เพิ่งฉลองครบรอบหนึ่งปี ?
นก : ก็แค่ไปทานข้าวกันในบรรยากาศที่โรแมนติก ก็โรแมนติกดีนะคะ (ยิ้ม) ก็บอกเค้าไปว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้ เราอยากเก็บเงินไว้เพื่ออนาคต
ม่วย : ก็มีการให้สร้อยเขา เพราะว่าวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา พี่นกก็ให้สร้อยมาแล้ว เป็นการแลกกัน ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะให้แหวนในวันครบรอบหนึ่งปี แต่ไปซื้อตอนที่ครบ 7 เดือน ทนไม่ไหว อยากให้แล้ว
นก : เค้าเก็บไม่ไหว เราก็แซวกลับไปว่า จะขอแต่งงานหรอ เค้าก็เอาแหวนมาให้ (ยิ้ม)
ม่วย : เราชอบเซอร์ไพรส์มาก แต่วางแผนทีไรพังตลอด ตั้งแต่วันเกิดพี่นก เค้าก็จับได้
นก : เค้าเป็นคนที่โป๊ะมาก เป็นคนที่โกหกไม่เก่ง ตอนวันเกิดนก นกอยู่ที่จันทบุรี เค้าก็หอบเค้กมาให้ ซึ่งกล่องเค้กใหญ่มาก เค้าเอาผ้าคลุมไว้ เราก็เปิดไป เห็นว่าเป็นเค้ก เราก็คิดว่าอ๋อคงเอามาให้ ไม่ได้มาทำเซอร์ไพรส์อะไร สรุปพอใกล้จะเที่ยงคืน แล้วเปิดประตูมาจากห้องน้ำ เห็นเค้ากำลังยัดเค้กเข้าในตู้เย็น เราเห็น เราก็หัวเราะ รู้เลยว่าโป๊ะแน่นอน
แต่ในทางกลับกัน นกเป็นคนเซอร์ไพรส์เก่งมาก ?
นก : เราอาจจะเป็นคนโกหกเก่ง (ยิ้ม) เค้าอาจจะจับไม่ได้ เราก็เตี๊ยมกับคนที่ออฟฟิศ เพราะเค้าจะมีไลฟ์ เราก็โผล่ไปกลางไลฟ์เลย เอาเค้กไปเซอร์ไพรส์ หลังจากนั้นพอเสร็จแล้ว เราก็ไปนั่งทานข้าวกันสองคน ก็เซอร์ไพรส์อีก ให้เพื่อนแต่ละคนเดินมาจนครบแก๊ง ก็นั่งทานข้าวกันอีก
ม่วย : และมีอีกสิ่งหนึ่งในวันเกิดเรา เค้าวาดรูปให้เรา เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่เรารู้จักกัน เค้าเคยสเกตช์รูปเรา แต่พอมาวันนี้ เค้าก็เซอร์ไพรส์ด้วยการวาดรูปเราให้อีกครั้ง
ย้อนกลับไปครั้งแรก เจอกันได้ยังไง ?
นก : ปี 2548 เป็นปีที่หนูเข้าวงการ เล่นละครเรื่องที่ 2 แล้วก็ได้ไปเจอกัน เล่นเรื่องเดียวกัน
ม่วย : คือเราเป็นเด็กของค่ายอยู่แล้ว แล้วตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่านางเอกเป็นใคร มาเจอในวันฟิตติ้ง พี่เค้าสวยจังเลย เจอครั้งแรก เราก็ชอบเขาเลย ไม่ได้ถึงขั้นว่าเป็นแฟน แล้วก็ได้คุยกับเขาประโยคแรก กินข้าวหรือยังคะ
นก : เจอกันครั้งแรกจำไม่ได้ค่ะ เราก็ไปกองปกติ แต่เราก็ได้ยินว่าเค้าชอบเรา แต่เราก็คิดว่าสงสัยคงแค่ปลื้ม ไม่ได้คิดว่าจะจริงจัง เค้าดูเด็กมาก แล้วแม่ก็หวงมาก บวกกับตอนนั้นเราก็ไม่ค่อย (ยิ้ม) แต่เราก็สนิทกันมาก แม้ละครจะปิดกล้องไปแล้วก็ตาม เค้าก็ไปนอนที่บ้าน มีคีย์การ์ดของหมู่บ้าน เพราะเค้ามาบ่อยจนเราให้คีย์การ์ดไปเลย
เราไม่คิดจะบอกความรู้สึกของเราเลยเหรอ ?
