

- บ้านมีเงิน แต่เลี้ยงลูกง่าย ๆ ชิล ๆ สายลุย เราตั้งใจหรืออยากให้ลูกเป็นแบบนั้น ?
ริต้า ศรีริต้า : จริง ๆ ริต้าชอบแบบนั้นจริง ๆ ริต้าเป็นเด็กที่รักธรรมชาติมาก ริต้าเป็นเด็กเดนมาร์ก อยู่ชานเมือง อยู่ชนบท เป็นเด็กต่างจังหวัดของเดนมาร์ก ทุกปีเราต้องกลับไปหาคุณพ่อ อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า เราก็มีความผูกพัน เราชอบอยู่กับธรรมชาติ ตอนคบกับคุณกรณ์แรก ๆ ก็ดึงเขามาเวย์นี้เยอะเหมือนกัน
- สอนให้รักธรรมชาติ และสอนให้รับผิดชอบงานในบ้านด้วย ?
ริต้า ศรีริต้า : ใช่ มีการปลูกผัก แล้วเราปลูกกันจริง ๆ ปลูกพริก ตะไคร้ มะกรูด ใบกระเพรา ให้ล้างขวดนมเอง ทำทุกอย่างตั้งแต่เด็ก พอมือไม้เขาได้แล้ว นอกจากความเป็นแม่อ่านหนังสือให้เขาฟัง เราคิดว่าเราจะทำอะไรให้เขาอีกดี เขาเริ่มอยากหยิบจับ ก็เริ่มจากการคั้นน้ำส้มก่อน เริ่มทำอาหาร ทำขนมก่อน เขาก็เริ่มใช้มือเป็นแล้ว หลัง ๆ เขาเริ่มเก่ง เริ่มตำส้มตำ เริ่มเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ปั้นคุกกี้ ทำเกี๊ยว เขาก็เอนจอยการทำงานบ้านตลอด ขอแค่มีอะไรให้เขาทำ ถ้าเราแย่งเขาทำก็ไม่ได้นะคะ เราเหมือนเป็นลูกมือเขาเฉย ๆ เขาจะจัดการทุกอย่างเองหมดเลย พลังเยอะมากค่ะ
- ต้องส่งเรียนอะไรหลาย ๆ อย่างไหม ?
ริต้า ศรีริต้า : เยอะมากค่ะ เรียนฟุตบอล เรียนทั้งวัน เข้าแคมป์ฟุตบอล เรียนว่ายน้ำ เขาก็ได้เหรียญได้อะไรมา เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจ พลังเขาเยอะ กลับมาเขาก็ยังเล่นได้อีก พลังเยอะมากจริง ๆ ค่ะ

- พูดก็เพราะด้วย ?
ริต้า ศรีริต้า : พูดเราก็สอนนะคะ บางทีเขาก็มีพูดไม่ค่อยเพราะบ้าง ไม่ได้มีหางเสียงคำว่าครับ เราก็บอกว่ากวิณท์พูดไม่เพราะเลย พูดบ่อย ๆ จนเขาจำได้ว่าอยู่กับแม่ต้องพูดครับ ก็ฝึกให้เป็นวินัย ฝึกให้เป็นนิสัยค่ะ
- ริต้าซีเรียสเรื่องวินัย ต้องแปรงฟัน ?
ริต้า ศรีริต้า : อยากให้เขาฝึกตั้งแต่เด็ก โลกความเป็นจริง ทุกคนต้องมีวินัยเรื่องเวลา ในเรื่องการดูแลตัวเอง ริต้าจะฝึกให้กวิณท์เริ่มเก็บของเล่น สมมติเล่นอะไรขอให้เก็บอันนี้ก่อน แล้วค่อยเล่นอีกอัน ฝึกให้เขาเก็บของเล่นเป็น อะไรที่เขาทำเองได้ก็ให้เขาทำเอง อย่างการแปรงฟัน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาทำได้ อยากให้เขามีวินัยในการทำเอง
- ดื้อไหม ?
ริต้า ศรีริต้า : มีค่ะ เหมือนเด็กทุกคน ดื้อบ้าง ก็ดุเหมือนแม่ๆ ทุกคน (หัวเราะ) เขาก็ฟัง ริต้าว่าริต้าน่ากลัวนะ (หัวเราะ) สำหรับลูก เราก็น่ากลัวนะ

