ออกทีวีครั้งแรกเลย ?
เป๊ก :ที่มาเพราะทั้งคุณเป๊กกี้กับคุณพุฒเชื่อมโยงในชีวิตเราตลอด
นิว : จะบอกว่าเจอพุฒตั้งแต่ก่อนท้อง กำลังจะอยากมีน้องจนถึงวันนี้เพิ่งได้มาเจอกันอีกรอบ
เป๊ก : นี่คือคนที่จุดประกายไฟที่ทำให้เกิดน้องสเปซนะ เป็นคนที่ให้คำปรึกษา เจอกันในงานแต่งพี่ตู่-พี่มาวิน พี่หนักขนาดไหนผมหนักกว่า 2 เท่า เหมือนขิงเราว่าเรายาก แต่เขายากกว่า แล้วเหมือนเขาสำเร็จไปแล้วแต่เรายังไม่สำเร็จ อีกวันเขาให้จุ๋ยโทร. มาคุยด้วย คุยไป 2 ชั่วโมงกว่า คุยกันให้คำปรึกษาจนปั้นมาได้ 9 เดือน
พุฒ : เพราะว่าผมกับพี่เป๊กเป็นสองคนที่แต่งงานกันไปนานมากแล้วเพื่อนในวงการ เพื่อนมีไปหมดแล้ว เหลือเรา 2 คนเนี่ยแหละ
9 เดือน น้ำหนัก 10 โล เห็นว่าไม่มีปัญหาเรื่องการกินเลย ?
นิว : ไม่มีเลยค่ะ เขากินง่ายตั้งแต่นมแม่ นมขวด กินอาหาร กินผลไม้ กินปลา ตอนนี้เริ่มใช้หลอดดูดเป็นแล้ว
ตอนนี้พัฒนาการเป็นยังไงบ้าง ?
นิว : เริ่มพูดได้แล้ว เริ่มเอ๊าะแอ๊ะ
การเลี้ยงแบ่งกันยังไง ?
นิว : ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนิว เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราอยากเลี้ยงเขามาก ๆ แล้วเรารู้ว่าพ่อเขาต้องออกไปทำงาน ก็แบ่งกันไปหาเงินมาให้หม่ามี๊ แล้วก็มีพี่เลี้ยงด้วย นิวจะอยู่กะกลางคืนแบบ 100% ตอนกลางวันก็จะมีพี่เลี้ยงอยู่กับเขาด้วย
คุณพ่อจะเป็นฝ่ายทำงานแล้วกลับมาสันทนาการ ?
เป๊ก :ใช่ บางทีเขาก็จะหลับก่อน ก็จะสันทนาการตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน 4 ทุ่มเสร็จงานกลับมาลูกก็หลับแล้ว ก็ตื่นมาเจอกันตอนเช้า แต่ที่อยากให้มีประสบการณ์ร่วมกันคือการวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ ต่างจังหวัด ลูกจะได้ไปเจอคนอื่นบ้าง แต่แม่จะไม่ยอมให้ออกไปไหนเลย แม่กลัวทุกอย่างประมาณ 3-4 เดือน จะไม่ยอมให้ออกไปเจอผู้คนเลย
พาร์ทการเลี้ยงลูกช่วงนึงบอกว่ามีน้ำตาไหลด้วย ?
นิว : เป็นช่วงที่นมหดค่ะ แล้วเราพยายามกู้น้ำนมแล้ว แล้วมันไม่ได้ มันจะมีช่วงที่เราออกไปทำงานข้างนอกแล้วไม่ได้ปั๊มนมตรงตามเวลา มันก็เลยหด เกิดภาวะไม่มีเลยจริง ๆ แล้วเรารู้สึกว่าบรรยากาศที่เอาเขาเข้าเต้าแล้วมองหน้าเขาแล้วเขาดูดนมมันไม่มีอีกแล้ว เลยรู้สึกว่าหมดเวลานั้นแล้วเหรอ มีน้ำนม 6 เดือน
มีช่วงที่ต้องบินไปญี่ปุ่นเป็นการห่างลูกครั้งแรก แล้วต้องทิ้งให้ลูกอยู่กับสามีแล้วก็พี่เลี้ยง ?