ม่วย : ไม่กล้าบอกเขา เราก็ตัดสินใจว่าไม่บอกดีกว่า เพราะถ้าบอกไป มันอาจจะสูญเสียความเป็นพี่เป็นน้อง ถ้าเราบอกไป เราอาจจะรู้สึกว่าไม่มีเขาอีกต่อไป
นก : ซึ่งเวลาที่เค้ามาบ้านเรา เค้าก็จะให้เราทำกับข้าวให้ เขามาดูหนัง นอนหลับคาทีวี เราก็รู้สึกว่ามันดึกแล้วไม่ต้องกลับหรอกก็นอน ๆ ไปเถอะ แต่ก็งงนะ มีผ้าขนหนู มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยน (หัวเราะ) เค้าบอกว่าดึกแล้ว กลับไม่ได้ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง
ม่วย : เราก็อยู่ในทุกช่วงเวลาของเขา เวลาเค้าคบกับแฟนเขา เค้าแฮปปี้ เราก็อยู่ เค้าไม่แฮปปี้ เราก็ยังอยู่ (เวลาที่เค้าเลิกกับแฟน เราดีใจไหม ?) ตอนนั้นเราไม่ได้คิดถึงโมเมนต์นี้เลย ไม่ได้อยากไปแทนที่ แค่อยากอยู่ข้าง ๆ เขาแบบนี้แหละ
ตอนที่เค้าเสียน้ำตาให้กับความรัก เราปลอบเขายังไง ?
นก : เราก็ชวนเค้าไปทานข้าว เราไม่อยากอยู่คนเดียว บางทีเราก็ร้องไห้ให้เค้าเห็น
แต่มันก็มีจุดนึงที่ทำให้ทะเลาะกัน ?
นก : อย่าเรียกว่าทะเลาะดีกว่า เรียกว่างอน งอนกัน ไม่คุยกัน 13 ปี เหตุการณ์มันเกิดขึ้นคือ นกมีแฟน เค้าเห็นเรามีความสุข เค้าก็เลยรู้สึกว่า เค้าก็เลยอยากคบใครบ้าง ก็มีผู้หญิงเข้ามาคุยกับเค้าเยอะ คือนกพอจะทราบว่าเค้าชอบผู้หญิง แต่ไม่คิดว่าเค้าจะจริงจัง (ไม่คิดเหรอว่าเค้าชอบเรา ?) นกว่าเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว มันก้าวผ่านเส้นนั้นไปแล้ว จนเรามาเป็นพี่เป็นน้องกัน และเขาก็ไม่เคยพูดอีกเลย แล้วพอเค้าไปมีแฟน เค้าก็โทร. มาบอกเราว่า คงไม่ได้โทร. หาพี่แล้วนะ เค้าก็ต้องให้เกียรติแฟนเขา แต่เราก็บอกว่าไม่เป็นไร โทร. หาได้ เพราะเราเป็นพี่เป็นน้องกัน เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร แล้วเขาก็หายไป
ม่วย : คือเราไม่ได้บอกว่าเราชอบเขา แต่คนรอบตัว รวมถึงแฟนเราตอนนั้น ก็รู้ว่าเราชอบเขา เพราะอย่างที่บอกว่าถ้าเราบอกไปว่าชอบเขา แล้วถ้าพี่นกแอนตี้ ก็จะทำให้เราเสียพี่เสียน้องไปเลย
นก : หนูงงว่ามีแฟนแล้ว ทำไมต้องเลิกคบกัน เรางงไง ในเมื่อเราให้ใจเขา และเขาไม่อยากคุย ก็ไม่ต้องคุย เราไม่ได้เสียใจ นกเป็นคนที่ตัดก็คือตัดเลย ก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าฉันไม่มีเพื่อนคนนี้
