

- อินเลิฟ หัวใจเป็นสีชมพู ตอนนี้ความสวีตหวานของคุณแม่กับคุณต๊อด (เสธ.ต๊อด พล.ต. วินธัย สุวารี) เป็นยังไง ?
เบล : เรียกได้ว่าเป็นความผูกพัน ความเอาใจใส่ดูแล ดีกว่าค่ะ พี่ต๊อดเขาก็จะมาทานข้าวทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทุ่มนึงเหมือนตอกบัตร มาทุกวัน เขาก็ผลัดกันเอาใจ ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้บ้าง แม่ก็จะทำอาหารคลีนให้บ้าง พี่ต๊อดเขาก็รู้ใจแม่อยู่แล้วจะซื้อโน่นนี่มาให้
แก้ว : เขารู้ใจโดยการถาม จะกินอะไร เดี๋ยวจะไปซื้อมา เป็นคำถามยอดฮิตของที่บ้าน เย็นนี้จะกินอะไร แล้วจะเกลียดมาก เวลาใครตอบอะไรก็ได้ เพราะทำให้เหนื่อยมากในการคิด พี่ต๊อดก็จะซื้อและหอบมาทุกวัน เป็นพ่อบ้าน
เบล : นอกจากซื้อให้แม่ ยังซื้อเผื่อลูก ๆ ด้วยค่ะ
แก้ว : นี่คือสิ่งที่พี่ต๊อดทำเสมอ ๆ เด็ก ๆ ก็รู้สึกแฮปปี้ น่ารัก เวลาไปเที่ยวด้วยกันเขาก็น่ารัก คอยดูแลทุกคน เป็นสปอนเซอร์ด้วย เป็นทุกอย่าง
เบล : เขารักคุณแม่จนเผื่อแผ่มาถึงพวกเบลด้วย เวลาไปเล่นสกีเขาก็เป็นคนคอยดูแล เป็นผู้นำทริป เป็นความหวานอย่างนึง แต่ด้วยความที่มันนานมากแล้ว ก็อาจไม่ได้สวีตหวานแหววแบบวัยรุ่น เป็นหวานแบบผู้ใหญ่ ดูแลใส่ใจมากกว่า
แก้ว : ต๊อดไม่ได้ดูแค่แก้ว ตอนลูกชายแก้วบาดเจ็บ ลูกชายงอนแก้ว เขาเห็นสีหน้าลูก และเห็นลูกเหยียดแขนไม่ได้ ก็จะถามว่าเป็นอะไร เรางอนลูกอยู่ก็หันข้างตลอดเวลา ลูกบอกไปเล่นสเกตบอลล้ม เขาบอกไป รพ. เลย แขนหักแล้วเนี่ย แม่ก็ไม่รู้เรื่อง จนลูกแขนหัก ต้องผ่าตัด กระดูกออกมาเป็นเสี่ยงแล้ว เขาช่วยหมด
- ลูกสาวสวยขนาดนี้ โสดหรือเปล่า ?
เบล : ไม่โสดแล้ว (หัวเราะ) เป็นคนนอกวงการ คบมา 2 ปีครึ่งค่ะ
- แม่โอเคไหม ?
แก้ว : โอเคนะ เขาวัยเดียวกัน ใหม่ ๆ ก็คิดว่าเพื่อน เอ๊ะ เพื่อนมาบ่อย

