ภาพจาก คุยแซ่บShow
ภาพจาก คุยแซ่บShow
- คุณแม่เป็นมาม่าบลูจนถึงลูก 8 เดือน ?
มะปราง : เป็นแบบไม่รู้ว่าเป็น คิดว่าคนมีลูกจะนิ่งขึ้นจริง ๆ เปล่า หนูเป็นมาม่าบลูโดยที่ไม่รู้ว่าหนูเป็น ตอนไหนได้ศึกษาธรรมะ ดูจิต ดูกาย ดูใจ เราจะรู้ว่าเป็นประมาณไหน แต่พอหลังคลอดได้ชุดความรู้จากแม่และผู้ใหญ่ว่าเราจะเปลี่ยนไปนะ เราก็คิดว่าเราอาจจะเปลี่ยนไป สิ่งที่สังเกตชัดคือเรามีความคิดที่ดาร์กมาก ดาร์กแบบเราเห็นลูกประสบอุบัติเหตุตลอดเลย สมัยก่อนหนูเห็นลูกวิ่งอย่างนี้ไม่ได้เลย หนูรู้สึกว่าลูกถึงขั้นเจ็บ ถึงขั้นตายเลย เดินผ่านบันไดหนูรู้สึกว่าลูกจะตกลงไปตาย เราเห็นอาการตรงนี้น่าจะเป็นความผิดปกติของฮอร์โมน
- เขาเปลี่ยนไปเยอะไหมกับตอนก่อนท้อง ?
คุณชร : เปลี่ยนไปไม่เยอะครับ เพราะเรามองไม่เห็นว่าเขารู้สึกยังไง เขาคิดอะไรอยู่ บางทีเขาจะเก็บเก่ง ด้วยความเป็นนักแสดง
มะปราง : พิจารณาตัวเองอยู่ค่ะ ดูอารมณ์น่าจะไม่ปกติ
- แล้วเราหายตอนไหน ?
มะปราง : อยู่ดี ๆ ตื่นเช้ามามันสดใสมาก
คุณชร : แล้ววันนั้นมาบอกว่าหายมาม่าบลูแล้ว
มะปราง : หนูไม่รู้ว่าหนูเป็น แต่วันนี้หนูหายแล้ว มันสดใส มันกลับมาเป็นมะปรางที่สดใส
- มะปรางป่วยบ่อยมาก เข้าโรงพยาบาลปีหนึ่งเกือบ 10 ครั้ง ?
มะปราง : บวก ๆ
ภาพจาก คุยแซ่บShow
มะปราง : จริง ๆ เป็นมาตลอดนะตั้งแต่ตอนถ่ายละคร แต่หนูแค่ไม่ได้ลงโซเชียล มันเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากอารมณ์หมดเลย ถ้าโกรธมาก ๆ กระเพาะทะลุ, ลำไส้อักเสบ, ลำไส้แปรปรวน ที่มาเจอหลังแต่งงาน เพราะมีเวลาว่าง พอมันมีเวลาอาการมันออกมาเยอะ ที่ผ่านมาไม่เคยว่าง มันมีความคิดหนึ่ง ถ้าไม่ว่าง ไม่ป่วย ช่วงนั้นป่วยทุกโรคเลย ช่วงโควิดเจอว่ามีการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ต้องส่องกล้อง กินยาเป็นเดือน ๆ เลยกว่าจะหาย แล้วก็กรดไหลย้อน ตรวจเจอว่าหัวใจช่องล่างหนูผนังทะลุ ทุกอย่างมันเกิดจากอารมณ์หมดเลย เพราะเราเล่นละครแบบที่เราเป็นตัวละคร แล้วหนูก็เป็นตัวร้ายทั้งหมด
- หัวใจทะลุมันคือโรคอะไร ?
มะปราง : มันคือการเบิร์นเยอะเกินไป
คุณชร : ใช้คำว่ามีรู แต่เล็กมาก
มะปราง : พวกนี้จะเป็นตั้งแต่กำเนิด แต่หนูดันเพิ่งเป็น
- ต้องรักษาอะไรเป็นพิเศษไหม ?
มะปราง : รักษาตามอาการ โชคดีไปเจอพระอาจารย์ ท่านแนะนำให้เรารู้จักวิธีเรียนรู้อารมณ์ ปรางเป็นนักแสดง ตอนแรกก็บอกว่าหนูรู้จักอารมณ์ดีอยู่แล้ว จะให้ร้องไห้ตอนนี้หนูก็ทำได้ แต่จริง ๆ มันคือการรู้จักอารมณ์แบบไม่บิดเบี้ยว ปรางเป็นคนจิตดี ชอบเป็นคนดี ชอบให้คนรัก ก็เลยรู้สึกว่าต้องเป็นคนดีสิ แต่พอเป็นตัวร้ายไปนาน ๆ ความร้าย ความคิด อิจฉา มันเข้ามาในร่างกายแบบไม่รู้ตัว พอพวกนี้เกิดขึ้นความเป็นคนดีก็ปัดทิ้ง มันคือการไม่เรียนรู้อารมณ์แบบแท้จริง พอมันสะสมไปเรื่อย ๆ มันเลยกลายเป็นแพนิก ซึมเศร้า
- พอรักษาโรคหัวใจทะลุก็ทราบว่าตัวเองเป็นแพนิก ซึมเศร้า มาทราบตอนอยู่บนทางด่วน ?