ม่วย : เรารู้สึกแย่ เราได้ยินคำพูดนี้มาจากพี่ผู้จัดการ เป็นเพราะเราที่เราไม่กล้าพูดเอง ซึ่งเราไม่อยากพูดเพื่อไม่ให้มันบานปลาย ตลอด 10 ปี มันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่ เราเฟล
นก : คือตลอด 13 ปี เขาก็พยายามติดต่อมา นกก็บอกไปเลยว่า นกไม่คุย นกไม่มีอะไรจะคุยด้วย เพราะประโยคสุดท้ายที่เราพูดว่า ม่วยเลือกเองนะ ไม่เป็นไร เราก็วางเลย ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเหตุผล และเขาก็ไม่อธิบาย
ม่วย : ช่วงที่เราได้ยินประโยคนี้ เราก็เงียบเลย หลังจากนั้น เราก็คิดว่าเราจะทำยังไงเพื่อให้เค้ารู้ ว่าเรื่องจริง ๆ มันคืออะไร เราก็ DM ไปในไอจีเขา แต่พิมพ์เสร็จเราก็ลบ แล้วก็ไม่ได้ส่ง
สุดท้ายกลับมาเจอกันได้ยังไง ?
ม่วย : พอดีมันมีงานที่เค้าอยากได้นักแสดงรักษาสิ่งแวดล้อม เราก็นำเสนอว่ามีนักแสดงคนหนึ่งเค้าชอบแนวนี้เลย ก็เลยโทร. ไปหาผู้จัดการของพี่นก
นก : อยู่ดี ๆ เค้าก็โทร. มาหาเรา พอรู้ว่าเป็นเสียงเขา เราก็อึ้ง แต่ก็คุยนิดหน่อย คุยเฉพาะเรื่องงานแบบตึง ๆ เราไม่ได้โกรธเค้าแล้วนะ แต่รู้สึกว่าเขาคือคนแปลกหน้า ก็ทำงานไปปกติ เจอกันก็ตึง ๆ อยู่ ทักทายปกติ แต่ไม่ได้สนิทกันเหมือนเดิม แต่พอจบงาน สักพักเราก็ชวนไปต่างจังหวัด มันเหมือนกลับมาสนิทกันโดยบังเอิญ แต่ก็ไม่ได้ให้เค้าไป
ม่วย : เราก็รู้สึกว่า เราอยากกลับไปเหมือนเดิม ไม่ได้หมายถึงว่าอยากเป็นแฟน แต่อยากกลับไปอยู่ข้าง ๆ เขา เหมือนที่เคยเป็นมา
นก : ผ่านไป 13 ปี เขาก็ยังใช้วิธีเดิม ไม่พูดความจริง ใช้วิธีบอกคนรอบข้าง จนกระทั่งมีวันนึงไปทานข้าวกัน เค้าก็ดื่มนิดหน่อย เสียงดัง แต่ก็ไม่ได้บอกเรานะ บอกคนที่อยู่รอบข้างเรา ว่าชอบเรา
ม่วย : พอตกคืนนั้น เราก็บอกเค้าไปว่า ทำไมพี่ไม่รู้สักที แต่พี่เขาก็บอกว่า เค้ารู้อยู่แล้ว เราก็เลยบอกว่า งั้นพี่ก็เปิดใจซักที ลองให้โอกาสเราได้ไหม
นก : มันเป็นประโยคแรกที่เค้าถามเราอย่างจริงจัง ประโยคนี้มันทำให้เราปลดล็อก ทำให้เราตกหลุมรักเลย วันถัดมาเราก็ชวนไปดูหนัง
ตกลงเป็นแฟนกันตอนไหน ?
