แพท ณปภา เล่าปมโดนทัวร์ หลังอีเวนต์คู่ โตโน่ วันนั้นเกิดอะไร - ทำไมดับจิ้นเอง

          จากประเด็นร้อนของ โตโน่ ภาคิน ที่ถูกหมอของขวัญ ออกมาแฉเรื่องที่เคยจ้างออกงานอีเวนต์กับ แพท ณปภา ในช่วงที่มีกระแสคู่จิ้น โตโน่ แพท โดยจ่ายค่าจ้างไป 2.5 แสน ได้ไม่ได้งานตามตกลง สวมชุดไม่ตรงธีม ซ้ำยังไม่ขอยืนติดหรือถ่ายรูปคู่กับ แพท ไม่อย่างนั้นจะอีกราคาหนึ่ง 

          อ่านข่าว : หมอของขวัญ แฉแรง จ้างงานอีเวนต์ โตโน่-แพท นักร้องย้ำไม่ยืนติด ฟังคำพูดแล้วจี๊ด !

          ล่าสุด (17 เมษายน 2568) แพท ณปภา ได้พูดถึงกระแสข่าวดังกล่าวในรายการ แชร์ข่าวสาวสตรอง ช่องไทยรัฐทีวี โดยบอกว่าเรื่องมันนานมาแล้ว ถ้าให้พูดตรง ๆ คือคนอื่นพูดแทนแพทไปหมดแล้ว 

          แพท เผยว่าจริง ๆ ลืมไปหมดแล้วเพราะมันก็ตั้ง 9 ปี จนมีเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์จำได้ เลยมานั่งคุยกันว่าจริง ๆ ก็มีเหตุการณ์มาตลอด แต่เราก็เลือกที่จะโดนทัวร์ลงไปก่อน ณ วันนั้น เนื่องจากเราเป็นคนออกตัวเลยว่าไม่จิ้นต่อ อยากเป็นพี่น้องที่แสนดี แล้วเราก็ไปคุยกับอีกคนเลย คือพ่อของเรซซิ่ง ทัวร์ก็เลยไม่แฮปปี้กับแพท ณ โมเมนต์นั้น 

          ซึ่งเธอก็ไม่อะไรหรอก ทัวร์ลงก็ไม่เป็นไร เรามีชีวิตของเราก็ต้องเดินต่อไป แต่ ณ วันนั้นเธอก็เข้าใจคนที่จิ้น เขาก็ไม่ได้รู้หลังบ้านว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอก็ไม่ได้พูด พูดแค่สั้น ๆ แล้วก็ไปคุยกับคนนี้แล้ว 

          คือย้อนกลับไป 9 ปีก่อน แพทอาจจะไม่ได้เป็นฟีลจิ้น คือเหมือนก็เป็นคนรู้สึกจริง อาจจะไม่เข้าใจเรื่องจิ้นมาก แต่แฟนคลับก็อาจจะงง ๆ อยู่ เราก็คิดว่าทัวร์ลงก็ลงไป เดี๋ยวทัวร์ก็หายไป เราก็ใช้ชีวิตของเรา แต่เมื่อเราตัดสินใจจะหยุดและไปคุยกับคนอื่น เราก็ต้องให้เกียรติคนที่เราคุยอยู่ 

          จนผ่านไป 9 ปี แล้วมาอ่านที่หมอของขวัญโพสต์ ถึงนึกถึงเหตุการณ์ ณ วันนั้นได้ ตอนแรกเธอก็ยังงงว่าหมอของขวัญจะมายืนตรงกลางทำไม เธอไม่รู้เลยแม้แต่เรื่องค่าตัว เธอไม่ได้โฟกัส ก็แค่ไปงาน เธออาจจะแค่งงในโมเมนต์แรกว่าทำไมไม่ได้ไปอยู่หลังเวที กลัวคุณหมอเข้าใจว่าแพทเรื่องมาก ทำไมต้องให้เรามาอยู่ร้านกาแฟดี ๆ แพทรู้สึกว่าตัวเองอยู่หลังเวทีได้ ก็กลัวจะคิดว่าเราเยอะ ต้องมาอยู่ร้านแยก คิดเท่านั้น

          แล้วตอนขึ้นเวทีเขาก็แจ้งแค่ออกคนละฝั่ง เราก็โอเค ไม่รู้อะไร จนมายืนขึ้นเวทีก็งงว่าหมอของขวัญมายืนตรงกลางทำไม 

          เธอลืมเหตุการณ์ไปแล้ว แต่ก็เคยมีเล่ามีบ่นให้เพื่อนฟัง เราก็รู้แค่ว่าไม่สามารถที่จะอยู่ห้องพักเดียวกันได้ ไม่ได้มีการคุยอะไรกัน แพทรู้ทุกอย่างหน้างาน พอไปถึงแพทก็พยายามชี้แจงว่าแพทอยู่หลังเวทีได้ ไม่ต้องมาจัดร้านแยก จนสุดท้ายถึงได้รู้ว่าเป็นการรีเควสของอีกฝั่ง ว่าให้แยก

          อันนี้ต้องชี้แจงว่าแพทไม่เข้าใจในตอนนั้น จนวันที่ไปงานแล้ว เราถึงรู้ว่ามันเป็นการรีเควสจากอีกฝั่ง ที่ขอให้แยกไปเลย เราเพิ่งจะมาเข้าใจหลังจบงาน 

          เอาเป็นว่าเขาไม่ได้คุยอะไรกับเราเลย เราไม่ได้คุยกัน ไหน ๆ ก็มีคนอยากถาม เราก็ขอชี้แจงตรงนี้ แต่เราก็รู้สึกว่าคนอื่นพูดแทนเราไปหมดแล้ว ทั้งคุณหมอ ออร์แกไนซ์ เพื่อน 

          แพท ยอมรับว่า จริง ๆ ก็เคยมีคนพยายามจะพูดเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ทนกระแสทัวร์ไม่ไหว ก็เลยเงียบกันไป ไม่ใช่ว่าไม่พูดตั้งแต่ตอนนั้น พอวันนี้มาพูดกันใหญ่เลย ซึ่งหากพูดกันตั้งแต่วันนั้นก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก มันพูดยาก