- ดุลูกก็เป็นเสียงแบบนี้ ?
ริต้า ศรีริต้า : ประมาณนี้ค่ะ เราพูดกันแบบมีเหตุผล ไม่เอานะ กวิณท์ แบบนี้ไม่น่ารักนะ เดี๋ยวไม่มีใครรักนะ เขาก็จะหยุดค่ะ
- สมัยก่อนตอนคบกันใหม่ ๆ เคยคบแล้วเลิกกันไป แล้วกลับมาคบกันอีกครั้ง ช่วงสองปีแรกเป็นความลับต้องปิด เรื่องราวเป็นยังไง ?
ริต้า ศรีริต้า : กับคุณกรณ์ตอนเรากลับมาคบกันแรก ๆ ความที่เราเคยคบกันแล้วตอนเด็ก ๆ ตอนนั้นริต้าอาจเด็กมากด้วยค่ะ อายุ 20 ต้น ๆ ครั้งนี้เรารู้สึกโตมากแล้ว ถ้าคบครั้งนี้ เราไม่อยากเสียเวลากัน ถ้าใช่ก็คือใช่ ถ้าไม่ใช่ก็แยกย้ายเลย แล้วไม่อยากเป็นข่าว อยากปิดเป็นความลับ อยากให้เป็นเรื่องของคนสองคนจริง ๆ แล้วโชว์ตัวตนของเรามากที่สุดเลย คุณกรณ์ตอนนั้น ณ เวลานั้นจะมีภาพเป็นคุณชายมากเลย เขาจะเนี้ยบมาก คุณชายมาก ๆ สิ่งที่เราคอนเซิร์นคือเขาจะเข้ากับเราได้ไหม เราก็เป็นนักแสดงหนึ่งคนที่ลุย ๆ ทโมนมากเลย เขาจะอยู่กับเราได้ไหม จะกินก๋วยเตี๋ยวได้ไหม มากองถ่ายแล้วเป็นยังไง สภาพอยู่ต่างจังหวัดยาก ๆ เขาจะอยู่ได้ไหม ห้องน้ำห้องท่า เขาทำได้หมดเลย อาหารข้างทางเขาก็กินได้ ทุกอย่างที่เป็นเรา เขารับได้ พอเขารับได้ เราก็รู้สึกว่าเขาอยู่กับเราได้ เขาไม่ได้เป็นคุณชายที่ต้องติดหรู อยู่สบายขนาดนั้น เขาอยู่แบบนี้ก็ทำได้ คราวนี้เราก็ปรับตัวฝั่งเรา ไปหรู ๆ แบบนั้นเราก็สบาย ๆ อยู่แล้ว เราก็ทำได้ เขารับเราที่เป็นเราได้ ก็อยู่กันได้มาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ มันคือการรับตัวตนซึ่งกันและกันได้
- ตอนรักกันไม่อยากเป็นข่าว ?
ริต้า ศรีริต้า : ไม่อยากเป็นข่าว ช่วงนั้นมีปาปารัสซีด้วย ยุคนี้อาจไม่เข้าใจ (หัวเราะ) เราก็ต้องการความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ถ้าไปกินข้าวที่ไหนต้องไปรถคนละคัน เข้าห้องคนละห้อง ไปคนละไฟลต์บ้างเวลาไปต่างจังหวัด แล้วไปเจอกัน ชีวิตลำบากมากค่ะ พอมาพูดตอนนี้มันตลกตัวเองค่ะ แต่วันนั้นมันเหมือนเราไม่อยากเป็นข่าวจริง ๆ อยากให้มั่นใจก่อน เรียบรู้กันจริง ๆ ค่ะ มีปลอมตัว ไม่ให้คนจำเราได้ มันเป็นยุคนั้น เด็กเดี๋ยวนี้อาจไม่เข้าใจ