นก : หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน ไปทำบุญที่นครนายก แล้วชวนไปกางเต็นท์ เต็นท์เล็กด้วยนะคะ ก็นอนคุยกันทั้งคืน คุยกันเรื่องลึก ๆ ถึงเรื่องความรู้สึก สุดท้ายตอนตีหนึ่ง เค้าก็ขอเราเป็นแฟน เราก็เลยถามกลับไปว่า นึกว่าคบกันมาตั้งนานแล้ว แล้วพอตอนเช้า ก็มีการเดินจูงมือกัน (ยิ้ม)
ปกติ นกเคยคบผู้หญิงไหม ?
นก : ไม่เคยเลย ตอนแรกที่ชอบเขา เราไม่รู้สึกเลยว่าเราชอบผู้หญิง เราแค่รู้สึกว่าเราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ชอบคนอีกคนนึง แค่นั้นเอง แต่พอมาเป็นแฟนกัน ทุกวันที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เค้าจะมีความละมุน เราก็ดูแลตัวเองได้ เขาก็มีด้านอ่อนหวาน มันลงตัวมาก คบกับเขาแล้วมันลงตัวโดยที่ไม่ต้องพยายาม โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย
บ้านของคุณนก เรียกคุย ?
นก : น้องสาวเรา ก็เรียกนกไปคุย เค้าเป็นห่วงม่วย ถามตัวนกตรง ๆ ว่า เค้าไม่อยากให้นกไปทำร้ายจิตใจม่วย ถามว่าจริงจังไหม อย่าไปหลอกเขานะ เราก็ตอบน้องสาวไปว่า เราก็ปั่นป่วนท้องเวลาอยู่ใกล้เขา โอเคงั้นก็แจวกันต่อไป
ม่วย : ทางบ้านเราก็โอเค เพราะเค้าก็รู้จักพี่นกอยู่แล้ว แต่มันก็จะเกิดคำถามว่า ทำไมห่างกันไปตั้งหลายปี แต่พอสุดท้าย หม่าม้าก็บอกว่า ก็สักที
เพราะมันเป็นข่าวแล้ว บางคนก็ยินดี แต่บางคนก็บูลลี่ ?
นก : ก็โดนหลายอย่าง บางคนก็บอกว่าเราหิวแสง คบกันจริงเหรอ สร้างกระแสหรือเปล่า เราสองคนไม่ให้ค่า ปล่อยผ่าน แต่ก็มีบางคนบอกว่ายังไงก็ไม่รอด ไม่เกินสามเดือน อันเนี้ยขำ เพราะเราคบกันมาแล้ว 9 เดือน แต่ก็จะมีบางกลุ่มที่พูดเหมือนเหยียด ว่าผู้หญิงคบกันมันดูผิดปกตินะ เสียของ หรือเสียดายของ
มีแพลนจะแต่งงานกันไหม ?
นก : เราคุยกันตั้งแต่คบกัน 3 เดือนแรกแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าเราเสียเวลาในชีวิตไปเยอะมากแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เวลาศึกษาอะไรกันแล้ว ก็แพลนไว้ว่าแต่งแน่นอน แต่คงไม่ใช่ปีหน้า เก็บตังค์สร้างบ้านอยู่
ม่วย : ในอนาคตก็จะจดทะเบียนด้วยกัน แต่คงไม่ใช่เดือนหน้า ให้คนอื่นไปก่อน
ความในใจหลังห่างมา 13 ปี
ม่วย : ก็ขอบคุณพี่นก ช่วงที่หายไปเราก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียดายเวลาที่ไม่ได้อยู่กับเขา แต่พอเค้าเข้ามา มันก็เติมทุก ๆ อย่างในชีวิต เขาเข้าใจในสิ่งที่ม่วยเป็น รับฟัง พร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน คือไม่ว่าหนูจะเป็นแบบไหน เค้ายินดีที่จะให้เราอยู่ในชีวิตเขา ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด และขอบคุณที่เค้าเปิดโอกาสให้เราได้พบกัน
นก : เค้าเคยพูดกับเพื่อนเราไว้ว่า ถ้าได้เป็นแฟนกัน เค้าจะดูแลนกให้อย่างดีที่สุด แล้วพอมาเป็นแฟนกัน เค้าก็ทำตามที่พูด เค้าดูแลนกดีมาก ๆ น่ารักมาก