มะปราง : หนูขับรถไปทำงานคนเดียวตามปกติ ตอนขับอยู่ทางด่วนตรงเลียบด่วนที่เป็นทางโค้งสูง ๆ อยู่ดี ๆ หนูหายใจไม่ออก เพราะเหมือนเห็นมันสูงมาก มือสั่น เหงื่อแตกเยอะจนพวงมาลัยลื่นเลย แล้วหายใจถี่ หายใจไม่ออก เหมือนจะเป็นลม ขับได้แค่ 20 เองมั้ง แล้วคันหลังก็บีบแตร กูจะตายอยู่แล้วอย่าเพิ่งบีบแตร แต่ก็ประคองตัวเองจนถึงบ้าน
ภาพจาก คุยแซ่บShow
- เป็นบ่อยไหม ?
มะปราง : ครั้งแรกเลย หลังจากนั้นหนูก็พบแพทย์เลยว่าเป็นอะไร ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยเป็น แต่มีฝันว่าตกทางด่วนบ่อย ๆ พอเราไปตรวจเราถึงรู้ว่าเราเป็นแพนิก เป็นขาลงของซึมเศร้า
- คุณหมอรักษายังไงบ้าง ?
มะปราง : ก็มียา กินยาตามอาการ ปรางโชคดีที่มีกัลยาณมิตรดี ปรางเจอพี่เงาะ แกบอกว่าแปลก ๆ นะเรา แล้วพาไปเจอกับพระอาจารย์ต้น ท่านเมตตามาก ตอนนั้นท่านลูกศิษย์เยอะมาก แต่ก็มาถามว่าสุขภาพเป็นไงบ้าง ก็ปกติดี ตอนนั้นเราคิดว่าการเป็นโรคนี้ไม่ได้เป็นปัญหา เดี๋ยวกินยาก็หาย คุยไปสักพักท่านก็ถามว่าเวลาโกรธจัดการยังไง ก็บอกว่าเวลาโกรธจะไม่ยอมให้ตัวเองโกรธ เพราะชอบเป็นสุขนิยมก็ปัดอารมณ์ทิ้ง ทำให้ตัวเองมีความสุข ตอนเสียใจก็ไม่อยากเสียใจ ก็พยายามมีความสุขให้ได้เลย พระอาจารย์บอกว่าอันนี้เป็นซึมเศร้าแล้วนะ แล้วคุยต่อพระอาจารย์บอกว่าแบบนี้ต้องเป็นแพนิกแล้วนะ เราก็คิดว่าพระอาจารย์องค์นี้แม่นมาก ศรัทธาเลย สงสัยจะดูดวงแม่น ไม่ จริง ๆ คืออาการผิดปกติทางอารมณ์มันจะทำให้เกิดแบบนี้ทุกคนอยู่แล้ว ท่านสอนให้ระลึกเพื่อสร้างสติ เพื่อเอาสติไปรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเรา เพราะปรางไม่รู้อารมณ์ตัวเองแบบแท้จริง ซึ่งพอรู้มันหนูไม่มีอาการอะไรเลย จนไม่ต้องกินยา ไม่มีอาการ ไม่ใช่แค่อาการทางอารมณ์เนาะ อาการทางกายด้วย
- ตอนนี้อาการป่วยมันดีขึ้น มีแพลนจะกลับมาทำงานในวงการไหม ?
มะปราง : ติดใจคนนี้อยู่ ให้เขาเข้าโรงเรียนก่อนแล้วค่อยว่ากัน
- สัญญาหมดหรือยัง ?
มะปราง : วันนี้นี่แหละที่จะไปต่อ จริง ๆ เราทำงานกับที่อื่นได้ แต่เล่นละครกับทางช่อง
- เราจะได้เห็นมะปรางกลับมาเล่นละครไหม ?
มะปราง : วันหนึ่งหนูจะต้องคิดถึง แต่ก็ต้องสักพัก
ภาพจาก คุยแซ่บShow
มะปราง : ตอนนี้หนูรับมือไหวแล้วค่ะ
- มะปรางจัดการอารมณ์ด้วยการใช้ธรรมะ ?
มะปราง : จริง ๆ ที่ผ่านมาได้ทั้งหมดต้องขอบคุณพี่ชรด้วย เพราะไม่ว่าเราจะดี จะเลวยังไง นางอยู่ด้วยตลอด สมัยที่เรามูเตลูแบบสุดใจ นางก็พาเราไป ทั้งที่จริง ๆ นางไม่อะไรกับเรื่องพวกนี้เลย
ภาพจาก คุยแซ่บShow
ภาพจาก คุยแซ่บShow
ภาพจาก คุยแซ่บShow
ภาพจาก คุยแซ่บShow
ภาพจาก คุยแซ่บShow






