

- ลูกชายคนโต ตอนอายุ 4 ขวบครึ่ง อยู่ดี ๆ อารมณ์ก็เปลี่ยนไป ?
เวฟ : อยู่ดี ๆ เขาก็กรี๊ด เขาต่อต้าน หลาย ๆ อย่างรวมกัน แต่ปัจจุบันนี้ก็โอเคแล้ว ว่านอนสอนง่าย เชื่อฟัง แล้วก็มีความคิดที่โตขึ้น ซึ่งพฤติกรรมที่เขาเปลี่ยนไป อาจจะเกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง ซึ่งวิธีแก้ของเราก็คือ ถ้าเขาอยากอยู่กับแม่ก็ให้เขาอยู่กับแม่ ถ้าแม่ไม่อยู่ เขาก็อยู่กับผมได้ ทำเองได้ทุกอย่างปกติ
- อีกส่วนหนึ่งติดมาจากพฤติกรรมของพี่เลี้ยงในอดีต ?
บุ้ง : เราแอบเห็นพฤติกรรมพี่เลี้ยง ที่ก้าวร้าว โดยท่าของพี่เลี้ยง กับน้องบุญ คือท่าเดียวกัน อาทิ การตะโกน ก็จะยืนเหมือนกัน พี่เลี้ยงเขาอาจจะควบคุมตัวเอง เขาก็เลยอาจจะก๊อบปี้พฤติกรรมพี่เลี้ยงออกมา ซึ่งมันอยู่ในช่วงที่อายุเขากำลังจำ และเราไปดูกล้องวงจรปิด เราเห็นเขายืนกระทืบเท้าต่อหน้าลูกเรา เวลาเราไม่อยู่ และใช้คำพูดรุนแรง และบ้านเราอยู่กันหลายคน ก็มีคนมาเล่าให้ฟังว่าพฤติกรรมเหมือนก๊อบปี้กันมา
- และมีการแอบเตะลูกด้วย ?
เวฟ : ใช้คำว่าเขี่ยแล้วกัน
บุ้ง : ถามว่าเราจัดการยังไง คือบ้านบุ้ง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์เลย แต่ก่อนน้องบุญอาจจะไม่ได้เป็นเยอะ แต่พี่เลี้ยง เขาอาจจะมีปัญหาทางครอบครัว ความเครียดสะสมอะไรมา แล้วมาระเบิดช่วงนั้น เป็นช่วงที่เขามาขอลาพักพอดี พอเขาขอพักไปสองเดือน ตอนแรกเขาจะกลับมา แต่คนที่บ้านเขารักลูกเราเหมือนกัน เขาก็เลยมากระซิบว่าอย่าเอากลับมานะ เราก็เลยไปย้อนดูคลิปต่าง ๆ
เวฟ : ก่อนหน้านี้ผมก็บอกกับภรรยาว่า อย่าไปยึดติดกับพี่เลี้ยง เด็กมันต้องโต เด็กมันต้องเจอกับใครหลาย ๆ คน เพราะฉะนั้นถ้าเห็นว่าลูกเราติดเขา เราจะเปลี่ยนไม่ได้ มันคือไม่ใช่ เราเอาความสบายใจของเรา เพราะสุดท้ายแล้วเด็กจะปรับด้วยตัวของเขาเอง ตอนแรกเขานอยด์มาก จะเอาคนเดิมกลับมา
บุ้ง : ด้วยความที่ไว้ใจ เพราะเขาอยู่มาเกือบ 2-3 ปี
เวฟ : ถามว่าโกรธไหม คือเรื่องนี้ผมปล่อยให้ภรรยาตัดสินใจ แล้วถ้าเราตัดสินใจ และถ้าเขาไม่แฮปปี้ มันก็อาจจะมีปากเสียงกัน ก็เลยให้เขาตัดสินใจไปเลย
บุ้ง : เอาจริง ๆ นะเวลาเลือกพี่เลี้ยง ส่งดวงให้ซินแสดูโหงวเฮ้ง แต่คนที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราไม่ได้ส่งให้ดู

- เห็นว่าเราก็เอาเหตุการณ์ตรงนี้ไปปรึกษากับนักจิตแพทย์ ?
บุ้ง : เราก็เอาไปเล่าให้เขาฟัง ซึ่งก็มีนักจิตฯ ของบุ้งเอง และน้องบุญก็มีของตัวเอง ที่ต้องมีเพราะว่าเขามีช่วงที่เขาพีค เป็นเด็กวิตกจริต เป็นเด็กที่ไม่กล้าจะทำอะไรเลย เกือบซึมเศร้า ก่อนนอนเขาร้องไห้ทุกคืน ตอนนี้ก็คือใช้นักบำบัด 3 คน เจอทุกอาทิตย์ และก็เพิ่มจิตแพทย์เพิ่มอีกหนึ่งคน ตอนนี้โอเคขึ้นเยอะแล้ว
เวฟ : ซึ่งมันไม่ได้อยู่ที่ดวง มันอยู่ที่เรานี่แหละ เราต้องดูแลเองเพราะเขาเป็นลูกเรา ส่วนใหญ่ที่เราไม่ว่าง หรือว่าเราต้องการกำลังเสริม ก็เอาเขาเข้ามาเสริม อย่างคนเล็กได้พี่เลี้ยงดี ได้ทั้งพี่เลี้ยง เป็นทั้งแม่ครัว ทำสวนด้วย และเป็นคนนั่งดริงก์เป็นเพื่อน (ยิ้ม)
บุ้ง : ตามความคิดของบุ้ง บุ้งคิดว่าไม่ควรใช้เขาทำงานหนักเกินไป ไม่งั้นเขาจะมีความเครียด หลายคนอาจจะมองว่าทำไมเราใช้พี่เลี้ยงเยอะ ซึ่งจริง ๆ มี 3 คน แล้วก็มีพี่เลี้ยงที่เป็นกึ่งแม่ครัว แล้วก็มีคนรถ ที่ต้องดูแลพี่บุญ ทั้งหมด 5 คน
- ชาวเน็ตบอกบ้านนี้เลี้ยงลูกเว่อร์ไปไหม ?
บุ้ง : บุ้งไม่ค่อยได้แคร์เรื่องนี้ การที่เรามีพี่เลี้ยงเยอะขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีเวลาดูลูกนะ เรามีเวลาดูลูกได้เต็มเวลา ไปส่งไปรับตลอด การที่เราใช้พี่เลี้ยง แล้วเวลาเราไปงาน เราจะได้ไว้ใจพี่เลี้ยง ว่าเขาเลี้ยงลูกเราดี 100%
- อย่างก่อนหน้านี้ ไม่อยากให้ลูกไปออกแคมป์กับพ่อ ?
บุ้ง : ตั้งแต่เราไปพบกับนักจิตบำบัด เราก็ให้เขาพาไปได้ แล้วเราได้ดูพฤติกรรมลูกของเรา เราก็อยากให้เขาเพิ่มความแข็งแกร่ง ลุยขึ้นมาหน่อย
เวฟ : อย่าใช้คำว่าปล่อย ผมขโมยไปดีกว่า อย่างตอนที่ภรรยาไปกับลูกคนโตไปต่างประเทศ และเราก็ต้องเลี้ยงลูกคนเล็ก เราก็เลยบอกแม่บ้านว่าไปตั้งแคมป์กันดีกว่า ตัวเล็กอยู่ง่าย ชอบธรรมชาติ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama



