
ภาพจาก YouTube เหลือเฟือ ชาเเนล
หายหน้าจากวงการไปนับสิบปี สำหรับ แห้ว รีเจนซี่ อดีตตลกชื่อดัง ที่ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐฯ โดยถือสัญชาติอเมริกัน อย่างไรก็ตาม ไม่นานมานี้ แห้ว รีเจนซี่ เพิ่งจะเดินทางกลับมาประเทศไทย และได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง เหลือเฟือ จ๊กม๊ก จึงได้มานั่งพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตทาง YouTube ช่อง เหลือเฟือ ชาเเนล ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568
โดยมีการเปิดเผยว่าครั้งล่าสุดที่ เหลือเฟือ เจอ แห้ว รีเจนซี่ คือเมื่อปี 2543 หรือเมื่อ 25 ปีก่อน ตอนที่ไปญี่ปุ่นด้วยกัน "จำได้เลย ปีนั้นเป็นปีอุทกภัย แผ่นดินสะเทือน เราก็ไปสนุกกันที่ญี่ปุ่นใช่ม้า แล้วพอข่าวมันมา มาถึงเมืองไทยนี่ตกใจไปหมด มีแต่นักข่าวทั้งนั้น ก็โอเคว่ากันไป ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ ตอนนั้นปี 2000 ตอนนี้ 2025 แล้ว 25 ปีแล้ว"
ซึ่งข่าวที่ว่า ก็คือกระแสข่าว แห้ว รีเจนซี่ เลิกกับนักร้องดัง ลูกน้ำ พาเมล่า นั่นเอง

ภาพจาก YouTube เหลือเฟือ ชาเเนล
แห้ว รีเจนซี่ ที่ขณะนี้อายุ 63 ปีแล้ว ยังเล่าย้อนเส้นทางตลก บอกเริ่มแรกอยู่กับตลกคณะ 4 ดอกจิก เป็นตลกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มเข้าสู่แวดวงการแสดงเพราะตอนเรียนรามฯ ได้ไปร่วมกิจกรรมกับชมรมลูกทุ่งสุโขทัย วันหนึ่งตอนเล่นอยู่กับชมรม ตลกคณะ 4 ดอกจิกมา แล้วก็ให้นามบัตรไว้ จนวันหนึ่งเราติดต่อไปตามนามบัตร ก็ได้ไปเป็นตลกอาชีพกับคณะเขา เขาก็สอนว่าตลกคาเฟ่เป็นยังไง จึงได้เรียนรู้จากตรงนั้น
อยู่ 4 ดอกจิก 10 ปี แล้วเพิ่งกลายมาเป็น แห้ว ตอนอยู่กับ เต่า เชิญยิ้ม ยอมรับว่าเป็นตลกที่พรสวรรค์น้อย แต่มีพรแสวง มีการจดคำพูดจากคนอื่น นำมาศึกษาเรียนรู้จนรู้ว่าอยู่ที่จังหวะในการเล่น
จากนั้นหลังจากการบวชสมเด็จย่า 2 สัปดาห์ ก็มีบริษัทโฆษณาติดต่อมาให้ไปแคสต์งานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วได้ จึงกลายเป็น แห้ว รีเจนซี่ และมีชื่อเสียงมากขึ้น มีละครเข้ามา แล้วออกจากคณะเต่าเพราะงานเยอะ ก่อนจะย้ายไปอยู่คณะกล้วย เชิญยิ้ม แล้วจึงย้ายไปอเมริกา
จากนั้นชีวิตผกผันต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วย ตนเก็บหอมรอมริบ พยายามหาเงินไปรักษาแม่ จนมีผู้ใหญ่ชวนไปอยู่ที่อเมริกา พอไปอยู่ 2 ปีกว่า ๆ คุณแม่ก็เสีย คุณพ่อก็เสียไปแล้ว เลยใช้ชีวิตที่นั่นไปเลยเพราะไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว แต่ก็ยังคงติดต่อพี่น้องอยู่

ภาพจาก YouTube เหลือเฟือ ชาเเนล
แห้ว รีเจนซี่ เล่าว่า ตามข่าวมีการเล่าว่าตนไปเป็นแรงงานรายได้ต่ำ มีข่าวไปขายของที่ตลาดนัด ชีวิตตกอับ ไปทำงานที่ซูเปอร์มาร์เกตที่อเมริกา ไปเข็นผักนั้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย ความจริงคือตนไปทำงานอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เกต แผนกผัก ฉะนั้นการเข็นผักคือหน้าที่ธรรมดา แต่ไม่ใช่เข็นผักจนรวย
จากนั้นตนก็เก็บหอมรอมริบ จนได้กรีนการ์ด สำหรับอาศัยอยู่และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็กลับมาเยี่ยมพี่น้องที่ประเทศไทยบ้าง ตอนนั้นอยู่ลอสแอนเจลิส แล้วก็ได้แต่งงานกับคนไทยที่อเมริกา แล้วย้ายมาอาศัยอยู่นอร์ทแคโรไลนา ซื้อบ้านที่นี่เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่ลอสแอนเจลิสมาก
อย่างที่ลอสแอนเจลิส เงิน 3 แสนดอลลาร์ อาจจะได้แค่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว แต่ถ้าเป็นที่นอร์ทแคโรไลนา เงิน 2 แสนดอลลาร์ ได้บ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับแขก ใหญ่กว่ากันมาก
การใช้ชีวิตที่อเมริกาเราต้องดูแลตัวเอง ต้องพึ่งตัวเอง ถ้าเรามีวิชาติดตัว ที่นั่นจะขายง่าย อย่างขนมไทย อาหารไทย ฝรั่งจะชอบ เราก็เคยเรียนไปเป็นวิชาติดตัว และตอนนี้ตนก็ยังทำงานอยู่ เป็นเชฟซูชิ
สำหรับเรื่องลูกตนก็อยากมี แต่เมื่อมาถึงตรงนี้ถ้าไม่มีก็ไม่ฝืนแล้ว ตกลงกับภรรยาว่าคงไม่มีวาสนาแล้ว แต่ตนชอบเด็ก รักเด็ก สำหรับภรรยานั้นเป็นคนมีความสามารถในด้านธุรกิจ เป็นคนเก่ง เราเป็นคนที่เห็นความสำเร็จเขาอยู่ตลอดเวลา

ภาพจาก YouTube เหลือเฟือ ชาเเนล