- หวงไหม ?
แก้ว : เบลโตขึ้นกว่าเดิม ที่เคยหวงมาก ๆ เขามีครูเป็นความเจ็บปวดหลายเรื่องแล้ว ฉะนั้นเมื่อคนเราได้รับบทเรียนเองแล้ว บางทีไม่ต้องสอนอีก ในความคิดพี่แก้วนะ อะไรบอกเล่าแทบตาย ร้อนนะอย่าไปแตะ ไหนร้อนเป็นไง เมื่อเขามีบทเรียนแล้ว ก็คิดว่าเขาน่าจะดำเนินชีวิตได้ดีประมาณหนึ่ง เพราะเกราะคุ้มกันดีขึ้น
- คนนี้พัฒนาจากการเป็นเพื่อน ?
เบล : ใช่ค่ะ เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน เราเคยเจอหน้าค่าตามาหลายปีมากแล้ว ในยิม วันเกิดเพื่อน ไปเที่ยวก็เจอกัน คุยเล่นกัน แต่ตอนนั้นต่างคนต่างไม่ว่าง จนวันหนึ่งเรามาเจอกันอีก คุยเล่นเหมือนเดิม แต่คุยแล้วเหมือนโฟลว เบลชอบฟังเพลง เขาก็ชอบเหมือนกัน เริ่มคุยกันถูกคอตั้งแต่ตรงนั้น เขาทักมา เราก็คิดว่าเพื่อนแหละ เราคงคุยกันถูกคอเฉย ๆ ฝั่งเขาก็คิดเหมือนกันว่าเพื่อนแหละ เขาทักว่านอนยัง วันนั้นเราไปเที่ยวกัน เราไปงานคอนเสิร์ต เขารู้ว่าเรามีถ่ายละคร เขาก็บอกยังไม่นอนอีกเหรอ นอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้ต้องทำงาน
- ผู้ชายชอบเบลมานานแล้ว ?
เบล : จริงเหรอคะ (หัวเราะ)
- ชอบเขาตรงไหน ?
เบล : เขาก็เป็นตัวของตัวเอง เป็นคนคารมดี เป็นคนตลก เวลาอยู่ด้วยมองโลกในแง่ดีมาก ๆ ก็เลยสบายใจ เหมือนรุ่นเดียวกัน เหมือนเบลได้เพื่อนสนิทอีกคนที่คุยกันถูกคอ

- แรก ๆ ไม่กล้าให้เขามาส่งที่บ้าน ?
เบล : ใช่ ช่วงนั้นเบลโสด แม่เขาเริ่มสแกนแล้ว คุยกับใคร ทำอะไร เราไม่แน่ใจว่าเขาจีบเราหรือเปล่า อาจแค่เพื่อนก็ได้ พอเขามาก็ไม่อยากให้แม่คิดไปไกล ถ้าเรามั่นใจค่อยพาไปแนะนำ แต่อันนี้เป็นเพื่อนผู้ชาย เราคิดว่าเดี๋ยวเขาคิดไปไกล ตอนเขามารับไปเดตครั้งแรกก็บอกเขาว่าให้ไปจอดไกล ๆ อย่ามาจอดหน้าบ้าน (หัวเราะ) เดี๋ยวเดินไปเอง เขาจอดรออยู่ สองสามเดือนเลยค่ะที่จอดอยู่อย่างนั้น
- แม่ระแคะระคายบ้างไหม ?
เบล : มี ๆ ตอนขับมาส่ง แม่รดน้ำต้นไม้อยู่ ก็เจอกัน แม่ก็ถาม แม่ก็มอง เราก็บอกว่าเพื่อน ตอนนั้นเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่เริ่ม ๆ คุยกันแล้ว
- จะแต่งงานแล้วจริงหรือเปล่า ?
เบล : ไม่ มีการคุยกันไว้เฉย ๆ แพลนว่าปีนี้เบลก็เข้าอายุเลข 3 แล้ว ก็เลยแบบ คิดอะไรยังไงบ้าง เขาบอกว่าไม่เกิน 35 แล้วกัน
- แม่ว่าไง ?
แก้ว : แค่คิดแหละ จบ ๆ ถ้าจริงก็ค่อยว่ากัน (หัวเราะ)

ติดตามบทสัมภาษณ์ของ แก้ว อภิรดี กับลูกสาวแบบเต็ม ๆ ได้ในรายการคุยแซ่บShow ออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama


ภาพจาก Instagram kaew_apiradee

ภาพจาก Instagram kaew_apiradee

ภาพจาก Instagram kaew_apiradee