จุดหนึ่งของชีวิตในวัย 28 ปี มีเรื่องอะไรให้คิดบ้าง ?
เจเจ : มันเริ่มที่ผมทำงานตั้งแต่เด็ก ช่วงประมาณ 20 ปี เราจะเห็นเป้าหมายและอนาคตของตัวเองชัดมากว่าอยากจะไปอยู่ที่จุดไหน ในเรื่องของความสำเร็จที่มันเป็นจุดที่ทุกคนอยากจะไปให้ถึง แล้วก็คิดว่าน่าจะไปถึงได้ แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นพอมาตอนอายุ 28 ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นอะไรเลย เหมือนว่าเป้าหมายหรือความสำเร็จที่เราเคยมองไว้ในอดีตมันเป็นสิ่งที่เราจินตนาการและก็สร้างขึ้นมาเองหมดเลย พออายุ 27-28 ผมได้เริ่มทำบริษัทเอง ได้ทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น มีโปรเจกต์ใหม่ ๆ มากขึ้นที่เป็นส่วนเกี่ยวข้องกับเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ว่าเป็นพาร์ทของธุรกิจมันมองอะไรไม่เห็นเลยในอนาคต
มีอะไรที่เป็นไปได้ไหมที่น่าจะทำจนมาถึงจุด ๆ นี้ ?
เจเจ : พอมาถึงจุดที่มันเป็นปลายของวัยรุ่น ที่กำลังจะไปสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว ผมรู้สึกว่าวุฒิภาวะบางอย่างก็ยังไม่ถึงกับสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ อย่างเช่นการทำบริษัท การที่จะต้องจัดการพนักงาน เรื่องการเงินต่าง ๆ ประมาณต้นปีหรือปีที่แล้ว ผมโฟกัสกับการตามหาสิ่งนี้มากเกินไปจนไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต กลายเป็นว่าสิ่งที่เราเคยสนุกกับมัน ทุกวันนี้ไม่สนุกแล้ว เพราะต้องลงรายละเอียดเยอะ แล้วก็ต้องแก้ปัญหาทุกวัน จะต้องมีเรื่องให้มาคิดตลอด เพราะเราเป็นทั้งนักแสดงและนักร้องเบื้องหน้าด้วย เบื้องหลังเรากำลังเป็นสตาร์ตอัปด้วย เลยทำให้แบบ 25 ชั่วโมงคืองาน ๆ จนสุดท้ายผมคิดว่าตัวเองรับมือกับมันไม่ไหว ก็พยายามจะไม่มองที่อนาคตแล้ว โฟกัสที่ปัจจุบันแล้วก็ทำให้ดีที่สุด เป็นวันต่อวันไปเลย ก็เลยทำให้ถ้าถามว่าอีก 5-10 ปี เราจะเห็นภาพตัวเองเป็นยังไง ก็ยอมรับว่ายังมองไม่เห็น ทุกวันนี้ก็พยายามศึกษาตัวเองไปเรื่อย ๆ หาความรู้ใส่ตัวเรื่อย ๆ
ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
เจเจ : ก็ทรง ๆ ครับ คบกันมา 8 ปีแล้วครับ ต่างคนก็ต่างโต
อะไรที่เป็นความงดงามในตัวเขาที่คุณรู้สึกชอบ ?
เจเจ : เรื่องของความเป็นคู่คิดมั้งครับ หมายถึงว่าพอทำบริษัทด้วยกันแล้ว ผมจินตนาการได้เลยว่าถ้าผมทำสิ่งนี้คนเดียวผมตายแน่นอน โชคดีที่ยังมีเขาอยู่ด้วย เขาช่วยจัดการ ช่วยเป็นคู่คิด ในเวลาที่ต้องตัดสินใจอะไรใหญ่ ๆ เขาก็จะเขามาช่วย เขาเป็นคนเดียวที่เตือนสติผม แล้วผมฟัง เวลาที่ผมทำอะไรผิดไม่ว่าทั้งกับเขาหรือใครก็ตาม เขาจะด่าผมแรงมาก ไม่ใช่คำหยาบนะครับ แต่เป็นคำพูดที่มันแทงเลย
เคยบอกเขาไหม แล้วเขาว่ายังไง ?
เจเจ : บอกครับ เขาก็บอกว่าสมควรแล้ว (หัวเราะ) ด้วยความที่เราคบกันตั้งแต่อายุ 20 เพราะฉะนั้นแล้ว เหมือนเราก็เติบโตมาด้วยกันมา 8 ปี แต่ว่าก็ต้องยอมรับว่ามีนิสัยของผมที่เป็นบางนิสัยติดตัวที่ไม่สามารถแก้ได้สักที ผมก็จะทำผิดเรื่องซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ ทั้งที่ก็พยายามปรับอยู่ แต่ว่าบางทีพอเผลอไปก็พลาดครับ