
ภาพจาก Instagram nook_suttida
ทำเอานักแสดงสาว นุ๊ก สุทธิดา ต้องรีบออกมาชี้แจง หลังถูกมองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ เต๋า สมชาย กับ มอส ปฏิภาณ 2 เพื่อนซี้ทะเลาะกัน แถมกระแสข่าวลือหนาหูถึงขั้นทั้งคู่ประกาศเลิกคบกันไปแล้ว
ล่าสุด (30 ตุลาคม 2567) นุ๊ก สุทธิดา ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ใช่ว่าตนไม่อยากเป็นกาวใจให้ มอส - เต๋า แต่มันเป็นไม่ได้ ภรรยาเต๋าก็เป็นไม่ได้ ต้องบอกว่านิสัยเต๋าเขาไม่ฟังใคร มีความคิดเป็นของตัวเองชัดเจน เวลาตัดสินใจหรือจะทำอะไร ไม่มีใครเตือนหรือพูดอะไรได้ ส่วนมากจะเป็นการรับฟัง แต่โดยรวมเขาเป็นคนมีเหตุผลและตัดสินใจในเชิงที่ดี เวลาพวกตนพูดอะไรบางทีเต๋าก็งอน บางเรื่องบางอย่างก็ไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องพูด
แต่ถ้าเต๋าโทร. มา หรือพูดอะไรตนรับฟังเสมอ เราก็รักเขานะ เพราะอยู่กันมาตั้งแต่อายุ 14 แต่ตนไม่เคยเข้าข้างเพื่อนในทางที่ผิด อะไรที่รับฟังก็รับฟัง แต่อะไรที่มันเยอะไปก็จะพูดบ้าง พูดได้เท่าที่ได้ แต่ในความรู้สึกตน มองว่าเต๋าเป็นคนจริงใจ เป็นคนรักแรง และรักมอสมาก เต๋าเคยเล่าให้ตนฟังว่าสนิทกันมาตั้งแต่ครอบครัวมอส เต๋ารักมอสมาก

ภาพจาก Instagram nook_suttida
อีกทั้งส่วนตัวก็ไม่เคยคุยกับมอสแบบสนิทสนม เพิ่งเจอกันปีเดียว แต่ดูว่ามอสเป็นคนรอมชอม ทั้งที่ลึก ๆ มอสอาจจะอยากพูดก็ได้ ตนเลยคิดว่าเดี๋ยวก็คงดีกัน เพราะมันเหมือนคนรักแรงเกลียดแรง เดี๋ยวงอนกันแป๊บเดียว เพราะลึก ๆ ที่ฟังเต๋าเล่าคือเขารักมอส ก็เลยคิดว่าพอมันหายงอนกันแล้ว ความรักก็จะกลับมาเหมือนเดิม เพียงแค่รอจังหวะ เพราะมอสไม่ใช่คนที่อยากจะไฟต์ อยากจะรบอยู่แล้ว
ยอมรับว่ารู้ปัญหาบ้าง เขามีพูดบ้าง แต่เอาจริง ๆ ไม่ได้อยากฟังแบบวิเคราะห์เจาะลึก ฟังผ่าน ๆ เพราะมันมีหลายอย่างที่ตนไม่ได้เห็นด้วยกับเขาไปซะทุกอย่าง แต่เขาเป็นพี่ชายเรา วันหนึ่งที่เขามาหา ตนก็ต้องยืนอยู่ข้างเขาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยืนแบบไม่ใช่ให้เพื่อนหลงผิด ถ้าอันไหนที่พูดได้ก็พูด ถ้าอันไหนที่พูดไม่ได้ก็จะเงียบ แต่ตนว่ามันอาจจะมีการเข้าใจอะไรผิดกันบางอย่าง มันอาจจะมีคนอื่นมาพูดอะไรหรือเปล่า ก็เป็นเรื่องการทำงานนั่นแหละ

