Mind Set ของคนเป็นแม่ ?
มิว นิษฐา : 3 ปีกับการมีลูก 2 คนของมิว ก็เป็น 3 ปีที่ค่อนข้างที่จะเปลี่ยนทัศนคติเราเยอะเหมือนกัน จากตอนแรกที่มีลูกคนแรก ก็รู้สึกว่าทำหน้าที่แม่ทำไงก็ได้ให้เลี้ยงลูกคนนี้ได้ดีที่สุด แต่พอตอนนี้เรามี 2 คนแล้ว นอกจากความเป็นแม่ที่เราตั้งใจจะเลี้ยงเขาทั้ง 2 คนให้มันดี แต่ตอนนี้เหมือนเราเป็นคนที่จะทำให้ครอบครัวมันกลมมากขึ้น เพราะสมาชิกเยอะขึ้น เราไม่ใช่ทำหน้าที่แค่แม่แล้ว ดูแลครอบครัวให้เป็นครอบครัวจริง ๆ
เมื่อก่อนเราก็เป็นลูกคนหนึ่งที่มีแม่จัดการให้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้พอเป็นแม่เองเรารู้เลยค่ะ ว่าความเป็นแม่มีรายละเอียดหลายอย่างเยอะมาก นอกจากดูแลเรื่องตัวเอง ดูแลลูก ดูแลครอบครัว เรื่องบ้าน เรื่องคนในบ้าน แต่ละวันมีเหตุการณ์มีอะไรเกิดขึ้นทุกคนจะต้องมาหาเราซึ่งเป็นแม่ เป็นคนดูแลบ้านหลังนี้ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข มันใจฟูแล้วมันเต็มเปี่ยมอยู่ข้างในมาก ๆ เลยค่ะ ไม่สามารถเทียบความสุขนี้กับอะไรได้เลย เพราะเป็นความสุขที่เกิดขึ้นมาใหม่ อายุจะ 30 แล้วเพิ่งจะค้นพบความสุขแบบนี้
สำหรับคนที่กำลังจะมีลูก สำหรับคุณทัศนคติที่คิดว่าทิ้งไปเถอะไม่จำเป็นต้องมีคืออะไร ?
ความเครียดเรื่องน้ำนม ?
มิว นิษฐา : สำหรับตัวมิวก็จะเป็นเรื่องน้ำนม มิวเชื่อว่าแม่หลาย ๆ คน ก็คือเรื่องน้ำนมนี่แหล่ะคะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรื่องน้ำนมมันถึงยาก เราก็จะเข้าใจว่าธรรมชาติถูกสร้างมาว่ามันจะต้องมีน้ำนมเพียงพอให้ลูกกิน แต่ว่าอย่างของตัวมิวเอง แล้วก็หลาย ๆ คนที่มาปรึกษาเขาก็จะมีปัญหาเรื่องนี้ เรื่องน้ำนมที่มันไม่เพียงพอต่อลูก
เชื่อว่าคุณแม่ร้อยทั้งร้อยก็อยากที่จะให้นมเรา 100% แต่พอมันไม่เป็นอย่างนั้นมันก็เลยจะเครียด ก็ต้องหาวิธีกินสารพัดของที่เขาเชื่อว่ามันจะให้น้ำนม เช่น หัวปลี ลองสารพัดวิธี แล้วพอมันไม่มาก็จะเครียด พอมันเครียดก็จะยิ่งไม่มา ก็จะวนซ้ำ ๆ แบบนี้ พอมันไม่มาก็ต้องยอมให้ลูกกินนมที่ไม่ใช่นมเรา มันก็จะรู้สึกแอบผิดหวังนิดหนึ่งในใจ ซึ่งตอนนั้นเขาจะกินได้แค่นมอย่างเดียว น้ำเขาก็ไม่กินเด็กเพิ่งคลอด แล้วถ้าเราเป็นแม่ยังให้เขาไม่ได้ ก็จะรู้สึกแบบทำไมแค่นี้เราทำไม่ได้ มันมาจากตัวเราอะ มันเป็นความรู้สึกผิดหวังของแม่ค่ะ






