กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ น้ำตาคลอ เผยฟางเส้นสุดท้ายฟ้อง หนุ่ม ศรราม ไม่ยอมให้ถูกใส่ร้ายอีก

          กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ น้ำตาคลอ เผยฟางเส้นสุดท้ายฟ้อง หนุ่ม ศรราม กีดกันไม่ให้เจอลูกนาน 8 เดือน มอง 6 ข้อตกลงหลังใบหย่ากว้างเกินไป ท้าดูหลักฐาน-ลั่นไม่ยอมให้ใส่ร้ายอีกแล้ว
กุ้งพลอย เปิดฟางเส้นสุดท้ายฟ้อง หนุ่ม ศรราม

ภาพจาก Instagram mama.veeji

          จากรณีที่ กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ ยื่นฟ้องอดีตสามี หนุ่ม ศรราม ประเด็นกีดกันบุตรไม่ให้เจอลูกสาว ก่อนที่ฝ่ายชายจะออกมาโต้ว่าไม่เป็นความจริง

          ล่าสุด (7 พฤศจิกายน 2567) กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ ได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาและเสียงสั่นเครือว่า ขออนุญาตตอบในส่วนที่ตอบได้ ไม่กล้าก้าวล่วงการพิจารณาของศาล เพราะเคารพศาลมาก ตัดสินใจพึ่งพาศาลเพราะไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริง ๆ ไม่ใช่ไม่อดทน อดทนและยอมมาตลอด ไม่ได้แข็งข้อแต่แข็งแรงขึ้น มันเป็นปัญหาสะสม ตนชอบอะไรที่ชัดเจน ทำได้ตามที่พูด แต่ถ้าสิ่งไหนที่ไม่ชัดเจนและทำไม่ได้จริง ใช้วาทกรรมอำพรางก็เลิกทำเถอะ

          ฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจกฎหมายเกิดมาสักระยะแล้ว แต่ยอมที่จะอดทนในสิ่งที่พยายามเข้าใจ เพราะเรื่องของครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับลูก ไม่อยากจะมาฟาดฟันให้เหมือน 3 ปีที่แล้ว ฟางเส้นสุดท้ายคือการติดต่อสื่อสารที่โดนบล็อก ไม่รับสายหลาย ๆ รอบ ข้อตกลง 6 ข้อหลังใบหย่าตอนนั้นยอมรับทุกอย่างเพราะเชื่อใจและไม่รู้กฎหมายมากนัก แต่วันนี้รู้กฎหมายแล้ว 6 ข้อหลังใบหย่ามันกว้างเกินไป การห้ามในสิ่งที่ตนขอ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ลูกได้รับสิ่งดี ๆ ทั้งนั้น แต่ตนไม่เคยได้ อาทิ การพบเจอลูกที่เดิมเป็นเวลา 4 ปีกว่าแล้ว ขอเปลี่ยนสถานที่ก็ไม่ยอมให้ ลูกป่วยก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะแจ้ง ซึ่งพอพูดถึงเรื่องนี้ กุ้งพลอย น้ำเสียงสั่นเครือปนน้ำตาคลอ

กุ้งพลอย น้ำตาคลอฟ้อง หนุ่ม ศรราม

ภาพจาก Instagram mama.veeji

กุ้งพลอย น้ำตาคลอฟ้อง หนุ่ม ศรราม

ภาพจาก Instagram mama.veeji

          กุ้งพลอย ยังเผยอีกว่าถูก หนุ่ม ศรราม บล็อกวิดีโอ ซึ่งอีกฝ่ายนึกอยากจะบล็อกตอนไหนก็บล็อก โดยไม่มีการแจ้งเหตุผล รวมถึงการไม่ให้เจอลูกร่วม 2 เดือน ก็ไม่ได้แจ้งเหตุผลที่ชัดเจน นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ไม่ได้เจอลูกมา 8 เดือนแล้ว พยายามวิดีโอคอลไปแต่อีกฝ่ายก็ไม่รับ ยอมรับว่าเมื่อก่อนอารมณ์ปรี๊ดง่าย แต่ตอนนี้นิ่งขึ้นเพราะชินแล้ว สังคมอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงทำเช่นนั้น ตนเองก็อยากรู้เหมือนกัน