ภาพจาก Instagram nook_suttida
และมองว่าสองคนนี้จะกลับมาร่วมงานกันได้ แต่มันอาจจะไม่ใช่วันนี้ อาจจะต้องใช้เวลานิดหนึ่ง เต๋ามาปรึกษาบ้างเป็นช่ว งๆ มีคุยบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้มากมายอะไร แต่มันไม่ใช่เรื่องของตน มอสเต๋าสนิทกันมากกว่าตนด้วยซ้ำ
นุ๊ก ยังยอมรับว่ารู้สึกหนักใจที่ต้องมาตอบคำถามแทน เพราะการที่ต้องมาพูดเรื่องของคนอื่นดีไม่ดีก็เข้าตัวเสมอ โดนมาหลายรอบแล้ว เป็นความอึดอัดมาก ๆ แต่มันมีข่าวมาว่าต้นเหตุเป็นเพราะตนก็มี เป็นข่าวใต้น้ำ ก็ท่องไว้ในใจ ไม่ได้ทำก็คืนคนที่พูดไป
ส่วนที่ตัวเองป่วยมะเร็งไทรอยด์ลามไปยังต่อมน้ำเหลือง หลังตรวจเจอเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และทำการรักษาด้วยการผ่าตัดมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ และกลืนแร่เพื่อสลายเชื้อมะเร็งทั้งหมด 16 จุดที่ต่อมน้ำเหลือง ก่อนที่ล่าสุดได้ทำการตรวจอีกครั้งแล้วพบว่าเชื้อมะเร็งยังคงหลงเหลืออยู่อีก 3 จุดบริเวณต่อมน้ำเหลือง ก่อนจะตัดสินใจบินไปรักษามะเร็งที่เหลืออยู่ที่ประเทศจีน ตอนแรกตั้งใจจะด้วยวิธีการฝังแร่ แต่เมื่อบินไปถึงได้เข้ารับการตรวจร่างกายกับคุณหมออีกครั้งด้วยการอัลตราซาวนด์และฉีดสี ปรากฏว่าคุณหมอตรวจพบว่าเชื้อมะเร็งใหญ่กว่าที่คิดไว้และมีหลายก้อน ทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยฝังแร่ได้ คุณหมอได้เสนอ 2 ตัวเลือกในการรักษา คือ การผ่าตัดและฉีดเซลล์ต้นกำเนิด ที่จะไปช่วยให้เซลล์รอบ ๆ แข็งแรง ไม่กลายไปเป็นมะเร็งเพิ่ม อีกทั้งยังช่วยให้อาการหน้าผากบวมและได้กลิ่นควันลดลงด้วย
โดยแนวทางการรักษาตั้งใจจะฉีดเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งจะต้องฉีดทุกปี ราคาถ้าฉีดที่จีนอาจจะอยู่ราว ๆ 2.5 แสนบาท ต้องฉีดที่จีนเพราะที่ไทยยังไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งการตัดสินใจฉีดเซลล์ต้นกำเนิดไม่กระทบกับการทำงานอื่น ๆ ของร่างกาย อีกทั้งตนยังกลัวการผ่าตัด กลัวการวางยา และจากประสบการณ์ครั้งก่อนมีเอฟเฟกต์หลายอย่าง จึงคิดว่าคงยังไม่ใช่ตอนนี้ ความคิดที่อยากผ่าตัดมีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การเดินทางไปรักษามะเร็งที่จีน จริง ๆ สามียังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าจากการผ่าตัดก่อนหน้านี้ได้หายดีแล้ว
การต่อสู้กับโรคนี้ นุ๊ก บอกว่าหากจะมีความรู้สึกกลัว ถือว่าไม่ผิด กลัวได้แต่ต้องเข้าใจและใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ด้วย กำลังใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ยอมรับทุกวันนี้การต่อสู้กับมะเร็งของตน มีกำลังใจที่ดีจากลูก ๆ ทั้ง 3 คน แม้จะคิดว่าตอนนี้กำลังนับเคานต์ดาวน์ชีวิต แต่ก็พร้อมสู้ พยายามอธิบายให้ลูกชายฟังถึงโรคที่เจ้าตัวเป็นอยู่ รู้ว่าลูก ๆ ชอบอ่านหนังสือจึงนำนิทานที่ตอนจบคุณแม่ในนิทานเสียชีวิตให้ลูกอ่าน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ซึ่งลูก ๆ มักจะให้กำลังใจและเชื่อว่าคุณแม่จะไม่มีทางไปจากพวกเขาอย่างแน่นอน

ภาพจาก Instagram nook_suttida