านเป็นคนกลาง เป็นคนดำเนินให้จบเลย หลังจากนั้นกอบกู้คงไม่ยากแล้ว เพราะทุกคนจะได้ทราบความจริง
- ครั้งแรกที่เราแถลงข่าว ก็เคยบอกไว้ว่าอยากให้เรื่องนี้เป็นคดีตัวอย่างเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าลูกหนี้จะหัวหมอแล้วเอาชนะเจ้าหนี้ คือวันนี้มันมีอะไรสอดไส้อยู่ข้างในเยอะแยะมากมาย เป็นหนี้มันก็ต้องจ่าย เราพูดตั้งแต่วันแรกแล้ว เราไม่เคยหนีไปไหน เราไม่ได้ไปไหน เพียงแต่ว่าความจริงคือมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็อยากเดินให้มันสุดไปเลยแล้วกัน จะได้รู้ว่าเจ้าหนี้เนี่ยเป็นแบบไหน อย่างไร แล้วเจ้าหนี้ทั่วไปที่บอกให้เป็นคดีตัวอย่าง ก็จะได้รับทราบกันสักทีว่าถ้าพวกคุณยังเดินกันแบบนี้ต่อไป มันก็จะมีผลแบบนี้ต่อไปสำหรับพวกคุณในอนาคตเหมือนกัน
- ประเด็นที่คนสงสัยว่า ปู มัณฑนา นำเงินไปลงทุนกับ ดิไอคอนกรุ๊ป หรือไม่นั้น เรื่องนี้คงต้องสอบถามกับปู แต่เท่าที่ตนทราบก็น่าจะมีบางส่วน แต่อะไรยังไงเท่าไรก็ต้องถามเขา
- ประเด็นที่มีภาพตนกับปูถ่ายกับบอสพอลนั้น ต้องเข้าใจว่าตนเป็นผู้ใหญ่ เป็นรุ่นพี่บอสพอล เขาเป็นรุ่นน้อง เขาเชิญตนไปทานข้าว ถ่ายรูป คุยนู่นนี่นั่น ก็เป็นเรื่องปกติ ตนกับภรรยาก็ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์หรือไปชักชวนใคร
- เรื่องติดต่อไปลงทุน ตนเองไม่มีแน่นอน ส่วนของภรรยานั้นไม่ทราบ ต้องถามคุณปู เรื่องนี้ไม่กังวล เราไม่ได้ทำอะไรผิด หากเรียกไปตรวจสอบก็ยินดี ไม่มีปัญหาเลย