ถูกจับตามองอย่างหนักเลยทีเดียวสำหรับกรณีที่ จีกามิน TikToker สาวเกาหลี อดีตแฟน แน็ก ชาลี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาที่ไทย หลังเกิดดราม่าต่าง ๆ ทั้งปัญหาการเลิกรา อีกทั้งยังถูกชาวเน็ตไทยบางรายรุมถล่ม และมองว่าตั้งใจมาหลอกและดูถูกคนไทย จนกลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ
ล่าสุด (6 พฤศจิกายน 2567) จีกามิน พร้อมคุณแม่ และทนายความ ทนายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ และทนายณพกฤต ทรัพย์แก้วยอด ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว "กามินกลับมาเพื่อพิสูจน์ความจริง" โดยทางทนายได้ถามถึงประเด็นต่าง ๆ และ กามิน ได้ชี้แจงถึงประเด็นที่ถูกทำให้เสียหายและสร้างความเข้าใจผิด
กามิน เผยว่า วันนี้แค่ออกมาปกป้องครอบครัว คนที่รัก ปกป้องตัวเอง พร้อมเผยว่ายังมีข้อความที่ส่งมาขู่เยอะเหมือนกัน ช่วงเยอะเดือนกันยายน ข้อความข่มขู่เยอะที่สุด ขณะที่ทนายเปิดเผยว่า ก่อนมาก็ยังมีข้อความตั้งค่าหัวเยอะในโซเชียลเป็นภาษาไทย ซึ่งกำลังดำเนินการเพื่อดำเนินคดีอยู่
ส่วนประเด็นการเลิกรากับ แน็ก ชาลี ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังมีแฟน ๆ ข้องใจถึงสาเหตุการเลิกรา กามิน เผยว่า คิดว่าจริง ๆ แล้วคนทั่วไปก็จะมีความเข้าใจที่แตกต่างกันได้บ้าง โดยเฉพาะสำหรับเธอและทางท่านนั้น ทั้งเรื่องของภาษาที่ไม่เข้าใจกัน เรื่องนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างที่มีความไม่เข้าใจในเรื่องของความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะทำให้การอยู่ด้วยกันแล้วมันมีปัญหาจนต้องเลิกกัน การคบกันจริง ๆ ความรู้สึกไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ใหญ่เลย
ถามว่าคนรอบข้างมีส่วนทำให้เกิดปัญหาไหม คือไม่ได้มีเรื่องของบุคคลอื่นที่เป็นเหตุทำให้เลิกกัน จะเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าที่ทำให้เลิกกัน เธอพยายามอย่างเต็มที่มาตลอด อาจจะมีปัญหาในเรื่องความไม่เข้าใจเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเดียว ด้านท่านนั้นก็เห็นความพยายามเขาเช่นกัน ความสัมพันธ์กับท่านนั้นเป็นความรู้สึกคู่รักด้วยกัน ทางนั้นดูแลอย่างดี ไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้เลย
และสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจกลับเกาหลี กามิน เผยว่า ตอนนั้นได้รับข้อความให้เลิกกัน เลยไม่มีทางเลือกนอกจากกลับเกาหลี เป็นข้อความจากบุคคลท่านนั้นที่ทำงานด้วยกัน ความรู้สึกต่อท่านนั้นไม่มีความรู้สึกแง่ลบเลย แค่ได้รับข้อความมาอย่างเดียว ยืนยันว่าไม่มีปัญหาการหึงหวง แค่เข้าใจไม่ตรงกัน ปรับให้เข้าใจกันยาก ถือเป็นความรักที่จริงใจ มีการติดต่อจากฝั่งท่านนั้นบ้าง แต่ไม่รู้ติดต่ออะไร เธอไม่ได้ติดต่อกลับ ขอให้ทางนั้นดูแลสุขภาพและมีความสุข