          ล่าสุดที่เขาให้สัมภาษณ์น่าจะเป็นเหตุผล เขาอ้างว่าเราติดคอนเทนต์ไม่ดูแลลูก ขออธิบายว่าวาทกรรมอำพรางเกิดขึ้นได้ทุกกรณีในการเบี่ยงประเด็น ยืนยันว่าไม่ได้ทำคอนเทนต์ หากทำคอนเทนต์จริงต้องมีลูกออกมา แต่ก็เข้าใจเพราะชื่อเสียงที่ป่นปี้ทำให้คำพูดที่จะอธิบายของตนไม่มีน้ำหนักมากพอ ถ้าจะบอกว่าเจอลูกเฉย ๆ ไม่ต้องถ่ายรูปก็ได้ เช่นนั้นอีกฝ่ายก็ควรจะทำแบบนั้นเหมือนกันด้วย ใครกันแน่ที่ทำคอนเทนต์ลูกมากที่สุด เวลาจะพูดหรือให้สัมภาษณ์อะไรต้องมีหลักฐานด้วย หนึ่งคำพูดไม่สู้หลักฐานในมือ

กุ้งพลอย น้องวีจิ

ภาพจาก Instagram mama.veeji

          กุ้งพลอย ยังเผยอีกว่า ไม่ขอคุยกับอดีตสามี เรื่องคดีให้เป็นหน้าที่ของทนายเป็นคนพูด ส่วนข้อเรียกร้องว่าตนอยากเลี้ยงลูกตั้งแต่วันศุกร์ - วันจันทร์ เป็นข้อเรียกร้องในศาล อีกฝ่ายเอาข้อมูลตรงนี้มาเปิดเผยเหรอ ? เมื่อก่อนกังวลคะ เพราะมันเริ่ม ๆ แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกังวล รู้สึกว่าถ้าใครคนหนึ่งจะต้องโดนใส่ร้ายป้ายสีตลอด วันหนึ่งเขาอาจจะยอม แต่วันหนึ่งเขาอาจจะไม่ยอมคุณแล้วก็ได้ อาจจะลุกขึ้นมาสู้เพื่อปกป้องตัวเองด้วยเหมือนกัน

          ถามว่ากลัวลูกลืมหน้าไหม เพราะไม่ได้เจอกันนาน ยอมรับว่ากลัวแต่ก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว มั่นใจว่าลูกไม่ลืมหน้าแม่ จริง ๆ ช่วงวัยเด็ก - 7 ขวบ ลูกควรได้ใกล้ชิดกับแม่ แต่ใครทำให้ลูกไม่ได้ใกล้ชิดกับแม่ เชื่อว่าลูกเองก็อยากเจอแม่ ตนไม่กลัวกระแส เพราะไม่ได้สู้กันต่อหน้าสื่อ จะถูกหรือผิดใช้กระบวนการพิจารณาของศาลซึ่งอยู่ในขั้นตอนไกล่เกลี่ย วันที่ 10 ธันวาคม นี้ จะไปขึ้นศาล เรื่องนี้จะไม่จบถ้าคนหนึ่งยังสร้างวาทกรรมอำพรางให้อีกคน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแพ้ชนะ มันเกี่ยวกับการหาจุดตรงกลางให้ลูกมากกว่า ไม่ใช่พอลงจากศาลมาก็มาให้สัมภาษณ์

กุ้งพลอย ฟ้อง หนุ่ม ศรราม

ภาพจาก Instagram mama.veeji

ขอบคุณข้อมูลจาก NineEntertain
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ น้ำตาคลอ เผยฟางเส้นสุดท้ายฟ้อง หนุ่ม ศรราม ไม่ยอมให้ถูกใส่ร้ายอีก อัปเดตล่าสุด 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:15:26 12,361 อ่าน
TOP
x close