นิว : ใช่ค่ะ ก็หลังจากที่ไม่มีน้ำนมแล้วก็สามารถออกไปทำงานได้แล้ว แต่มันไปทำงานไกลเกิน ก็คือไปเรื่องค่ายเพลงที่ญี่ปุ่น ไปอยู่ 1 อาทิตย์ คิดอยู่ว่าจะไป-ไม่ไปดี เพราะว่าไม่เคยห่างกันขนาดนี้ เขาบอกว่าเดี๋ยวเป๊กจะดูแลให้เอง ยิ่งเป็นห่วงใหญ่เลย ก็ลองให้เขาลองทำหน้าที่เป็นคุณพ่อเต็มร้อยดู ก่อนที่จะให้เป๊กดูแลเราก็มีการเทสต์ก่อน ลองเปลี่ยนแพมเพิร์ส ลองชงนม ลองป้อนข้าว ให้เขาตื่นเช้าเพราะว่าสเปซตื่นเช้ามาก 6 โมงเช้า
เป๊ก :วันที่นิวไม่อยู่เราก็ต้องรับผิดชอบดูแลเขา เขาก็ชินกับเราแหละ แต่เวลาที่เขาต้องการแม่มากกว่าเราจะป้อนข้าวเขาไม่กิน ก็วิดีโอคอลหานิวตลอดเวลา
ย้อนกลับไปช่วงคลอดน้องสเปซ ทำไมถึงเลือกคลอดในช่วงกลางวันและเป็นวันพุธด้วย ?
เป๊ก :ของพุฒเช็กเหมือนกันมั้ย
พุฒ : เช็กเหมือนกัน คุณจุ๋ยเขาผ่าคลอด เขาก็จะเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุด
เป๊ก :วันพุธกลางวันก็มีพระอาจารย์ที่รู้จักกันช่วยเช็กให้ ก็ได้มาเป็นวันพุธ
นิว : ทั้งพระ ทั้งซินแส ทั้งโหร ทุกอย่าง แล้วเรามาดูเป็นสถิติตรงไหนแม่นยำกว่า แต่กลางวันหมอก็สะดวกกว่ามั้ย
โมเมนต์ที่คลอดออกมาเป็นยังไงบ้าง ?
นิว : วันที่จะไปคลอดเลยตื่นเต้น เพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันใหญ่ มีพ่อแม่ทุกคนมาให้กำลังใจ แต่พอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะเข้าห้องผ่าตัดจริง ๆ เราไม่เคยรู้บรรยากาศ เพราะเราไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นอะไรที่ใหม่ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นกับเราถึงจะเข้าใจ เหมือนขึ้นเวทีครั้งแรกมันก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่ตื่นเต้นจนตัวโยน มันสั่น มันหนาว จนไม่รู้มันคืออะไร มันเหมือนจะชัก มันคุมไม่ได้เลย ตื่นเต้นขนาดนั้น
เป๊ก :ก็พยายามประคบประหงมคุณแม่ก่อนคลอดโดยการคุยกับคุณหมอ ให้คุณหมอช่วยบอกนิวว่าไม่มีอะไรวุ่นวาย เราก็ไปไหว้พระ แล้วห้องที่ต้องอยู่กับนิวกับห้องที่ต้องไปไหว้พระอยู่กันคนละด้านเลย
มีอีกเรื่องที่น่าตกใจ วันที่สเปซคลอดคือสำลักน้ำคร่ำ ?
นิว : นิวผ่าตัดเสร็จจะต้องไปพักแล้วก็ไม่รับรู้อะไรเลยคือนอน พอตื่นนอนมาเป๊กบอกว่ายังไม่ได้เจอลูกนะเพราะลูกต้องเข้าห้องอบ นิวก็ตกใจ
เป๊ก :คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย มารวมกันหมดเลยเพื่อมาดูหน้าหลาน แล้วกำลังจะขึ้นไปหานิว คุณหมอบอกว่าตอนนี้น้องยังมีอาการหายใจไม่สะดวกสำลักน้ำคร่ำ ยังไม่สามารถขึ้นไปได้ แสดงว่าวันแรกคุณพ่อคุณแม่ยังไม่สามารถเจอลูกได้ ตกใจเกิดอะไรขึ้น คุณหมอก็พาไปเจอลูกเลย ต้องอยู่ในตู้อบก่อนเพื่อที่จะได้อยู่ในอุณหภูมิของท้องคุณแม่ ให้เขารู้สึกว่าเขายังอยู่ในท้องคุณแม่ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ขึ้น เราก็น้ำตาไหล แต่พอผ่านมา 1 คืน ลูกก็ปลอดภัย
แต่คนที่ได้เจอหน้าลูกคนแรกไม่ใช่พ่อกับแม่นะ เขาก็คือคุณเป็กกี้ ?