ในส่วนของเรื่องที่พัก เวลามาพักที่โรงแรม หรือสตูดิโอ ทางบริษัททางนั้นจองโรงแรม เขารับรู้การเข้า-ออกตลอด ทางนั้นมีคีย์การ์ดด้วย ไม่เคยนัดใครมาโรงแรมเลย และไม่เคยดื่มเหล้าเวลางานเลย เรื่องค่าจ้างจากทางบริษัทก็ได้รับเป็นที่พอใจ และค่าจ้างก็หักภาษีแล้วทั้งที่ไทยและเกาหลี จะดำเนินการจ่ายภาษีปีหน้า
เรื่องบ้านไฟไหม้ กลับจากช้อปปิ้ง เธอได้กลิ่นเหม็นไหม้ชั้น 3 ไม่รู้มีของมีค่าไหม ไม่รู้เพราะไม่ใช่ห้องของตัวเอง ยืนยันว่าไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ในวันนั้น
ประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่ามาฟอกเงิน รวมตัวกับครอบครัวเป็นอาชญากรรมหรือไม่ กามิน ยืนยันว่า เธอและครอบครัวไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย เราไม่ใช่แก๊งต้มตุ๋น อาชญากร ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมเลย ส่วนเรื่องอาชีพ เธอเรียนเต้น และฝันอยากเป็นครูสอนเต้น เคยทำงานด้านมิวสิคัล ไม่เคยพูดว่าร้ายใคร ไม่เคยพูดคำหยาบเลย
กามิน ยังยืนยันว่า ไม่เคยคิดว่าคนไทยหลอกง่าย เพราะได้รับความรักจากคนไทยมากมาย ตอนที่มีคอมเมนต์แย่ ๆ ออกมาเยอะ ๆ มีคำหยาบคาย ก็เสียใจ พี่ชายเป็นข้าราชการที่เกาหลี ได้ลาออกมาดูแลสภาพจิตใจเธอด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงตอนนี้ก็ยังมีข้อความแย่ ๆ อยู่ตลอด และมีมากขึ้นด้วย ซึ่งการมาเมืองไทยทำให้ได้เรียนรู้ ขอบคุณคนที่รัก รู้สึกที่ทุกคนให้ความรัก และเธอรักคนไทยจริง ๆ
ส่วนที่ถูกวิจารณ์แรงด้วยคำว่า สก๊อยเกาหลี สุวรรณมาลี ในโซเชียล กามิน เผยว่า ตอนแรกไม่รู้แปลว่าอะไร เมื่อรู้ความหมายก็กลัวพ่อแม่ทราบจะเสียใจเหมือนที่เธอเสียใจ ไม่ทราบว่าทำไมใช้คำพูดอะไรรุนแรง ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดบาปขนาดนั้น
ด้านทนายความเปิดเผยว่า คนที่กล่าวหาใส่ร้ายศักดิ์ศรีผู้หญิง ใช้สถานะทางสังคมที่เหนือกว่าสร้างความเกลียดชัดทางสังคม ทั้งที่เป็นเรื่องคนสองคน ทำให้ชื่อเสียงการทำงานล่มสลาย เพราะคำพูดคนบางคน ในฐานะทนายความ คนที่สร้างวาทกรรมแปลก ๆ ทุกคนจะได้รับสิทธิเท่าเทียมกันทางกฎหมายทุกคน ซึ่งไม่ใช่การมาฟ้องคนไทย แต่กามินเข้ามารักษาสิทธิของเขา ที่ผู้กระทำผิดทำให้เขาเสียหาย การเข้ามาวันนี้มาพิสูจน์ความจริงตามขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่าง
ทนายความยังเผยอีกว่า ขณะนี้มีการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว เบื้องต้นมี 5 คน ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เรื่องหมิ่นประมาท พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดำเนินการไปแล้ว และจะมีตามมาอีก ส่วนคู่กรณีตอนนี้ยังไม่มี อยู่ในส่วนการพิจารณาถ้ามีอะไรก้าวล่วงกัน
ทั้งนี้ กามิน ยังร่ำไห้ขอบคุณทุกคนที่ยังให้กำลังใจ เธอยอมรับว่าไม่รู้จะกลับมาทำงานประเทศไทยได้อีกหรือเปล่า แต่เห็นทุกคนยังสนับสนุน และมีผู้ใหญ่ใจดี ถ้าสภาพจิตใจดีจะคิดดูว่าจะกลับมาทำงานที่นี่อีกหรือไม่