เป็กกี้ : ไปเยี่ยมหลานแล้วจังหวะดี ความโชคดีคือไปถึงปุ๊บคุณพยาบาลเขาเข็นเข้ามาพอดี เราก็อยู่ตรงนั้นพอดี เราก็ถามคุณพยาบาลว่านี่ใช่ลูกคุณนิวมั้ย เขาก็บอกว่าใช่ พ่อแม่ยังไม่ได้เจอเลย เจอเป็กก่อน เจอในรถเข็น ตอนท้องเราก็อยู่ด้วยกันตลอด เราก็จะส่งเสียงโน่นนี่นั่น ร้องเพลง พอเขาได้ยินเสียงเป็กเขาก็เลยยิ้ม ก็เลยบอกว่าไปด้วยกันจ้าเข็นเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่เขา
เป๊ก :คุณพ่อไม่อยู่ คุณไม่ต้องพูดเลย เขาโพสต์ลงไอจีเขาเลยว่าน้องยิ้ม พ่อออกไปทำงานอีเวนต์โดนล็อกไว้ก่อนอยู่แล้วยังไงก็เคลียร์ แคนเซิลไม่ได้ ยังไงก็ไปทำงานก่อนแล้วกันแล้วรีบกลับมาเจอลูก
เป็กกี้ : เลื่อนไถฟีดมาเจอเป็กกี้ว่าเจอหลานครั้งแรก หลานยิ้มเลย หลานจำเสียงได้ แล้วดันเจอก่อนพ่อเขา พ่อเขาเลยน้ำตาหยดลงโทรศัพท์
เป๊ก :จริง ๆ จำภาพวันนั้นได้เลย แต่งหน้าอยู่ ไถ ๆ เล่น ๆ คุยกับช่างแต่งหน้าอยู่ เห้ย ! พี่เป็กกี้ เห้ย ! ลูกกู (หัวเราะ) คิดในใจว่ากูยังไม่ได้เจอ
ของที่รับขวัญหลาน ?
เป๊ก : ธรรมดาที่ไหนคุณเป็กกี้ ศรีธัญญา
เป็กกี้ : เป็นเงินสดให้คุณเขาไปตั้งตัว 1 แสน ตัวเป็กเองคิดว่าไม่น่าจะมีลูกแล้วเลยคิดว่ารับขวัญคุณนิวก็น่าจะดี เพราะเห็นความพยายามของคุณนิวมานานว่าอยากจะมี ก็ยากเย็นกว่าจะได้ไข่ กว่าจะตั้งครรภ์ กว่าจะติด ผ่านความผิดหวัง เศร้า แล้วก็กว่าจะสำเร็จมันยากเหลือเกินกว่าที่เด็กคนนึงจะมาเกิดในครอบครัวที่สมบูรณ์ เลยรู้สึกยินดีกับครอบครัวของคุณนิวจริง ๆ
มีแพลนอยากจะมีอีกซักคนหรือสองคน คนเดียวมันเหงานะพี่ ?
เป๊ก : นี่ไง 99% ก็บอกอย่างนี้ ให้ลูกมีเพื่อน ให้เขาดูแลกัน หลาย ๆ คนก็คิดว่าอยากให้เรามี เราก็มีแพลนเหมือนกันนะ ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจมีหลากหลายมุมมอง เพราะว่าในการให้เขามีเพื่อนเล่นก็ดีเหมือนกัน ถ้าเขามีคนเดียวเราก็ทุ่มความรักให้เขาเต็มที่หรือเปล่า
นิว : มีแพลน แต่ก็ไม่แน่ใจแพลนเหมือนกัน แต่ถ้าหนูมีอีกคนพี่เป็กกี้ต้องให้สองเท่าเลยนะ
เป็กกี้ : ได้ ลองดูซิ เรื่องเงินพี่ไม่เคยท้ออยู่แล้ว
ถ้าจะมีอีกซักคนอยากจะมีแบบธรรมชาติหรือว่าวิทยาศาสตร์ ?
นิว : จริง ๆ มีฝากไว้ ทุกครั้งคุณหมอก็จะบอกว่าอย่ารอหมอ จัดการกันเลยเผื่อฟลุค ด้วยความที่เราอายุเยอะ วิทยาศาสตร์ก็แม่นยำกว่า จนได้มาเป็นคนนี้
เปิดค่ายเพลงทุ่มทุน 10 ล้าน ?
นิว : จริง ๆ ไม่ได้คิดว่ามันจะขนาดนั้น แต่พอนับเงินไปมา ตายแล้ว เป็นค่ายชื่อ bibbidii Entertainment วางแผนตั้งแต่ตอนท้องแล้ว เรามองตัวเองแล้วว่าเป็นศิลปินมา 20 ปี สิ่งที่มันจะส่งต่อได้คือความรู้และประสบการณ์ของเราโดยการปั้นเด็กรุ่นใหม่ คือเด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้จะรู้จักเราหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราจะต้องมีศิลปินที่จะอยู่ในยุคเขา ก็เลยทำรายการคายตะขาบประกวดร้องเพลง มีลูก ๆ ในสังกัด 20 คนแล้วค่ะ มีทั้งนักร้องแล้วก็ทำซีรีส์ด้วย
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama